LASTEST NEWS

22 ม.ค. 2568(( รวมลิงก์ )) ประกาศตำแหน่งว่างรับย้ายครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบ TRS ประจำปี พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 1 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 21 ม.ค. 256828 คำถามยอดฮิตเรื่องระบบย้าย TRS ที่ครูต้องรู้! 21 ม.ค. 2568เว็บไซต์ความรู้ เกี่ยวกับระบบ TRS /คลิป/อินโฟ/คู่มือ/หลักเกณฑ์/Q&A 21 ม.ค. 2568สนามแรก มาแล้ว !!! กรมส่งเสริมการเรียนรู้ มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ ศธ 07007/154 ลงวันที่ 20 มกราคม 2568 มีนโยบาย สอบบรรจุครูผู้ช่วย 21 ม.ค. 2568สพฐ. อาจเลื่อนเปิดเทอม 1 พ.ค. 68 หากทุกฝ่ายเห็นตรงกัน 21 ม.ค. 2568โรงเรียนพานทองสภาชนูปถัมภ์ รับสมัครครูภาษาอังกฤษ เงินเดือน 15,000.-บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 28 มกราคม 2568 21 ม.ค. 2568โรงเรียนวัดหนองยาวใต้ รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกวิทยาศาสตร์ทั่วไป เงินเดือน 9,000.- บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 26 มกราคม 2568 21 ม.ค. 2568เสมา 1 ยกให้ “ศึกษานิเทศก์” เป็นครูของครู 20 ม.ค. 2568สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) รับสมัครพนักงานราชการ 32 อัตรา วุฒิปริญญาตรี เงินเดือน 18,000.- บาท 20 ม.ค. 2568สพป.เชียงราย เขต 1 รับสมัครพนักงานราชการครู เงินเดือน 18,000.- บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 21 มกราคม 2568 (ไม่เว้นวันหยุดราชการ)

เด็กอนุบาลจำเป็นต้องอ่านหนังสือได้หรือไม่

  • 01 พ.ค. 2562 เวลา 07:38 น.
  • 6,341
เด็กอนุบาลจำเป็นต้องอ่านหนังสือได้หรือไม่

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

เด็กอนุบาลจำเป็นต้องอ่านหนังสือได้หรือไม่

มีคุณผู้อ่านเขียนเข้ามาถามใน facebook fanpage: kateinspirer ว่า “...ลูกสาวอายุ 5 ปี อยู่ชั้น อนุบาล 3 อ่านหนังสือไม่ได้ คือหนังสือตามวัยที่โรงเรียนจัดค่ะ เป็นพวกสระพื้นฐาน ลูกมีอาการหวาดระแวงเวลาอ่านหนังสือ และไม่มีความสุขกับการไปโรงเรียน (เป็นเฉพาะกับคุณครูคนนึงค่ะ ตอนนี้ก็เรียนปรับพื้นฐานด้วยกันด้วย) ครูคนนี้สอนน้องตอนเรียนปรับพื้นฐานมาตั้งแต่อนุบาล 2 แกพูดกับแม่ว่ามองแล้วน้องเรียนไม่เก่ง ซึ่งอันนี้แม่ก็ทราบค่ะ และแล้วมาเจอคุณครูคนนี้ตอนสอบอีกครั้ง แกมาคุมสอบห้องน้องค่ะ แกก็บอกว่าน้องไม่เก่งเลย ทำไม่ได้เลย และเอาน้องไปเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่น ซึ่ง ณ ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ ส่วนเวลาอยู่บ้านก็มีทั้งเล่น ดูทีวี อ่านนิทาน อ่านหนังสือ ทำแบบฝึกหัดน่ะค่ะ ถึงจะทำไม่ได้ แต่น้องจะพยายามทำ น้องไม่ติดโทรศัพท์ค่ะ วันเสาร์ อาทิตย์ จะไปเรียนรำไทยซึ่งร้องบอกว่า หนูชอบเรียนรำ แต่ไม่ชอบคุณครู คือเค้าไม่ชอบคุณครู แต่น้องไม่มีอาการไม่อยากไปเรียนเลยค่ะ...”

บังเอิญคุณแม่ท่านที่เขียนมาถาม ได้ส่งรูปลูกสาวตัวน้อยมาให้ดูด้วย เห็นน้องในอิริยาบถต่างๆ แล้วดูเป็นเด็กอารมณ์ดีมีความสุขค่ะ ดังนั้น จากที่คุณแม่เล่ามา การที่น้องมีอาการหวาดระแวงเวลาอ่านหนังสือนั้น น่าจะเกิดจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นขณะที่เรียนรู้การอ่าน ซึ่งอาจจะเป็นที่คุณครูดุ หรือแสดงน้ำเสียงสีหน้าไม่พอใจเวลาสอน หรืออาจจะเป็นที่พ่อแม่ผู้ปกครองก็ได้ที่ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่โดยการพยายามสอนพยายามให้ลูกอ่าน ซึ่งทั้งครูและผู้ปกครองมักไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังมุ่งเน้นที่ผลลัพธ์คือการอ่านได้ถูกต้อง ไม่ได้เน้นที่การสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละคนซึ่งมีวิธีการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน เช่น เด็กบางคนขาดทักษะการผสมเสียงพยัญชนะและสระในหัว คือ ผสมเป็นเสียงไม่ได้ แต่ทั้งครูและพ่อแม่เน้นว่าต้องอ่านให้ถูก เด็กอาจต้องจำคำทั้งคำไปก่อน (แบบที่เราจำตัวอักษรจีน) เพื่อการเอาตัวรอดไม่ได้ถูกดุ ถูกทำให้เป็นตัวตลกในห้องเรียน หรือเพื่อให้พ่อแม่ภูมิใจ เมื่อเด็กทำอย่างนี้เพื่อเอาตัวรอด ทั้งครูและพ่อแม่ก็มองแค่ผลลัพธ์ว่าเด็กอ่านได้ ก็สบายใจ แต่หารู้ไม่ว่าทักษะบางอย่างในสมองได้ขาดหายไป ครูเคทพบว่าเด็กที่ขาดทักษะการผสมเสียงในหัวภาษาไทย ก็จะไม่สามารถผสมเสียงภาษาอังกฤษในหัวได้เช่นกัน ทำให้เป็นอุปสรรคในการเรียนภาษาอังกฤษอย่างมาก ได้พูดเรื่องนี้บทเวทีเสวนาต่างๆ ตลอด แต่ดูเหมือนว่าครูรุ่นใหม่จะไม่เข้าใจการสอนการผสมเสียงในหัว และไม่ตรวจสอบว่าเด็กๆ ผสมได้หรือไม่ เพราะข้อสอบวัดเพียงแค่ว่าอ่านออกเท่านั้น

แต่ปัญหาที่ถามมานี้ หากไม่ได้มีสาเหตุมาจากวิธีการเรียนการสอน หรือประสบการณ์อันเลวร้ายทำให้เด็กเกิดความวิตกกังวลแล้ว อาจมีสาเหตุจากกระบวนการประมวลผลในสมองของเด็กเอง หรือที่เรียกว่าโรค dyslexia คือคนที่เห็นตัวอักษรแล้วอ่านไม่ออก คนที่เป็นอย่างนี้ เขาแค่อ่านไม่ได้ บางคนจะอ่านสลับตัวอักษร เช่น เขียนหัวตัวอักษรสลับกัน อย่าง ม กับ น หรือ ภ กับ ถ บางคนจะผสมเสียงสลับกัน เช่น กบ เขาจะอ่านว่า บก หรือ top เขาจะอ่านว่า pot บางคนเห็นตัวอักษรตามนั้น ไม่ได้สลับตำแหน่งกัน แต่อาจอ่านออกเป็นเสียงอื่น เช่น มอญ เขาอาจอ่านเป็น มอง คนที่เป็นโรคนี้ ส่วนใหญ่มีสติปัญญาปกติ หรืออาจดีกว่าคนทั่วไปด้วยซ้ำไป เช่น คุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ ราชินีเพลงลูกทุ่งที่ไม่มีใครลบล้างความดังของเธอได้ เธอจำเนื้อเพลงได้หลายพันเพลงทั้งๆ ที่เธออ่านไม่ออก ทอม ครูซ ดาราฮอลลีวูดที่เล่นหนังเรื่องใดดังทำเรื่อง ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เป็น dyslexia ความโชคร้ายของคนที่เป็น dyslexia ในประเทศไทย คือไม่มีใครเข้าใจปัญหาในระบบสมองของเขา แล้วก็ถูกครูอาจารย์ และระบบวัดผลของการศึกษาไทยระบุว่าเป็นผู้ที่เรียนไม่เก่ง หรือมีปัญหาในการเรียน และไม่มีใครพยายามเข้าใจและหาวิธีการเรียนรู้ในแบบอื่นให้เขา โรคนี้รักษาไม่ได้ แต่มีวิธีการปรับกระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะสมได้ค่ะ หากใครสงสัยว่าลูกหลานจะมีปัญหาในลักษณะนี้หรือไม่ ลองพาลูกหลานไปพบกุมารแพทย์ จิตแพทย์เด็ก หรือนักจิตวิทยาเด็กเพื่อรับการตรวจประเมินดูนะคะ ส่วนครูอาจารย์ทั้งหลาย ควรหมั่นสังเกตว่าเด็กมีปัญหาในการเรียนรู้อย่างไร แล้วหาวิธีการสอนที่เหมาะสมกับเด็กจะดีกว่า การดูถูกหรือดุเด็กว่าทำไม่ได้ ไม่ฉลาด เพราะนั่นจะเป็นการสร้างปมปัญหาในใจให้กับเด็กคนนั้นไปจนโตค่ะ

ใครมีปัญหา ลูกเรียนไม่เก่ง ไม่รู้จะทำอะไรในอนาคต ญาติพี่น้องติดกลุ่มลัทธิ ปัญหาครอบครัว ความสัมพันธ์ การทำงาน ติดโซเชียล ติดเกม panic และ phobia มารับคำปรึกษากับครูเคทได้ที่ KruKate Counseling Center ต้องการนัดคิว โทร. 0814581165 หรือ เข้าไปฝากคำถามและแชร์ประสบการณ์ในแฟนเพจ www.facebook.com/kateinspirer และ YouTube channels: Kate Inspirer ได้นะคะ

ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ โดย ครูเคท วันที่ 1 พ.ค. 2562 เวลา 05:01 น.
  • 01 พ.ค. 2562 เวลา 07:38 น.
  • 6,341

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

^