ข้าราชการเกษียณอายุ 65 ปี ถ้าอายุราชการครบ 25 ปี ก่อนอายุ 65 ขอเออร์ลี่ แบบเอาบำนาญ ได้หรือไม่
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
วันนี้(1 มีนาคม 2564) มีประเด็นเกี่ยวกับการเกษียณอายุราชการ ก่อน 65 ปี โดยขอแบบเออร์ลี่ รับบำนาญ โดยสมาชิกท่านหนึ่งของเว็บไซต์พันทิปดอทคอม รายละเอียดดังนี้
ข้าราชการเกษียณอายุ 65 ปี ถ้าอายุราชการครบ 25 ปี ก่อนอายุ 65 ขอเออร์ลี่ แบบเอาบำนาญ ได้หรือไม่
1.ข้าราชการเกษียณอายุ 65 ปี ถ้าอายุราชการครบ 25 ปี ก่อนอายุ 65 ขอเออลี่รีไทร์เอาบำนาญ ได้หรือไม่ ไม่ได้บังคับให้ข้าราชการในเกณท์ที่กำหนดต้องอยู่ถึง 65 ปีทุกคนใช่หรือไม่
2. ถ้าเป็นแบบนี้ โอกาสของคนรุ่นใหม่จะเข้ามารับราชาการยิ่งจะน้อยลง ในเมื่อการจ้างงานเด็กรุ่นใหม่ๆ จะประหยัดงบได้มากกว่าไม่ใช่หรือ และคนที่อายุ 65 ปี ส่วนใหญ่เลยสุขภาพแม้จะยังไม่พบเจอโรคภัย แต่หัวสมองเริ่มจะล้าและต้องการพักแล้ว จะมีแรงหรือไฟมาทำงานเต็มประสิทธิภาพเหมือนคนหนุ่มสาวได้อย่างไร สรุปที่อยากรู้ คือ ในภาพส่วนรวม ประเทศได้ประโยชน์อะไรจากการออกนโยบายแบบนี้
และก็มีผู้ตอบกระทู้หลายคน เช่น
ความคิดเห็นที่ 1
เราทำงานอยู่หน่วยงานราชการ ที่ต้องอ่านหนังสือต่างๆที่เสนอให้ ผอ. เซ็นต์ เจอเยอะมากค่ะ ที่อายุงานครบก่อนอายุเกษียณ ก็ทำเรื่องขอลาออกเลย ให้เหตุผลว่ารับราชการนาน บลาๆ
ความคิดเห็นที่ 2
ตามเกณท์คือถ้าอยากได้บำนาญ ต้องเกษียณอายุราชการเท่านั้น และมีอายุราชการมากกว่า 10 ปี
คำถามต่อมาคือ สมมึติว่าบางคน(ตั้งแต่ปีงบ 2575) ถ้าอายุ 60 อยากลาออกแต่อายุราชการpยังไม่ถึงหรือครบขั้นต่ำ 10 ปี ก็ไม่ได้บำนาญอีกแล้ว ได้แต่บำเน็จ ถูกต้องใช่หรือไม่
ความคิดเห็นที่ 2-1
การได้บำนาญแบ่งออกได้เป็น 2 กรณีครับ
1. ด้วยเหตุสูงอายุ ต้องอายุมากกว่า 50 ปี และเวลาราชการมากกว่า 10 ปี หมายความว่า บรรจุได้ช้าสุดตอนอายุ 49 ปี พอเกษียณตอน 60 ปีก็จะได้บำนาญ หรือบรรจุตอน 42 พอทำไปจนถึง 52 พอแล้ว ออกดีกว่า ก็จะได้บำนาญ
2. ด้วยเหตุเวลาราชการนานแล้ว ไม่จำกัดอายุ แต่ต้องเวลาราชการนานกว่า 25 ปี เช่น บรรจุตอน 30 พอครบ 55 ก็ลาออกได้เลย ก็จะได้บำนาญไปกินเล่น
สามารถดูตารางนี้ได้เลยครับ
ความคิดเห็นที่ 2-3
เข้าใจผิดมาตลอดค่ะว่า กรณี ทำงานไม่ต่ำกว่า 10 ปี แล้วอยากได้บำนาญ ต้องเกษียณอายุราชการเท่านั้น เมื่อก่อน คือ 60 ปี แต่จากนโยบายล่าสุดเดือนนี้ 65 ปี ก็เลยงงๆค่ะ ว่า ต้องเกษียณอายุราชการตอน 65 ใช่ไหม ถึงมีสิทธิได้บำนาญ สรุปว่า ไม่ใช่ เพราะมีกรณีแบบลาออกเพราะสูงอายุ 50 ปี ขึ้นไป และอายุงานขั้นต่ำ 10 ปี ก็ขอบำนาญได้ (แต่ไม่เคยเห็นเคสนี้มาก่อนเลย อาจจะคนรอบข้างไม่มีอะค่ะ เลยเป็นความรู้ใหม่เลย)
ความคิดเห็นที่ 3
1. ถ้าอายุราชการครบ 25 ปี สามารถลาออกเพื่อเอาบำเหน็จหรือบำนาญได้เลยครับ ไม่ต้องรอให้อายุครบเกษียณ แต่ผมมองว่ามันจะไม่คุ้มเพราะเงินบำนาญที่ได้จะน้อยนิดเหลือเกิน เนื่องจากเงินบำนาญมันแปรผันกับเวลาราชการ
2. ตอนนี้รัฐกำลังปรับลดจำนวนข้าราชการ (เห็นเขาว่างั้น) เพราะมันภาระเลี้ยงดูเกี่ยวเนื่องเยอะ ในอนาคตยังไงก็รับคนน้อยลง จะเหลือแต่ระดับหัวหน้า เลยต้องยื่นเวลาออกไปเพื่อรอให้คนใหม่พร้อมทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิก่อน ส่วนเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานอันนี้แน่นอนอยู่แล้ว มันไม่น่าจะรวดเร็วหรือทันสมัยเท่าคนรุ่นใหม่
สรุป ประเทศไทยได้ประโยชน์จากนโยบายนี้ในแง่ที่ว่ารับข้าราชการใหม่น้อยลง ประหยัดงบประมาณที่จะตามมาได้มากขึ้น ประกอบกับอัตราผู้สูงอายุมากขึ้น หนุ่มสาวน้อยลง จึงออกนโยบายนี้เพื่อใช้งานผู้สูงอายุไปก่อน หนุ่มสาวจะได้รู้สึกว่าตัวเองก็ไม่ได้หาเงินเพื่อเลี้ยงคนแก่ขนาดนั้น อีกอย่างคือในระยะเวลา 5 ปีจากนี้ข้าราชการจะเกษียณกันเยอะมาก อาจไม่สามารถหาคนเข้ามาแทนได้ทัน เพราะข้าราชการไม่ใช้งานเอกชนที่สัมภาษณ์แล้วรับเลย มันต้องมีกระบวนการสรรหาและเลือกสรร ถ้าสอบไม่ผ่านเกณฑ์ยังไงก็ไม่สามารถรับเข้าทำงานได้
ความคิดเห็นที่ 6
เกษียณอายุราชการที่ 63-65 คือแผน ซึ่งได้รับรับรองจากสำนักนายก ณ เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2564 ยังไม่ได้นำไปสู่การปรับกฏหมายลูกๆ เช่นกฏหมายเกี่ยวกับบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ดังนั้น ถ้าอยากได้ข้อมูลที่ปัจจุบันและถูกต้อง สามารถติดต่อโทรสอบถามฝ่ายนิติกรของกรมบัญชีกลาง ได้ แต่การจะได้บำนาญในกฏหมายปัจจุบัน ความคิดเห็นที่ 2-1 ได้อธิบายถูกต้อง ที่คนไม่ค่อยอยากลาออกด้วยการใช้สิทธิสูงอายุ 50ปีขึ้นไป และมีอายุราชการไม่ต่ำกว่า 10 ปี เพราะเงินบำนาญจะได้น้อยมาก บางคนหมื่นต้นๆ บางคนไม่ถึงหมื่น เพราะการคำนวณบำนาญมีฐานสูตรคือ จำนวนอายุราชการ+ค่าเฉลี่ยเงินเดือน60เดือนรวมกันก่อนออกจากราชการ
ปล. อนาคตค่อยว่ากันอีกที ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนกฏหมายลูกๆ เช่น เปลี่ยนอายุราชการจาก 60 เป็น 3 และ 65 หรือไม่อย่างไรให้สอดคล้องกับแผนนี้
อ่านต่อได้ที่ https://pantip.com/topic/40552064