"ณัฏฐพล" ห่วงปัญหาบัณฑิตครูเตะฝุ่น
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
รมว.ศึกษาธิการ ห่วงปัญหาบัณฑิตครูล้นตลาด เร่งทำบิ๊กดาต้าฐานข้อมูลครูทั้งระบบ หวังรู้พื้นที่ไหนครูขาดและครูเกิน มั่นใจสพฐ.ไม่ได้ลอยแลนักศึกษาครูแน่ ชี้ อนาคตยังมีครูที่ต้องเข้าไปเติมเต็มระบบการศึกษาอยู่จำนวนมาก
เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ตามที่อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยระบุว่าในปีการศึกษา 2562 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะไม่จัดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ.เนื่องจากรายชื่อคงค้างในบัญชีจากปีก่อนยังมีมากพอจะทยอยเรียกบรรจุได้ถึงปีการศึกษา 2563 จึงเท่ากับว่านิสิตนักศึกษาที่เรียนจบครูในปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 โดนลอยแพ ให้ไปสอบบรรจุในปีการศึกษา 2564 พร้อมกัน ซึ่งกว่าจะถึงวันนั้นอัตราบรรจุจะลดลงเป็นจำนวนมากกว่านี้ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเข้าใจปัญหาของบัณฑิตครู ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำฐานข้อมูลหรือบิ๊กดาต้าการผลิตครูทั้งระบบอยู่ โดยฐานข้อมูลบิ๊กดาต้าการผลิตครูนั้นจะครอบคลุมถึงอัตราการขาดครู ความสามารถของครูในการจัดการเรียนการสอน และครูสอนตรงกับสายงานหรือไม่ เพราะตนอยากให้การผลิตครูตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานและสาขาที่ขาดแคลนจริงๆ
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้เป้าหมายการผลิตครูของตนคือต้องการสร้างฐานข้อมูลครูให้แล้วเสร็จก่อน เพื่อเราจะได้ทราบว่าการผลิตครูในอนาคตจะไปในทิศทางไหน ซึ่งฐานข้อมูลครูถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้นตนจะพยายามบริหารจัดการการผลิตครูให้ดีที่สุดเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่คนที่จะเข้ามาเป็นครูทุกคน อย่างไรก็ตามตนเชื่อมั่นว่าสถานศึกษาหลายแห่งยังมีความต้องการบัณฑิตครูที่จบใหม่อยู่ เพราะครูผู้สอนไม่ได้สอนแค่ระดับประถมศึกษา หรือ อาชีวศึกษาเท่านั้น แต่รวมไปถึงการศึกษาปฐมวัยด้วย เพราะตนคิดว่าครูสาขาปฐมวัยยังขาดแคลนอยู่จำนวนมาก อีกทั้งการศึกษาปฐมวัยเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ตนให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นการปูรากฐานการเรียนรู้ของเด็กเล็ก ขณะเดียวกันก็ยังมีโรงเรียนขนาดเล็กหลายพันแห่งที่ไม่สามารถยุบรวมได้ก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องเติมครูลงไปให้โรงเรียนเล็กเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ รักษาราชการเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า เรื่องนี้จำเป็นที่จะต้องดูข้อมูลทั้งระบบ ซึ่งขณะนี้ สพฐ. ได้จัดทำฐานข้อมูล เพื่อให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ครูอัตราจ้าง รวมถึงลูกจ้างทุกกลุ่ม ใส่ข้อมูลการศึกษาและประวัติการทำงานของแต่ละคน เพื่อแสดงตัวตน หลังจากนั้นสพฐ.จะนำข้อมูลเหล่านี้มาประมวลอัตรากำลังครูทั้งประเทศว่าครูสาขาวิชาใดบังขาดแคลนอยู่บ้าง และสาขาวิชาใดที่มีครูเกิน และมีสาขาวิชาใดบ้างที่จะต้องเร่งพัฒนาครูตอบสนองความต้องการในแต่ละพื้นที่
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม 2562 เวลา 17.30 น.