สพฐ.ปลื้มรร.ขนาดเล็กใช้ครูตู้เพิ่มคุณภาพการเรียน
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
สพฐ.ปลื้ม โรงเรียนขนาดเล็กใช้ครูตู้เพิ่มคุณภาพ ชุมชนเชื่อมั่น เด็กเพิ่มทุกปี
เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ตนได้เยี่ยมให้กำลังใจและติดตามการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน ณ โรงเรียนบ้านหัวฝาย ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็กในสังกัด สพป.เชียงใหม่ เขต 2 โดยมี ผอ.ศพก. และทีมวิชาการ รองเลขาธิการ กพฐ. ร่วมลงพื้นที่ พร้อมทั้ง ผอ., รอง ผอ.สพป.เชียงใหม่ เขต 2 ผอ.โรงเรียน และครู ร่วมให้ข้อมูลการดำเนินงาน โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 มีโรงเรียนในสังกัด จำนวน 131 โรงเรียน เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก จำนวน 59 โรง และโรงเรียนอื่นๆ ที่ไม่ใช่โรงเรียนขนาดเล็ก แต่ใช้การจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม DLTV จำนวน 22 โรงเรียน
รองเลขาธิการกพฐ.กล่าวต่อไปว่า จากการเยี่ยมโรงเรียนบ้านหัวฝาย นั้น พบว่าโรงเรียนมีผลการดำเนินงานที่เห็นเชิงประจักษ์ ทั้งคุณภาพของผู้เรียน ผู้เรียนได้รับความรู้ และพัฒนาศักยภาพทั้งในด้านวิชาการ ด้านทักษะอาชีพ และด้านทักษะชีวิต โดยเห็นได้จากนักเรียนทุกคนสามารถอ่านออกเขียนได้ มีผลสัมฤทธิ์ที่เพิ่มขึ้น มีผลการทดสอบระดับชาติที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศ และยังรวมไปถึงการพัฒนาส่งเสริมพัฒนาการและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของเด็ก ความรับผิดชอบ การตอบคำถาม การมีปฏิสัมพันธ์ที่ดี ชี้ให้เห็นถึงพัฒนาการที่ถูกบ่มเพาะมาจากการจัดการเรียนรู้ที่ดี ชุมชนเกิดความเชื่อมั่น สร้างศรัทธาให้เครือข่าย เกิดความร่วมมือที่เข้มแข็ง ทำให้มีสิ่งที่ทำให้เกิดความพร้อมในการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ เห็นได้จากจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นในทุกปีการศึกษา ตั้งแต่ปี 2562 จำนวน 80 คน ปี 2563 จำนวน 112 คน ปี 2564 จำนวน 158 คน ปี 2565 จำนวน 206 คน และปี 2566 จำนวน 250 คน ทางโรงเรียนมีการบริหารจัดการที่ดีจนเกิดผลลัพธ์ข้างต้น โดยใช้การบริหารจัดการที่ใช้หลักการบริหารและน้อมนำศาสตร์พระราชาเข้ามาใช้ ร่วมกับการบริหารโดยใช้นวัตกรรมของโรงเรียนได้แก่ นวัตกรรม LED (อนุบาล) และนวัตกรรม 38 model (ประถม) ซึ่งครบทุกองค์ประกอบ
นอกจากนี้โรงเรียนยังให้ความสำคัญกับการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา ให้สอดคล้องกับ DLTV และจุดเน้นของสถานศึกษา โดยโรงเรียนมีการดำเนินการในแต่ละระดับด้วยความแตกต่างอย่างเหมาะสม โดยในระดับอนุบาล จะใช้ DLTV แบบบูรณาการเฉพาะในบางกิจกรรม โดยครูผู้สอนจะต้องศึกษาและดูคู่มือและคลิปการสอนล่วงหน้าก่อนการเรียนรู้จริง เพื่อเตรียมอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม ขณะที่ระดับประถมศึกษา จะใช้ DLTV แบบถ่ายทอดสดตามตารางและดูย้อนหลังผ่านเว็บไซต์ของ DLTV เน้นกลุ่มสาระการเรียนรู้ 4 วิชาหลัก ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และภาษาต่างประเทศ และที่สำคัญหากนักเรียนตามไม่ทันในบางช่วงของบทเรียนจากต้นทาง ครูยังมีการสอนเสริมเติมเต็มให้กับนักเรียนอีกด้วย ส่วนในช่วงบ่ายนั้น จะเป็นการบูรณาการตามจุดเน้นสถานศึกษา ได้แก่ การส่งเสริมทักษะอาชีพ การส่งเสริมทักษะภาษา ลูกเสือ-เนตรนารี จิตอาสา ส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมด้วยกิจกรรมพระสอนศีลธรรม ซึ่งสอดคล้องกับตัวชี้วัดคุณภาพผู้เรียนของ สพฐ. โดยนายอัมพร พินะสา เลขาธิการ กพฐ. อีกด้วย
นางเกศทิพย์ กล่าวต่อไปว่า รู้สึกชื่นชม ผอ.โรงเรียนไม่มองปัญหาทุกอย่างเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาโรงเรียนและคุณภาพของนักเรียน แต่ในทางตรงกันข้ามได้ใช้การสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็ง เข้ามาช่วยดูแลสนับสนุนสร้างคุณภาพลงสู่นักเรียนอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ มูลนิธิกำลังใจ (ดร.ละมุน ลื่อสุขประเสริฐ) มูลนิธิกระจกเงา บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น บริษัท ท่อน้ำไทย บริษัท SLP อิฐมวลเบา โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนอเมริกา คุณปัญญดา จินนะ กลุ่มจิตอาสา
ภาครัฐ เช่น นักศึกษามหาวิทยาลัย เป็นต้น รวมถึงผอ. ครูและบุคลากรของโรงเรียนที่มุ่งมั่นในการพัฒนาโรงเรียนให้มีคุณภาพ จนสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ปกครอง ชุมชน และเครือข่าย จนเกิดผลสำเร็จทั้งด้านคุณภาพและปริมาณของนักเรียนที่เพิ่มสูงขึ้นในทุกๆ ปี อีกทั้งผู้บริหารและคณะครูให้ความสำคัญกับการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ DLTV ครบทุกชั้นเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 2 จนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพื่อให้โรงเรียนมีคุณภาพ และมีการจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นักเรียนสามารถตอบคำถามได้ทันที โดยเรียนรู้จากการจัดการเรียนสอนผ่าน DLTV ทั้งจากครูต้นทางและครูปลายทาง แสดงให้เห็นว่า ทางโรงเรียนไม่ได้สอนให้นักเรียนได้เรียนรู้จากการท่องจำเท่านั้น แต่เน้นให้ฝึกจากกระบวนการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และตอบคำถามได้เอง และโรงเรียนไม่เพียงแต่พัฒนาวิชาการของผู้เรียนเท่านั้น ยังพัฒนาทักษะอาชีพและทักษะชีวิตให้นักเรียนด้วย
นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านประตูด่าน สพป.กาญจนบุรี เขต 1 ที่มีการดำเนินการจัดการเรียนการสอนด้วย DLTV ใน 4 วิชาหลัก ส่งผลให้คะแนน O-NET ปี 2565 วิชาคณิตศาสตร์สูงกว่าระดับประเทศ โดยโรงเรียนได้ถอดบทเรียนความสำเร็จที่เกิดขึ้น และต่อยอดสู่การพัฒนานักเรียนในรายวิชาอื่น ๆ ด้วย โดยในปีการศึกษา 2566 นี้ โรงเรียนได้กำหนดเป้าหมาย วางแผน และขับเคลื่อนในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ในวิชาวิทยาศาสตร์ให้มีคะแนน O-NET สูงกว่าระดับประเทศ ทำให้ผู้ปกครอง ชุมชน มีความเชื่อมั่นในคุณภาพของโรงเรียนส่งผลให้จำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้น จากปี 2562 ซึ่งเดิมมีนักเรียน 88 คน ปัจจุบันปี 2566 มีนักเรียน 179 คน ทั้งสองโรงเรียนแสดงให้เห็นว่าคุณภาพที่เกิดขึ้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของโรงเรียน และไม่มีคำว่าขาด แต่อย่างใด แต่เกิดจากความมุ่งมั่น ของผู้บริหาร ความตั้งใจในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของครู และเขตพื้นที่ส่งเสริมสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
“นอกจากการบริหารจัดการของโรงเรียนแล้ว การทำงานร่วมกับเขตพื้นที่ก็สำคัญ โดยสพป.เชียงใหม่ เขต 2 ได้จัดการพัฒนาเรื่องการจัดการเรียนการสอนแบบ DLTV และมีการกำกับ นิเทศ ติดตามเป็นพี่เลี้ยงของศึกษานิเทศก์อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือกันพัฒนาการศึกษาของโรงเรียนจนเห็นผลสำเร็จที่ลงสู่นักเรียนอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม รวมถึงการติดตาม ส่งเสริม สนับสนุนที่ดีของเขตพื้นที่ อย่างเช่น สพป. กจ.1 ที่ไม่ใช่แค่จำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น แต่ด้วยการร่วมกันทำงานอย่างมีเป้าหมายความสำเร็จของนักเรียนเชิงคุณภาพที่สามารถทำให้เกิดการรวมใจของครูนำไปสู่ผล O-NET ที่สามารถทำได้ตามเป้าหมาย จึงพบว่า กุญแจแห่งความสำเร็จ คือ ครูดี ผอ.ดี สร้างเครือข่าย ศน.ดี เข้มแข็งวิชาการร่วมขับเคลื่อน เขตพื้นที่เอื้ออำนวย ปลดรั้ว รร. ดี ให้โอกาสทุก รร. ได้เข้าถึงคุณภาพ ” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 4 พฤษภาคม 2566 เวลา 05:24 น.