ตัดสินใจลาออกราชการครู แล้ว แต่เขาไม่ยอมให้ออก
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
สมาชิกเว็บไซต์พันทิป ท่านหนึ่ง ได้ตั้งกระทู้ปัญหาชีวิต ข้าราชการครู เกี่ยวกับการลาออกราชการ โดยมีรายละเอียดดังนี้
จากกระทู้ก่อน เราได้ตัดสินใจลาออกแล้วค่ะ เราแจ้งเรื่องกับ ผอ แล้ว เราให้เหตุผลว่าจะกลับไปดูแลบิดามารดาที่บ้าน แต่เขาบอกเราว่าเหตุผลไม่เพียงพอ เขาบอกให้เราคิดดีๆ เราบอกเขาแล้วว่าเราคิดดีแล้วก่อนจะตัดสินใจ ครอบครัวเราคุยกันเรียบร้อยแล้ว ทุกคนยอมรับในการตัดสินใจของเรา ครอบครัวเราไม่มีใครมีปัญหาอะไร แต่ทางนี้เขาให้คำตอบเรามาแค่ไม่เชื่อว่าครอบครัวจะยอมง่ายๆ และเขาบอกว่าเขาจะไม่อนุมัติ แล้วให้เราไปคิดใหม่ แล้วเขาก็ไม่คุยกับเราอีกเลยค่ะ เราควรจะทำยังไงดีคะ ยื่นหนังสือลาออกเลยได้หรือเปล่า หรือควรคุยกับเขายังไงดีคะ
อ้างอิง กระทู้ก่อน ดังนี้
เป็นครูผู้ช่วย แต่อยากออกมาสอบเป็นนักวิชาการศึกษาค่ะ ลองเข้ามาอ่านดูหน่อยนะคะ
สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรานะคะ
คือเราบรรจุเป็นครูผู้ช่วย สพฐ. มาได้ 4 เดือนแล้วค่ะ ได้ รร ไกลบ้าน 60 กิโล เราเลือกที่นี่เพราะเป็นที่เหลือที่ใกล้บ้านที่สุดแล้วค่ะ บ้านอยู่คนละจังหวัดกับ รร นะคะ ขอเท้าความก่อนว่าเราชอบงานสอนนะคะ ถึงแม้จะได้รับหน้าที่สอน 30 คาบต่อสัปดาห์ก็ยังไหวอยู่ งานเอกสารเราก็สู้ค่ะ ไม่ท้อ แต่ที่เราไม่ไหวเลยคือที่นี่ชอบสังสรรค์มากค่ะ แทบทุกวันเลย บางวันไม่มีงานหรือเทศกาลอะไร คิดอยากกินก็กิน แล้วประเด็นคือเวลาเขาดื่มเขากินเขาจะให้เราที่เป็นครูผู้ช่วยต้องไปนั่งเฝ้า รอเสิร์ฟรอบริการเขาค่ะ ซึ่งถ้าเป็นงานบุญหรืองานเทศกาลอะไรเราไม่ว่านะคะ เข้าใจว่ามันต้องมี แต่นี่ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ เขานึกจะกินก็กิน บางอาทิตย์กินแทบทั้งอาทิตย์ แล้วบางวันลากยาวถึงสองสามทุ่มค่ะ พอเราเห็นว่าค่ำแล้วจะขอกลับก่อนก็ไม่ได้ค่ะ เขาไม่ให้เรากลับ ถ้า ผบรห ไม่กลับ เรากลับไม่ได้ค่ะ ซึ่งคนพาเริ่มกินก็ ผบรห ล่ะค่ะ
บ้านพักเราอยู่ห่างจาก รร 30 โลนะคะ เราขับรถไปกลับเอง ขอเขากลับก่อนได้บ้างไม่ได้บ้าง วันไหนกลับก่อนได้เขาก็ชอบส่งสายตาไม่เป็นมิตรมาให้เรา เราก็จะรู้สึกอึดอัดอยู่ค่ะ พอเป็นแบบนั้นมันเลยทำให้เราเบื่อค่ะ คือเราสอนทั้งวันแล้ว ยังต้องให้เราไปทำอะไรแบบนี้อีก นานๆ ทีไม่ว่าค่ะแต่นี่แทบทุกวัน ตอนแรกเราว่าจะอดทนต่อไปจนถึงเวลาย้าย แต่นานวันเข้าเราไม่ไหวค่ะ เราคิดมากเรื่องนี้ทุกวัน เราคิดทุกวันว่าทำยังไงจะหลุดพ้นจากเหตุการณ์นี้ แต่เราหนีไม่ได้เลย ไม่มีทางเลยค่ะ เราคิดมากจนเราไม่มีความสุขเวลามาทำงาน ในใจเราจดจ่ออยู่แต่เรื่องที่ว่าวันนี้เราต้องไปเสิร์ฟอีกมั้ย ต้องไปนั่งเฝ้าเขาอีกมั้ย (เสิร์ฟในที่นี้คือเครื่องดื่มนะคะ เป็นอะไรถือว่ารู้กัน) ทำยังไงจะกลับไปพักได้ เราคิดแบบนี้ซ้ำๆ จนเราเครียด ปวดหัวทุกวัน นอนไม่ค่อยหลับ และร้องไห้เกือบทุกวันเวลากลับมาถึงที่พักเลยค่ะ เราว่าเรื่องนี้มันเกินไปสำหรับจิตใจเรา ใจเรารับไม่ไหว คือเราเข้ากับสังคมตรงนี้ไม่ได้ เรารักงานสอนนะคะ แต่เราคิดว่านี่มันไม่ใช่ที่ของเรา เราอิจฉาเพื่อนคนที่เขาบรรจุแล้วได้ที่ที่โอเค ไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ ที่นี่เขาบอกเราเสมอว่าที่ไหนๆ ก็เป็นแบบนี้ แต่แถวบ้านเราไม่เห็นเป็นแบบนี้ ถามเพื่อนที่อยู่ที่อื่นๆ ก็ไม่มี คือเราไม่ไหวแล้วอ่ะค่ะ เราไม่ได้บรรจุมาเป็นบาร์เทนเดอร์สักหน่อย มันเสียเวลาชีวิตเรามาก พ่อแม่เราก็ไม่โอเคที่เราต้องมาทำอะไรแบบนี้ ท่านห่วงเราตอนกลับบ้านพักก็ห่วงค่ะ เราคุยกับพ่อแม่เราตลอดเลย
เราอยากไปสอบลงที่อื่น เราไม่รู้หรอกว่าที่อื่นๆ จะเป็นแบบนี้มั้ย แต่ที่แน่ๆ ที่นี่มันไม่ใช่ที่ของเราแล้วค่ะ เรื่องเป็นแบบนี้เราเลยอยากมาถามเรื่องบางเรื่องค่ะ
1. เราจะไปสมัครสอบท้องถิ่น ตำแหน่งนักวิชาการศึกษาค่ะ แต่เราก็ลังเลว่าจะสอบเอาอันนี้หรือว่าครูผู้ช่วยของท้องถิ่นดีคะ งานสอนก็รักแต่ใจก็อยากลองงานอื่นดูด้วยค่ะ จะสมัครพรุ่งนี้แล้วยังลังเลอยู่ค่ะ (เราตัดเรื่องเงินเดือนออกไปนะคะ เราโฟกัสที่งานก่อนค่ะ)
2. นักวิชาการศึกษานี่ต้องทำงานแบบเลิกงานแล้วต้องนั่งทำต่อที่ที่ทำงานต่อมั้ยคะ ถ้ามีบ้างเราโอเค หรือว่ามีบ่อยแทบทุกวันหรือยังไงคะ
3. ถ้าเราลาออกจากที่เดิมตอนนี้ (กะว่าจบเทอมนี้จะออกเลย ช่วงสิ้นเดือนนี้ค่ะ) แล้วเราจะไปสอบท้องถิ่นต่อได้มั้ยคะ สาเหตุที่อยากออกเลยคือ 1. เพราะเราไม่อยากอยู่ในสังคมแบบนี้ต่อค่ะ 2. เราจะประเมิน คผช รอบแรกเดือนพฤษภานี้ เราเลยอยากออกก่อนประเมินค่ะ เพราะเราต้องการจะออกอยู่แล้ว เลยคิดว่าถ้าออกก่อนคงไม่ต้องมาเตรียมเอกสารและสื่อต่างๆ ในการประเมิน เพราะคิดว่าคงเสียงบไปเยอะอยู่เหมือนกันในการเตรียมสิ่งเหล่านี้ 3. เราอยากออกมาเพื่อเอาเวลามาอ่านหนังสือเพื่อสอบรอบใหม่ค่ะ เป็นอยู่แบบนี้เราไม่มีเวลาเลย 4. ช่วงสงกรานต์เราได้ยินมาว่าเขาจะนัดเราไปร่วมงานแห่สงกรานต์ของชุมชนค่ะ ซึ่งเทศกาลสงกรานต์เราก็ต้องกลับบ้านไปรดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่เรามั้ยคะ เราก็ไม่เข้าใจทำไมต้องมีอะไรช่วงสงกรานต์เหมือนกัน หรือที่อื่นก็มี อันนี้เราไม่รู้ค่ะ เพราะที่ผ่านมาเราไม่เคยเจอ เราเลยอยากออกให้ได้ก่อนสงกรานต์เลยค่ะ เราจำเป็นต้องไปทางของเราจริงๆ ต้องไปกับครอบครัวเราจริงๆ แต่เราไม่รู้จะแย้งเขายังไงค่ะ เลยอยากหลุดออกมาก่อนค่ะ
*ตรงนี้เรามองหางานที่จะทำตอนลาออกไว้แล้วค่ะ ว่าจะไปสอนพิเศษแถวบ้านแล้วก็ช่วยที่บ้านทำงานค่ะ กะจะทำรอสอบใหม่พอดี เลยอยากทราบค่ะว่าถ้าลาออกมาแล้ว จะมีผลอะไรในการสอบใหม่มั้ยคะ (ตอนนี้ใจเรามันไม่ไหวแล้ว เราอยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้วค่ะ ปล. เราขอเป็นคำแนะนำหรือรายละเอียดงานต่างๆ หน่อยนะคะ ขอไม่เป็นคำต่อว่าว่าเราไม่อดทนกับงานทั้งๆ ที่เราสอบได้นะคะ เพราะงานนี้ที่เราตั้งใจสอบมาจนได้ก็เพราะเราก็อยากได้งานที่เราทำอยู่ไปได้นานๆ อยู่แล้วค่ะ แต่นี่เราอยู่ต่อไม่ได้จริงๆ เราคิดว่าเราไปจากตรงนี้ที่ไม่ใช่ที่ของเราแล้วให้คนอื่นที่เหมาะกับที่นี่มาแทนเราดีกว่าค่ะ และเรื่องครอบครัวเราก็ปรึกษามาแล้ว ครอบครัวเราให้เราตัดสินใจเองได้เลย ครอบครัวไม่มีปัญหาที่เราจะลาออกค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำนะคะ
โดยมีเพื่อนสมาชิก ได้ให้ความเห็นต่าง ๆ มากมาย ท่านอื่น ๆ มีความเห็นอย่างไรบ้าง ลองไปดูกันครับ
ความคิดเห็นที่ 1
1.ถ้า ผอ.ไม่เชื่อว่าที่บ้านให้ลาออก แนะนำให้พ่อแม่เขียนจดหมายบันทึกข้อความขอความอนุเคราะห์ลาออก
2.เพิ่มเหตุผลในการลาออก เพื่อไปเตรียมตัวสอบครูผู้ช่วยใหม่ปีนี้
3.ถ้ายังไม่ให้ออก แนะนำไปที่เขตการศึกษา(สังกัด กศจ.ที่ไหนครับ) เข้าไปคุยกับผู้ใหญ่และอธิบายเหตุผลเลย
4.ให้วิทยายุทธ์บังคับให้ผู้บริหารเซ็นใบลาออก
ความคิดเห็นที่ 2
แนะนำให้ เขียนใบลาออกอีกครั้ง แล้วยื่นเรื่องไปตามขั้นตอนของราชการ
ผู้บังคับบัญชา มีสิทธิยับยั้งไม่ให้ลาออกแค่ 30 วัน
ถ้าเรายังยืนยัน ว่าจะลาออก เขาก็ต้องอนุมัติ ครับ
การที่ ผอ. ให้ไปคิดให้ดีก่อน อาจจะหวังดี
ว่าเรา อาจคิดไม่รอบคอบ หรือใจร้อน ตัดสินใจไวไปไหม
หากเรา คิดดีแล้ว ก็ยื่นเรื่องไปอีกครั้ง เขาก็จะอนุมัติเองครับ
ปรึกษา ส่วนบริหารงานบุคคล ของคุณก็ได้ครับ
ความคิดเห็นที่ 3
เขาหวังดีแหละ แต่ยังไงเขาก็ต้องยอมคุณอยู่แล้ว มีเพื่อนเราคนนึงในสมัยบรรจุใหม่ๆ ตอนนั้นอายุ 28 ประมาณว่า ไม่ชอบงานราชการ อยากไปทำอย่างอื่น จึงยื่นใบลาออก หัวหน้าส่วนราชการ บอกว่า ยังไม่อนุมัติ ให้คิดดีๆก่อน เพื่อนก็บอกว่าคิดดีแล้ว หัวหน้าก็บอกว่า ทำไปก่อน เดี๋ยวจะเซ็นให้
สรุป ตอนนี้ผ่านมา 10 ปี แล้วจ้า เพื่อนบอกว่า ต้องไปขอบคุณแก สิบปีที่แล้ว ที่เคยระงับเรื่องไว้ เพราะประสบการณ์ของผู้ใหญ่จะมองว่า ความมั่นคงในชีวิตมันก็สำคัญ ดังนั้น เข้าใจมุมผู้ใหญ่ ถึงน้องไม่ห่วงอนาคตเรื่องอาชีพการงานว่าจะยังไง แต่ที่ยกตัวอย่างมา มีจุดประสงค์จะบอกว่า ผู้ใหญ่เขาอาบน้ำร้อนมาก่อน ไม่ใช่เรื่องผิดปกติเลย องค์กรเรา คนลาออกแต่ละครั้ง ผอ.จะไม่ผลีผลามเซ็นเลย ท่านจะให้ลูกน้องไปคิดก่อน เรียกว่าให้เวลาช่วยตัดสินใจ จากนั้น ไม่มีใครระงับเราได้หรอก ถ้าเราเลือกแล้วว่าจะลาออก
สมัยเรา ตอนอายุสามสิบห้า เรานี่ถูกบังคับให้สอบข้าราชการ ติดแบบไม่ตั้งใจ แถมไปบรรจุไกลครอบครัว เราไม่อยากไปเลย ห่วงครอบครัว แต่ครอบครัวบังคับให้เลือกงานก่อนมาเป็นอันดับหนึ่ง ผ่านไปสามปี ในวันนี้ เราเพิ่งรู้ว่าเราตัดสินใจไม่ผิดเลย พลิกแพลงตามสภานการณ์ในการดูแลครอบครัวในรูปแบบสภาพที่เป็นจริง ไม่มีทางไหนดีไปหมด หรือแย่ไปหมด แล้วแต่เหตุผลของใครของมัน ไม่ได้บอกว่า ลาออกราชการแล้วจะน่าเสียดายหรือเสียใจภายหลัง แต่จะบอกว่า ผู้ใหญ่ที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตเขาหวังดี
ความคิดเห็นที่ 4
งั้นคุณก็ขอคุยตามตรง ว่า เรามีปัญหาเรื่องการวางตัว ความปลอดภัย ที่ครอบครัวเป็นห่วง และแฟนไม่สบายใจ ที่คุณต้องไปเสิร์ฟเครื่องดื่มบ่อยๆ ดึกๆ
เพราะทำให้พักผ่อนไม่พอ ปวดหัว นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิทำงาน บั่นทอนกำลังใจและอุดมการณ์ในการทำงาน เบื่อหน่าย หมดศรัทธาในวิชาชีพ
และไม่อยากให้มีผลกระทบต่อเด็ก
บอกตรงๆ ตามนี้ ถาม ผอ. ว่า หนูบอก ผอ. ตามตรงเช่นนี้ ท่าน ผอ. จะยังรั้งหนูไหม
ความคิดเห็นที่ 6
ไม่ปลอดภัยเลย ผู้หญิงแล้วเดี๋ยวนี้ ไว้ใจใครไม่ได้
ระวังคนใกล้นี่แหละ ของมึนเมากินเข้าไปแล้ว สันดานเดิมมันจะออก
ไปให้ไกล ออกห่างๆ เลย
เราจะออกเขียนใบลาออกเลย ยืนยันหนักแน่น ขอลาออกอย่างเดียว
อ่านต้นฉบับของกระทู้แรก เป็นครูผู้ช่วย แต่อยากออกมาสอบเป็นนักวิชาการศึกษาค่ะ ลองเข้ามาอ่านดูหน่อยนะคะ
ที่ https://pantip.com/topic/40567861
อ่านต้นฉบับของกระทู้ที่สอง ตัดสินใจลาออกแล้ว แต่เขาไม่ยอมให้ออก
ที่ https://pantip.com/topic/40598082