ชมรม ผอ.สพท.เดินหน้าร้องสอบบรรจุรอง ศธจ.-ศธจ. ชี้ปมใหม่ “กระดาษคำตอบ” อาจส่อไม่โปร่งใส ท้ารบ!ขบวนการทายาทอสูร
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
ชมรม ผอ.สพท.เดินหน้าร้องสอบบรรจุรอง ศธจ.-ศธจ. ชี้ปมใหม่ “กระดาษคำตอบ” อาจส่อไม่โปร่งใส ท้ารบ!ขบวนการทายาทอสูรนายธนชน มุทาพร ประธานชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้ากรณีชมรมฯร้องเรียนผู้มีอำนาจเกี่ยวข้องให้ตรวจสอบและแก้ปัญหาการดำเนินการของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) ในการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) และรองศึกษาธิการจังหวัดครั้งที่ผ่านมา ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล
นายธนชนกล่าวว่า ทางชมรมฯได้รับข้อมูลร้องเรียนกล่าวหาเข้ามาจำนวนมากว่า การสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้ง ศธจ.และรอง ศธจ.ครั้งที่ผ่านมา มีสิ่งผิดปกติหลายประการ เช่น ไม่เป็นไปตามกฎหมาย โดยการบรรจุและแต่งตั้ง ศธจ.และรอง ศธจ.ครั้งนี้ ดำเนินการก่อนการพัฒนา คือสั่งบรรจุและแต่งตั้งวันที่ 8 กันยายน 2563 แล้วให้ไปพัฒนาในวันที่ 9 กันยายน 2563 ซึ่งขัด พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และแก้ไขเพิ่มเติม
การกำหนดคุณสมบัติผู้เข้ารับการสรรหาตำแหน่งรอง ศธจ.ครั้งนี้ ส่อไปในทางกำหนดตามอำเภอใจ แตกต่างจากตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (รอง ผอ.สพท.) เช่น กำหนดคุณสมบัติของบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้อำนวยการกลุ่ม จึงส่อเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมกับบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
นอกจากนี้ การออกคำสั่งบรรจุและแต่งตั้งให้รอง ผอ.สพท.เป็นรอง ศธจ. ซึ่งอยู่คนละส่วนราชการ จะต้องได้รับอนุมัติให้โอนจากเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ก่อน แต่คำสั่งบรรจุและแต่งตั้งครั้งนี้ ปลัด ศธ.โดยอนุมัติจาก อ.ก.ค.ศ.สำนักงานปลัดกระทรวง ลงนามในวันที่ 8 กันยายน 2563 แต่เลขาธิการ กพฐ.อนุมัติให้โอนได้เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2563 ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการรับโอนข้าราชการในต่างส่วนราชการ
ล่าสุดทางชมรมฯยังได้รับข้อมูลร้องเรียนกล่าวหาเพื่อให้เกิดการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยว่า ในขั้นตอนการสอบคัดเลือก ศธจ.และรอง ศธจ.ครั้งนี้ อาจส่อไม่โปร่งใส เช่น การทำข้อสอบยังใช้วิธีกากบาท ในขณะที่การสอบของนักเรียนใช้วิธีฝนรหัสคำตอบ เพื่อตรวจด้วยระบบคอมพิวเตอร์มานานแล้ว
และในกระดาษคำตอบ ได้ให้ผู้เข้าสอบเขียนชื่อและรหัสการสอบเท่านั้น โดยไม่ให้ผู้เข้าสอบลงลายมือชื่อ และไม่ให้กรรมการคุมห้องสอบลงลายมือชื่อด้วย ซึ่งอาจสุ่มเสี่ยงต่อการแก้ไขและเปลี่ยนแปลงกระดาษคำตอบหรือไม่
ด้วยเหตุร้องเรียนกล่าวหาเหล่านี้ ทางชมรมฯได้ยื่นหนังสือถึงผู้มีอำนาจเกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาสั่งการให้ทบทวนและแก้ไขให้การสอบคัดเลือกบรรจุและแต่งตั้ง ศธจ.และรอง ศธจ.ครั้งนี้ เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล โดยยื่นถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ต้นสังกัดของนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการ ศธ., นายณัฏฐพล รัฐมนตรีว่าการ ศธ. และปลัด ศธ.
“หลังจากยื่นหนังสือร้องเรียนดังกล่าวแล้วระยะหนึ่ง ถ้าเรื่องนี้ยังเงียบอยู่ ไม่มีการทบทวนและแก้ไขแต่อย่างใด ทางชมรมฯจะเดินหน้าต่อโดยยื่นร้องเรียนถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสภาผู้แทนราษฎร เพื่อแก้ไขเรื่องนี้ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลให้ได้”
นายธนชนกล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมาเกิดปัญหาร้องเรียนกล่าวหาเรื่องส่อทุจริตและเรื่องเกี่ยวกับธรรมาภิบาลใน ศธ.มากมาย ซึ่งทางชมรมฯได้เฝ้าติดตามและเรียกร้องไปยังผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แก้ไข
เช่นก่อนหน้านี้ช่วงต้นเดือนกันยายน 2563 ได้ยื่นหนังสือถึงหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ และประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ผลักดันผู้มีอำนาจใน ศธ.ได้ทบทวนเรื่องการเร่งรีบเตรียมนำงบประมาณเหลือจ่ายปี 2563 ของ สพฐ.วงเงิน 454 ล้านบาท ไปจัดซื้ออุปกรณ์การเรียนรู้ปัญญาประดิษฐ์ ชุดตัวต่อหุ่นมนุษย์ให้กับโรงเรียน
เนื่องจากมี ผอ.สพท.ร้องเรียนมายังชมรมฯว่า การให้ สพท.ต่างๆ นำงบฯเหลือจ่ายไปจัดซื้ออุปกรณ์ดังกล่าว ในขณะที่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องสเปค โดยอาจมีผู้รับและผู้เสียประโยชน์ จึงอาจจะสุ่มเสี่ยงสร้างความยุ่งยากในการดำเนินการจัดซื้อตามระเบียบของทางราชการ จนในที่สุด สพฐ.ได้สั่งยกเลิกไปเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2563
ทั้งนี้ การที่ชมรมฯร้องเรียนให้ตรวจสอบการดำเนินการของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่ง ศธจ.และรอง ศธจ.ครั้งที่ผ่านมา ก็เพื่อปกป้องระบบการบริหารงานบุคคลใน ศธ.มิให้เป็นไปตามอำเภอใจ ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์การก่อตั้งชมรมฯที่จะพิทักษ์รักษาธรรมาภิบาลใน ศธ.ให้เข้มแข็ง และได้รับการยอมรับจากสาธารณชน
“แต่ช่วงที่ผ่านมา มีแต่เสียงร้องเรียนกล่าวหาถึงพฤติการณ์ของขบวนการทายาทอสูรใน ศธ. ที่ทำลายระบบธรรมาภิบาลในการบริหารงานบุคคลในหลากหลายหน่วยงานใน ศธ. รวมทั้งหน่วยงานในกำกับ ศธ. เหิมเกริมถึงขนาดแก้ไขคุณสมบัติของผู้เข้ารับตำแหน่งบริหารในบางหน่วยงาน เพื่อเปิดทางให้พรรคพวกตัวเอง ก็เคยทำมาแล้วก่อนหน้านี้ ดังนั้น ชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย จะไม่ปล่อยให้ธรรมาภิบาลใน ศธ.ถูกทำลายอีกต่อไป” นายธนชนกล่าว
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: สำนักข่าว EDUNEWSSIAM