ศธ.เปิดโอกาสทางการศึกษา ชูนโยบาย'เรียน ม.6 จบได้ใน 8 เดือน'
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
อดีตรัฐมนตรี ศธ.เผยภูมิใจนโยบาย"เรียน ม.6 จบได้ใน 8 เดือน" รัฐมนตรี ศธ.คนใหม่สานต่อ เริ่มรับสมัครนักศึกษาในต้นปี 2556 นี้ ตั้งเป้าหมายจะรับกว่า 150,000 คน...
ศ.ดร.สุชา ติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า หนึ่งในนโยบายที่ผมภาคภูมิใจเป็นอย่างมากก็คือ"เรียน ม.6 จบได้ใน 8 เดือน" เรียนในเวลา และนอกเวลา เพื่อก้าวทันโลก และทันลูกหลาน มีความยินดีที่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ ศ.บุนทัน ดอกไทสง ได้ประกาศโครงการ “เรียนจบ ม.6 ได้ใน 8 เดือน” เมื่อ เร็วๆ นี้ โดยจะเริ่มรับสมัครนักศึกษาในต้นปี 2556 นี้ โดยในปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายจะรับกว่า 150,000 คน ซึ่งนโยบายนี้ ศ.บุนทัน และตน ได้นำเสนอพรรคเพื่อไทย ในระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง เมื่อกลางปี 2554 และได้พบประชาชน ที่จบการศึกษาเพียงแค่ชั้น ป.6 แล้ว ไม่มีโอกาสเรียนต่อ เนื่องจากฐานะยากจน ต้องออกมาช่วยครอบครัวทำมาหาเลี้ยงชีพ จนไม่สามารถเรียนหลักสูตรปกติในโรงเรียนมัธยมศึกษาได้
ศ.ดร.สุชา ติ กล่าวต่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่ให้การตอบรับจำนวนมาก เหมือนเป็นโอกาสใหม่ในชีวิต เมื่อไปค้นสถิติดูก็พบว่าพี่น้องประชาชนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว คืออายุกว่า 20 ปีแล้ว ทีไม่จบ ม.6 มีถึงกว่า 18 ล้านคน ก็ยิ่งน่าตกใจ เพราะประเทศไทยจะเข้าสู่การเป็นเขตเศรษฐกิจรวม ที่เรียกอาเซียน โดยผู้คนสามารถไปทำงานที่ไหนก็ได้ใน 10 ประเทศเพื่อนบ้านเรา เขตการแข่งขันทางเศรษฐกิจ และตลาดแรงงานจะใหญ่ขึ้นจาก 65 ล้านคน ในประเทศไทย เป็น 600 ล้านคนของ 10 ประเทศอาเซียน ปรากฏว่านอกจากพี่น้องผู้ใหญ่ 18 ล้านคน ที่ไม่จบ ม.6 โดยต้องใช้วุฒิแค่ ป.6 กลับ มีประสบการณ์ ความสามารถมากมาย หลายคนเป็นชาวนา เกษตรกร ที่มีความรู้มากมายหาตัวจับยาก บางคนเป็นช่างเฉพาะเช่น ช่างไม้ ช่างเชื่อม ช่างปั้น มีความเชี่ยวชาญมาก มาเป็นครูพิเศษสอนให้ กศน. เป็นเวลานานหลายปี ซึ่งความรู้เฉพาะเหล่านี้น่าจะเทียบความรู้ได้ ไม่ต้องเรียนซ้ำ หรือที่ระดับมหาวิทยาลัยเรียกว่าเทียบโอนหน่วยกิต
ดังนั้น หากบางส่วนได้เทียบโอนความรู้ โครงการเรียน ม.6 (จาก ป.6) จึงอาจสามารถจบใน 8 เดือนได้จริง และบางคนก็อาจจบได้ใน 4-5 เดือน ด้วย ถ้ามีความรู้ประสบการณ์มากจริงๆ นี่คือ ที่มาของนโยบาย "จบ ม.6 ได้ใน 8 เดือน" เพื่อให้ประชาชนที่ขาดโอกาสทางการศึกษามีกำลังใจที่จะเรียนอย่างแน่วแน่ โดยให้สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ออกข้อสอบด้วย เพื่อให้ได้มาตรฐาน ให้ได้รับความเชื่อถือ ศ.ดร.สุชาติกล่าว.