LASTEST NEWS

21 ธ.ค. 2567ปฏิทินการจ่ายเงินเดือนข้าราชการและค่าจ้างลูกจ้างประจำ ประจำปี 2568 20 ธ.ค. 2567สพป.บึงกาฬ เรียกบรรจุครูผู้ช่วย (ขอใช้บัญชี สพม.หนองคาย) จำนวน 3 อัตรา - รายงานตัว 2 มกราคม 2568 20 ธ.ค. 2567​​​​​​​กรมบัญชีกลาง เปิดสอบพนักงานราชการ 27 อัตรา ไม่ต้องผ่าน ภาค ก ตั้งแต่ 3 - 24 มกราคม 2568 19 ธ.ค. 2567สพป.บุรีรัมย์ เขต 1 ขอใช้บัญชีครูผู้ช่วย เขตอื่น ใช้บรรจุ 2 วิชาเอก 13 อัตรา รายงานตัว 26 ธันวาคม 2567 19 ธ.ค. 2567สพป.มหาสารคาม เขต 2 เผยบัญชีตำแหน่งว่างใช่บรรจุครูผู้ช่วย รอบที่ 5  19 ธ.ค. 2567สพป.อุดรธานี เขต 4 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 45 อัตรา 18 ธ.ค. 2567ผู้บริหาร สพฐ. ร่วมประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 10/2567 18 ธ.ค. 2567สพม.สงขลา สตูล เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 10 อัตรา - รายงานตัว 24 ธันวาคม 2567 18 ธ.ค. 2567กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดสอบบรรจุเข้ารับราชการ 21 อัตรา สมัครทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2567 - 21 มกราคม 2568 18 ธ.ค. 2567 โอกาสดีมาถึงแล้ว!  ทุนเรียนต่อครู สควค. ม.เกษตรศาสตร์ เปิดรับสมัครทั่วประเทศ จบแล้วบรรจุเป็นครูทันที! สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ - 10 ม.ค. 2568

ประโยชน์ "ส่วนตัว" หรือ "ส่วนรวม"

  • 15 ม.ค. 2556 เวลา 09:18 น.
  • 2,532
ประโยชน์ "ส่วนตัว" หรือ "ส่วนรวม"

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

57 ปี “วันครู ”บทบาท“แม่พิมพ์ไทย” บนทางสองแพร่งท่ามกลางสังคมทุนนิยม
 
“ถ้าครูไม่ห่วงประโยชน์ที่ควรจะห่วง หันไปห่วงอำนาจ ห่วงตำแหน่ง ห่วงสิทธิ์ และห่วงรายได้กันมากเข้าๆ แล้วจะเอาจิตใจที่ไหนมาห่วงความรู้ ความดี ความเจริญของเด็ก ความห่วงในสิ่งเหล่านั้นก็จะค่อยๆบั่นทอนทำลายความเป็นครูไปจนหมดสิ้น จะไม่มีอะไรดีเหลือไว้พอที่ตัวเองจะภาคภูมิใจ หรือผูกใจใครไว้ได้ ความเป็นครูก็จะไม่มีค่าเหลืออยู่ให้เป็นที่เคารพบูชาอีกต่อไป”
 
พระราชดำรัส ใน พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ที่พระราชทานแก่ครูอาวุโส ในโอกาสเข้าเฝ้าฯ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม 2521
 
อีกเพียงวันเดียว ก็จะถึง “วันครู” 16 มกราคม ซึ่งปีนี้จะครบ 57 ปี “ทีมการศึกษา” ขออัญเชิญพระราชดำรัสที่ทรงมีต่อเพื่อนครูเมื่อ 25 ปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจบรรดาเพื่อนครูทั้งหลายให้ตระหนักถึงภาระหน้าที่ ตลอดจนเกียรติและความภาคภูมิใจอันสำคัญยิ่งของตนเอง
 
เพราะ “ครู” เป็นปูชนียบุคคลที่มีความสำคัญที่ให้การศึกษาเรียนรู้ ทั้งในด้านวิชาการ และประสบการณ์ ตลอดจนเป็นผู้มีความเสียสละ ดูแลเอาใจใส่สั่งสอนอบรมให้เด็กได้พบกับแสงสว่างแห่งปัญญา อันจะเป็นหนทางในการประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเอง รวมทั้งการนำพาสังคมประเทศชาติก้าวไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง
 
 
และด้วยความสำคัญที่ครูได้สร้าง “คุณูปการ” ที่ยิ่งใหญ่มากมายต่อสังคมและประเทศชาติ จึงมี การกำหนดให้มี “วันครู” ขึ้น ในปี พ.ศ.2499 สมัยรัฐบาล จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี และยังดำรงตำแหน่งประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์อีกด้วย โดยมีแนวคิดต้องการให้มีวันครูขึ้น เพื่อแสดงความกตัญญู-กตเวที และให้ครูเป็นผู้ได้รับการยกย่องเชิดชูในสังคม ซึ่งแนวคิดดังกล่าวยังสอดคล้องกับ ผู้แทนคณะครูทั่วประเทศในคราวประชุมสามัญของคุรุสภา เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2499 ในที่สุดจึงได้มีการกำหนดให้มี “วันครู” ขึ้น ในวันที่ 16 มกราคม ของทุกปี โดย คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2499 และเริ่มจัดงานวันครูครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2500
 
หากนับย้อนหลังกลับไป ปีนี้นับเป็นปีที่ 57 ที่มีการจัดงานวันครู 16 มกราคมอย่างต่อเนื่องกันมาทุกปี โดยเฉพาะปีนี้ซึ่งถือเป็นอีกปีหนึ่งที่มีความสำคัญยิ่ง เนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้จัดกิจกรรมขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ “พระแม่แห่งแผ่นดิน ผู้ทรงเป็นครู” สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2555 ทั้งยังได้มีการจัดงาน “ยอดครูผู้มีอุดมการณ์” เพื่อระลึกถึงคุณบูรพาจารย์ และส่งเสริมเชิดชูเกียรติครูและวิชาชีพครู
 
โดยคุรุสภากำหนดให้มีการจัดกิจกรรมทั้งในส่วนกลาง และต่างจังหวัด ระหว่างวันที่ 12-16 ม.ค.นี้ ซึ่งกิจกรรม มีทั้ง การทำบุญตักบาตรเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับปฐมบูรพคณาจารย์ และครูผู้ที่เสียสละต่อวงการการศึกษา การประกวดวาดภาพ การคัดเลือกผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาเพื่อเข้ารับการยกย่องเป็น “ยอดครูผู้มีอุดมการณ์” การคัดเลือกครูเพื่อเข้ารับรางวัล “คุรุคุณธรรม” เข็มทอง การมอบรางวัลหนึ่งแสนครูดี หรือแม้แต่การคัดเลือกครู และโรงเรียนเพื่อเข้ารับรางวัล “หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” เป็นต้น โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะร่วมเป็นประธานในกิจกรรมวันครู วันที่ 16 มกราคม ที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการหันกลับมามองในมุมของการทำหน้าที่และบทบาทขอครูท่ามกลางกระแสทุนนิยม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สังคมต้องการเบ้าหล่อหลอมเยาวชนเพื่อให้เติบโตเป็นคนดีมีคุณภาพของสังคมบ้าง
 
 
จากผลสำรวจความคิดเห็นเรื่อง ความเชื่อมั่นครูไทยในปี 2555 ของสวนดุสิตโพล พบว่า ภาพรวมประชาชนให้คะแนนดัชนีครูไทยอยู่ที่ 7.86 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 แม้จะมีคะแนนเพิ่มสูงขึ้นแบบแทบไม่ขยับจากปีที่ผ่านมาที่ได้คะแนน 7.85 แต่ประเด็นที่สังคมเฝ้าติดตาม และอยากให้ครูได้ปรับปรุงตัวเองก็มีทั้ง การไม่อยากให้ครูเป็นหนี้สิน อยากให้มีการปรับในเรื่องของการแสดงออกทางอารมณ์และการควบคุมอารมณ์ การมีทัศนคติที่ดีต่อนักเรียน เข้าใจนักเรียนมากขึ้น มีความเมตตา และมีจิตใจโอบอ้อมอารี รวมไปถึงการเอาใจใส่ดูแลให้ความรักต่อนักเรียนอย่างที่ควรจะเป็น สำคัญที่สุดก็คือ การเป็นผู้ที่มีอุดมการณ์ จิตสำนึก และรักในวิชาชีพ
 
นั่นคือเสียงสะท้อนของสังคมต่อบรรดาแม่พิมพ์ ว่าที่ผ่านมาครูอาจจะเรียกร้องสิทธิ์ที่พึงมีพึงได้ เพื่อชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่กลับหลงลืมนึกถึงการทำหน้าที่ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นครูอย่างแท้จริงไปแล้ว
 
ขณะเดียวกันก็มีวลีที่สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมครูยุคใหม่ที่ว่า “สอนติวเป็นงานหลัก สอนลูกศิษย์รักในชั้นเรียนเป็นงานรอง”
 
แน่นอนว่า ในทุกสังคม และทุกวิชาชีพ ย่อมมีทั้งคนดีและคนเลว และแม้จะมีเพียง บางส่วนของแม่พิมพ์ที่มีพฤติกรรมผิดเพี้ยน แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้กับคำถามถึงบทบาทและการทำหน้าที่ของแม่พิมพ์ในวันนี้ ว่าครูได้ทำหน้าที่เพื่อลูกศิษย์ลูกหาสมกับการเป็นปูชนียบุคคลแล้วหรือยัง?
 
ในโอกาสวันครู 16 มกราคม 2556 ทีมการศึกษา ขอส่งแรงใจไปยังบรรดาแม่พิมพ์ของชาติ พร้อมความหวังที่จะเห็นแม่พิมพ์ไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสมดั่งที่ตั้งใจไว้ ทั้งมีเกียรติ ศักดิ์ศรี และความภาคภูมิใจในความเป็นครู
 
 
ขณะเดียวกันเราก็ขอฝากเพื่อนครูทั้งหลาย ต้องไม่หลงลืมที่จะตระหนักถึงหน้าที่ จรรยาบรรณ ด้วยจิตสำนึกที่ดีในอันที่จะเป็นต้นแบบ และหล่อหลอมเยาวชนให้เติบโตเป็นอนาคตที่ดีและมีคุณภาพของประเทศชาติ
 
เพราะวันใดก็ตามที่ครูหลงลืมหน้าที่และจรรยาบรรณที่ได้ปฏิญาณ และคิดหวังแต่ประโยชน์ส่วนตนแล้ว
 
วันนั้น คือ การเริ่มต้นนับถอยหลังของประเทศไทย!!!.
 
 
 
  • 15 ม.ค. 2556 เวลา 09:18 น.
  • 2,532

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ : ประโยชน์ "ส่วนตัว" หรือ "ส่วนรวม"

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^