“เศรษฐา”วางแผนยกระดับการศึกษาไทย มุ่งลดความเหลื่อมล้ำ
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
นายกรัฐมนตรี DailynewsTalk2023 มองทิศทางการศึกษาไทยต้องผลิตผู้เรียนตอบโจทย์ประเทศ พร้อมขจัดความเหลื่อมล้ำ ดึงเด็กหลุดระบบเข้าสู่ห้องเรียน
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่โรงแรมอินเตอร์คอนดิเนนตัล ราชประสงค์ เดลินิวส์ จัดงาน DailynewsTalk2023 “คนไทยถาม นายกฯ เศรษฐาตอบ” โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในการเสวนาดังกล่าวถึงถึงการยกระดับทิศทางการศึกษาไทยว่า ต้องยอมรับว่าปัญหาการศึกษาเป็นปัญหาหนึ่งที่สะสมมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะการปฎิรูปการศึกษาไปให้สู่ความสำเร็จ แม้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะเป็นกระทรวงที่ได้รับงบประมาณจำนวนมากก็ตาม แต่งบประมาณส่วนใหญ่เป็นงบของเดือนครู และแม้ว่าเมื่อเร็วๆนี้นี้ผลประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล หรือ PISA (Programme for International Student Assessment) จะมีผลคะแนนของเด็กไทยร่วงต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานนั้น ก็คงไม่ใช่แค่เราจะต้องยกระดับคะแนนพิซาเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการยกระดับขีดความสามารถทักษะทางภาษาอังกฤษด้วย ทั้งนี้เราจะต้องไปดูกันที่หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่าเป็นอย่างไร และจะต้องปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัยตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานให้มากขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า สำหรับปัญหาการศึกษาไทยเราต้องพัฒนาและยกระดับในหลายเรื่องให้ครอบคลุมทุกมิติ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเราต้องใช้เวลาในการพัฒนา โดยตนได้มีการหารือกับพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ แล้วว่าจะมีแนวทางพัฒนาการศึกษาไทยไปในทิศทางไหน โดยเบื้องต้นจะทำเวิร์ดช็อปด้านการศึกษา รวมถึงวางแผนการทำงานตั้งแต่ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ว่าการศึกษาไทยจะเดินหน้าไปในรูปแบบไหน ดังนั้นอยากให้ทุกภาคส่วนเข้ามาช่วยกัน ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่าปัญหาการศึกษาไทยเรื่องงบประมาณก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่จุดเริ่มต้นไม่ใช่แค่เอาคะแนนของเด็กมาเป็นตัวตั้ง แต่ปัญหาการศึกษาไทยเกิดจากความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เด็กบางคนไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้เท่ากับเด็กในเมือง ดังนั้นเราต้องขจัดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้ได้ เพราะขณะนี้มีเด็กล้านกว่าคนที่หลุดออกจากระบบการศึกษา ซึ่งตนจะนำเด็กที่หลุดจากระบบให้เข้าสู่ระบบการศึกษาให้ได้มากที่สุด ซึ่งได้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ได้เข้ามาช่วยบริหารจัดการอีกทางหนึ่งด้วย
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 13 ธันวาคม 2566 เวลา 10:41 น.