"สุชาติ-ศักดา"อำลา ศธ.ฝากงานปราบคอร์รัปชัน
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
"สุชาติ-ศักดา" ยิ้มรับโผปรับ ครม.ปู 3 เข้ากราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำ ศธ. อำลาตำแหน่ง "รัฐมนตรี" ท่ามกลางข้าราชการ-ผู้บริหาร ศธ.แห่มอบกุหลาบแดง เป็นกำลังใจการทำงาน "สุชาติ" เปิดใจหายห่วง เพียงแต่ฝาก รมว.ศึกษาฯ คนใหม่สานต่อ31 นโยบายหลักของ รบ. มั่นใจแท็บเล็ตไม่สะดุด ขณะที่ "ศักดา" เชื่อมือนักกฎหมาย ปมทุจริต SP2 ไม่ล้มแน่นอน
ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อวันที่ 29 พ.ย.55 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.ศึกษาธิการ และนายศักดา คงเพชร อดีต รมช.ศึกษาธิการ เดินทางมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ พร้อมอำลาหลังจากที่พ้นตำแหน่งรัฐมนตรี โดยมีข้าราชการพร้อมผู้บริหารระดับสูงของ ศธ. รอรับพร้อมมอบช่อดอกไม้แสดงกำลังใจ
โดยนายสุชาติ เปิดเผยว่า ไม่มีงานอะไรที่ต้องเป็นห่วงอีก เพียงแต่อยากฝากให้ รมว.ศึกษาธิการ คนใหม่ ได้สานต่อ 31 นโยบายหลักด้านการศึกษาของ ศธ. ที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้ว อาทิ โครงการคอมพิวเตอร์พกพา หรือแท็บเล็ต โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน เป็นต้น นอกจากนี้อยากให้เน้นเรื่องการสร้างความโปร่งใสในการบริหารงาน การโยกย้ายข้าราชการให้มีความเป็นธรรม และฝากนโยบายการอบรมพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมให้กับครู เพื่อที่จะนำไปอบรมเด็กให้เป็นคนดีต่อไป เพราะต้องสร้างเด็กให้เป็นคนดี ไม่ใช่เป็นคนเก่งอย่างเดียว
เมื่อถามถึงการเปลี่ยน รมว.ศึกษาธิการ จะมีผลกระทบกับโครงการแท็บเล็ตหรือไม่ นายสุชาติ ยืนยันว่า ไม่น่ามีผลกระทบ เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องดำเนินการต่อไป ส่วนเรื่องการทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษา ตามโครงการแผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็ง หรือ SP2 นั้น ขณะนี้ได้ทำรายงานส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว ซึ่งให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และคาดว่า ป.ป.ช. และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ จะสรุปผลได้ในเร็วๆ นี้
ด้านนายศักดา กล่าวถึงงานที่ยังดำเนินการไม่เสร็จ และอยากให้รัฐมนตรีใหม่ เข้ามาดำเนินการต่อนั้น คือการตรวจสอบการทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษา ตามโครงการ SP2 ที่มีงบประมาณ 5 พันกว่าล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ ได้หารือในรายละเอียดกับนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ คนใหม่บ้างแล้ว ขณะที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ ก็เชี่ยวชาญเรื่องกฎหมาย จึงเชื่อว่าจะสานต่อเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน เพราะการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชันเป็นนโยบายรัฐบาล
"การทุจริตคอร์รัปชันต่อระบบการศึกษา ถือเป็นความเสียหายรุนแรงมากที่สุด เช่น หากมีการทุจริตโครงสร้างการทำถนน ผลกระทบก็คือถนนใช้ได้ไม่คงทน แต่ก็ยังซ่อมแซมปรับปรุงได้ แต่การทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษา ไม่สามารถซ่อมแซมได้ ที่ผ่านมาผมเข้ามาทำงานและสะสางปัญหานี้ แต่ยังไม่จบเพราะว่ามีบุคคลระดับสูงเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ก็มั่นใจว่าเรื่องที่ส่งไปยัง ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร ดีเอสไอ และนายกรัฐมนตรี มีความชัดเจนสามารถเอาผิดกับผู้ที่กระทำผิดต่อประเทศเกี่ยวกับการศึกษาได้อย่างแน่นอน"
นายศักดา กล่าวย้ำว่า ตัวเลขที่สรุปส่งไปขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 700-800 ล้านบาท ส่วนงบประมาณอีเวนต์สรุปส่งไปแล้วประมาณ 50 กว่าล้านบาท โดยกรรมการสอบสวน ได้สอบสวนในส่วนของอีเวนต์อีก 400 กว่าล้านบาทเสร็จแล้ว แต่ยังไม่ได้สรุปส่งให้ดีเอสไอ ดังนั้น หลังจากรัฐมนตรีใหม่ทั้งสองคนเข้าทำงานแล้ว จะประสานเพื่อมอบเอกสารให้สานต่อในเรื่องดังกล่าวทันที เชื่อว่าเมื่อความจริงปรากฎต่อสังคม รัฐมนตรีใหม่ จะต้องดำเนินการอย่างแน่นอน ที่สำคัญผมเชื่อว่าเรื่องนี้คงไม่มีใครล้มล้างได้
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ เปิดเผยว่า ดีเอสไอ กำลังดำเนินการสอบพยานและรวบรวมหลักฐาน คาดว่าอีกประมาณ 10 วัน จะสามารถสรุปผลการสอบสวนได้