เลือกกระบอกน้ำสำหรับเด็ก ไว้พกติดตัวไปโรงเรียน
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
กระบอกน้ำหนึ่งในของสำคัญที่พ่อแม่ควรให้ลูก ๆ พกติดตัวไปโรงเรียน เพื่อที่พวกเขาจะได้สามารถจิบน้ำในยามหิวกระหายโดยไม่ต้องเสียเวลาไปหาซื้อ หรือเสี่ยงกินน้ำก็อกร่วมกับคนอื่นที่อาจมีปัญหาในเรื่องของสุขอนามัย โดยหากคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนที่กำลังหาซื้อกระบอกน้ำสำหรับเด็ก วันนี้เราก็มีเหตุผลดี ๆ เกี่ยวกับอุปกรณ์ชนิดนี้มาฝากกัน
กระบอกน้ำสำหรับเด็ก
เมื่อดูสินค้าระหว่างกระบอกน้ำสำหรับผู้ใหญ่และกระบอกน้ำสำหรับเด็กจะสามารถสังเกตเห็นได้ถึงความต่างอย่างชัดเจน โดยกระบอกน้ำสำหรับผู้ใหญ่นั้นมักจะมีการผลิตในลักษณะที่ดูเรียบหรู ใช้วัสดุคุณภาพ มีความแข็งแรงทนทาน สามารถจุน้ำได้เยอะ ในขณะที่กระบอกน้ำสำหรับเด็กนั้นมักจะมาในรูปแบบของกระบอกน้ำพลาสติกขนาดเล็ก มีดีไซน์น่ารักตกแต่งด้วยลายการ์ตูน พร้อมฟังชั่นการใช้งานที่มีลูกเล่น เพื่อความสนุกของเด็ก ๆ รวมถึงปริมาณการจุน้ำก็มีน้อยกว่าเพราะต้องการให้มีน้ำหนักเบา สามารถพกพาได้สะดวกยิ่งขึ้น
ทำไมถึงควรให้เด็ก ๆ มีกระติกน้ำประจำตัว
เด็กในวัย 6-12 ปี จะอยู่ในวัยที่ใช้เวลากับการเรียนรู้และออกกำลังกาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการทำกิจกรรมเล่นกลางแจ้ง โดยถือเป็นเรื่องที่ดีแล้วเพื่อให้พวกเขามีพัฒนาการทางด้านร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง แต่เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอากาศร้อน การระวังอาการขาดน้ำไปจนถึงฮีทสโตรก จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรประมาท เนื่องจากเด็ก ๆ ยังไม่สามารถดูแลตนเองได้ จึงเป็นเรื่องน่ากังวลหากพวกเขาไม่สามารถหาน้ำดับกระหายในยามที่ร่างกายขาดน้ำ
ขณะเดียวกันก๊อกน้ำดื่มสาธารณะที่โรงเรียนเองก็ยังเป็นที่น่ากังวลในด้านสุขอนามัย ไม่ว่าจะมาตรฐานความสะอาดของน้ำ รวมถึงปากก็อกที่ผ่านการดื่มจากผู้คนมากมาย มันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมลูก ๆ ของคุณถึงควรมีกระบอกน้ำส่วนตัว
วิธีการเลือกกระบอกน้ำสำหรับเด็ก
จริงอยู่ที่กระบอกน้ำสำหรับเด็กมักขายในราคาถูก เนื่องจากผู้ปกครองส่วนใหญ่มองว่ามันเป็นของที่เด็ก ๆ ชอบทำพัง หรือไม่ค่อยได้ก็ใช้เมื่อไม่ได้ออกไปข้างนอก แต่ถ้าหากเลือกสินค้าดีมีคุณภาพ ก็ช่วยเพิ่มความคุ้มค่าและอายุการใช้งานให้สามารถใช้ต่อไปในหลาย ๆ โอกาส ยันลูกของท่านโตด้วยการซื้อกระบอกน้ำเพียงครั้งเดียว
1.เลือกกระบอกน้ำที่มีความทนทาน
ตรวจสอบวัสดุของภาชนะว่ามีความแข็งแรงทนทานหรือไม่ หากผลิตจากพลาสติกก็ควรมีพื้นผิวหนาสามารถรับแรงกระแทกเมื่อตกสู่พื้นได้ นอกจากนี้ควรเลือกกระบอกน้ำที่มีฟังชั่นการใช้งานไม่ซับซ้อนมาก เพราะมันมีข้อบกพร่องเมื่อใช้ไปนาน ๆ แนะนำว่าให้เลือกแบบที่ใช้งานง่ายอย่างเปิดน้ำรินลงฝาแล้วดื่ม เป็นต้น
2.ตรวจสอบฉลากมาตรฐานการผลิต
ความปลอดภัยของเด็ก ๆ เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะถึงแม้มองด้วยตาอาจจะดูเป็นเหมือนกับกระบอกน้ำธรรมดา แต่ในกลุ่มสินค้าราคาถูกที่ผลิตจากพลาสติก อาจพบสารตกค้างจำพวก BPA ดังนั้นหากเลือกกระบอกน้ำพลาสติกก็ควรดูสินค้าที่ไม่ผลิตจากพลาสติก BPA หรือเขียนคำว่า "BPA Free" รวมถึงการมองหาฉลากมาตรฐานการผลิตอย่าง มอก. ก็จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น
3.เลือกความจุที่พกพาได้
เพื่อให้การทำกิจกรรมเป็นไปอย่างราบรื่น ผู้ปกครองควรเลือกกระบอกน้ำที่มีขนาดพอดีไม่ใหญ่จนเกินไป เพราะหากจุมากจะส่งผลต่อน้ำหนักให้เป็นภาระต่อการพกพาได้นั่นเอง
4.เลือกรูปทรงที่สะดวกต่อการพกพา
นอกจากเรื่องของน้ำหนักแล้ว รูปทรงของกระบอกน้ำก็สำคัญด้วยเช่นกัน โดยกระบอกน้ำควรมีรูปทรงลักษณะเรียวยาวเพื่อให้ง่ายต่อการใส่กระเป๋าและพกติดตัวเวลาทำกิจกรรมได้ตลอดเวลา
เพียงเท่านี้ท่านก็สามารถเลือกซื้อกระบอกน้ำสำหรับเด็ก ไว้ให้ลูกพกติดตัวไปใช้ดื่มที่โรงเรียนได้อย่างปลอดภัย และยังช่วยเสริมสร้างความรับผิดชอบต่อตนเอง รวมถึงประหยัดเงินค่าซื้อน้ำดื่มได้อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก https://bottle-perfect.com/