เรื่องอัตราจ้าง...ใช่ว่าจะไม่มีทางออก โดยดร.รังสรรค์ มณีเล็ก
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
เรื่องอัตราจ้าง...ใช่ว่าจะไม่มีทางออกวันนี้(30 กันยายน 2562) ที่เฟซบุ๊ก ดร.รังสรรค์ มณีเล็ก ได้เผยแพร่โพสต์ เกี่ยวกับอัตราจ้างไว้ดังนี้
ผมติดตามข่าวเกี่ยวกับน้องๆอัตราจ้างของ สพฐ.ด้วยความเห็นใจมาโดยตลอด ปัญหาที่รับทราบ เช่น ไม่ได้รับเงินค่าจ้าง ต้องรอตกเบิก เงินมาแล้วปัญหาที่ตามมาก็คือ บางแห่งทำสัญญาให้ต่อเนื่อง บางแห่งเริ่มทำสัญญานับแต่วันที่ได้รับเงิน ปีหนึ่งทำสัญญาหลายครั้ง ใกล้สิ้นปีงบประมาณก็รู้สึกกังวลว่าจะได้รับการว่าจ้างต่อหรือไม่ เป็นต้น ปลายปีนี้หนักกว่าเดิม คือ มีหนังสือแจ้งว่าเลิกจ้างอัตราจ้างทุกตำแหน่ง และ ต่อมาก็จ้างต่อแต่เปลี่ยนเป็นจ้างเหมาบริการ ซึ่งทราบต่อมาว่า เพราะสำนักงบประมาณตัดงบประมาณ รูปการณ์จึงออกมาเป็นแบบนี้ มองดูเผินๆเหมือนว่าจะไม่เป็นอะไร เพราะยังได้เงินค่าจ้างอยู่ แต่ถ้าศึกษาในรายละเอียดแล้ว อัตราจ้างเหมาบริการจะเสียสิทธิ์ในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ทั้งสวัสดิการเกี่ยวกับความคุ้มครอง ผมไม่ตำหนิใครแต่ขอเสนอทางออกของเรื่องนี้ ดังนี้
๑. ในระยะเร่งด่วนที่สุด สพฐ.ต้องขอแปรญัตติงบประมาณปี ๒๕๖๓ เพิ่มเติมในส่วนที่ขาดไป แล้วอัตราจ้างเหมาบริหารก็จะกลับคืนเป็นตำแหน่งเดิม โดย สพฐ.ระบุเหตุผลและจำนวนเงินที่ต้องการ ผมเชื่อว่าท่าน ส.ส.ยินดีจะเสนอแปรญัตติในสภาให้อย่างแน่นอน พ.ร.บ.งบประมาณปี ๒๕๖๓ ล่าช้าเพราะเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ กว่าจะประกาศใช้ก็ในราวเดือนมกราคม ซึ่งการของบประมาณเพิ่มสามารถทำได้ทันเวลาอย่างแน่นอน
๒. ในระยะยาว สพฐ.ต้องจัดระเบียบเรื่องจำนวนโรงเรียน จำนวนบุคลากรทั้งสายบริหาร สายสอนและสายสนับสนุนใหม่ทั้งหมด ช่วงนี้เป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด เพราะบุคลากรเกษียณอายุราชการจำนวนมากและจำนวนผู้เรียนลดลง ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเหตุผลหลักที่สำนักงบประมาณใช้เป็นเหตุในการตัดงบประมาณ โดยอ้างว่า สพฐ.ยังไม่แสดงความพยายามอย่างถึงที่สุด ในการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ
๓. บรรจุอัตราจ้างให้เป็นตำแหน่งที่มีความมั่นคง อาจเป็นพนักงานราชการหรือข้าราชการ เนื่องจากอัตราจ้างเหล่านี้ต้องมีความจำเป็นแล้วแหละ เพราะจ้างกันมาตั้งหลายปีแล้ว ประกอบกับร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ก็กำหนดให้มีบุคลากรสายสนับสนุนการบริหารและการจัดการเรียนการสอน ข้อ ๓ จะสำเร็จได้ต้องผ่านข้อ ๒ มาก่อน คิดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเกณฑ์อัตรากำลัง และงบประมาณ เช่น สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) สำนักงบประมาณ(สงป.) คงไม่ขัดข้อง เนื่องจากไม่ได้เป็นภาระรัฐบาลเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด
งานนี้อาจจะเป็นเรื่องยากแต่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ งานท้าทายแบบนี้ เป็นงานที่เหมาะกับผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างยิ่ง โถ ! แจกเงินคนไปเที่ยว หัวละ ๑,๐๐๐ บาท ๑๐ ล้านคน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาทยังทำได้ แล้วเรื่องที่จะสนับสนุนให้เกิดคุณภาพการศึกษาแบบนี้ ได้ทั้งกล่อง ได้ทั้งดอกไม้ไม่มีคนฉลาดที่ไหนจะไม่เลือกทำหรอกครับ
ท้ายที่สุดเป็นกำลังใจให้น้องๆอัตราจ้างทุกคนนะครับ
รายละเอียดเพิ่มเติม