LASTEST NEWS

20 ม.ค. 2568(( รวมลิงก์ )) ประกาศตำแหน่งว่างรับย้ายครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบ TRS ประจำปี พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 1 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 19 ม.ค. 2568โรงเรียนวัดราษฎร์ปุณณาราม รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกอนุบาลหรือเอกปฐมวัย หรือเอกทั่วไป เงินเดือน 8,000.- บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 27 มกราคม 2568 19 ม.ค. 2568โรงเรียนวัชรวิทยา รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาภาษาอังกฤษ เงินเดือน 12,000.- บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 24 มกราคม 2568 18 ม.ค. 2568"เสมา1" ยืนยันการสอบโอเน็ตมีความจำเป็นแต่ไม่บังคับ "ธนุ" ขานรับไปดำเนินการ 18 ม.ค. 2568สพฐ.เสนอ กพฐ.แก้ไขระเบียบปิด-เปิดภาคเรียน พ.ศ.2549 เลื่อนวันปิดภาคเรียน 18 ม.ค. 2568"สพฐ." เปิดผลสำรวจความคิดเห็น หนุนเลื่อนเปิดภาคเรียนจากเปิด 16 พ.ค.เป็น 1 พ.ค. 18 ม.ค. 2568ด่วน!! มาแล้ว รวมลิงก์อบรม Webinar AI 12 หลักสูตร วันที่ 18 มกราคม 2568 ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อรับเกียรติบัตร 18 ม.ค. 2568ลิงก์เว็บไซต์ตรวจสอบรายชื่อ การ​ลงทะเบียนเพื่อ"รับเกียรติบัตร" เข้าร่วมอบรม หลักสูตรพัฒนาทักษะดิจิทัล AI 12 หลักสูตร  18 ม.ค. 2568สพฐ.แจ้งโอนจัดสรรงบประมาณค่าตอบแทนพนักงานราชการ (เพิ่มเติม) และค่าตอบแทนพนักงานราชการประจำศูนย์ประสานงานประจำเขตตรวจราชการ ระยะเวลา 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.2568) 18 ม.ค. 256828 คำถามยอดฮิตเรื่องระบบย้าย TRS ที่ครูต้องรู้!

เวทีถกปัญหาการศึกษา หลายพรรคชี้‘ศธ.ปลอดการเมือง-กระจายอำนาจลงพื้นที่’คือทางออก

  • 03 ธ.ค. 2561 เวลา 14:40 น.
  • 2,201
เวทีถกปัญหาการศึกษา หลายพรรคชี้‘ศธ.ปลอดการเมือง-กระจายอำนาจลงพื้นที่’คือทางออก

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

เวทีถกปัญหาการศึกษา หลายพรรคชี้‘ศธ.ปลอดการเมือง-กระจายอำนาจลงพื้นที่’คือทางออก

2 ธ.ค.61 สภาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ร่วมกับภาคีเพื่อการศึกษาไทย (TEP) จัดงานเสวนา “ชวนพรรคร่วมคิด พลิกห้องเรียน เปลี่ยนไทยทันโลก” ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยเชิญตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ ร่วมให้ความเห็นว่าจะปฏิรูปการศึกษาของไทยให้ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศร่วมถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21 อย่างไร

น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ปัญหาการศึกษาไทยที่พูดกันอยู่ทุกวันนี้ไม่ได้ต่างไปจากเมื่อ 20 ปีก่อน ตอนที่ประเทศไทยได้ออก พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ขณะนั้นมีปัญหาเด็กเครียด เรียนแล้วไม่มีความสุข จึงเกิดแนวคิดอยากให้เด็กๆ ออกไปทำกิจกรรมนอกห้องเรียนบ้างเพราะการศึกษาเป็นเรื่องของทฤษฎีบวกปฏิบัติ แต่ปัจจุบันทุกอย่างยังคงเดิม
ซึ่งสาเหตุอย่างหนึ่งมาจากรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีอายุการทำงานสั้นมาก เช่น 20 ปีที่ผ่านมามีรัฐมนตรีถึง 21 คน ไม่สามารถวางนโยบายอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ข้าราชการประจำก็ต้องรอดูท่าทีของผู้มาเป็นรัฐมนตรีแต่ละท่านว่าจะทำอะไรอย่างไร ทั้งที่การศึกษาโดยเฉพาะปฐมวัยก็เหมือนการวางอิฐก้อนแรก ถ้าโครงสร้างดีการจะต่อเติมอะไรก็ไม่น่าห่วง

“สิ่งที่จะเสนอคือเราทำให้กระทรวงศึกษาธิการปลอดการเมืองได้หรือไม่ ไม่ว่าการเมืองการจะเปลี่ยนอย่างไรจะไม่กระทบต่อรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ นั่นหมายความว่าเราจะมีรัฐมนตรีศึกษาธิการที่เป็นคนกลางได้หรือไม่ ซึ่งรูปแบบการสรรหาต้องมาว่ากันอีกทีแต่ขอให้เป็นกระทรวงปลอดการเมือง ถ้าทุกคนเห็นความสำคัญตรงนี้ ยกกระทรวงศึกษาธิการออกมาจากเค้กที่จะแบ่งกัน เราก็จะได้นโยบายที่ต่อเนื่อง” น.ส.กัญจนา กล่าว

นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากที่เคยสอบถามนายชินวรณ์ บุญยเกียรติ อดีตรัฐมนตรีศึกษาธิการซึ่งอยู่ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์  ก็ได้รับทราบเช่นกันว่าเรื่องของเวลาการทำงานเป็นปัญหามาก อย่างไรก็ตามตนมองว่าการพัฒนาการศึกษาไทยควรเกิดจากผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่าย โดยเฉพาะจากระดับพื้นที่เป็นผู้ริเริ่ม ซึ่งตนและทีมงานพรรคเคยทำการทดลอง ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก แล้วพบว่าได้ผลดี

“เรามาคิดกันว่าสอนอย่างไรให้เด็กพูดภาษาอังกฤษได้ แน่นอนไม่ได้สอนแบบที่เรียนกันในปัจจุบัน ต้องยอมรับครูภาษาอังกฤษในไทยส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษไม่เป็น ก็ได้ข้อสรุปคือเด็กต้องได้เรียนที่จะสื่อสารพุดคุยไม่ใช่แค่สอบได้ ซึ่งถ้าจะได้ตามนั้นครูต้องพูดภาษาอังกฤษได้ นอกจากนั้นต้องเรียนตั้งแต่วัยเยาว์ มีเวลาเพียงพอและอาจต้องเปลี่ยนวิธีการสอบ เราลองเอาครูฟิลิปปินส์มาสอน ให้เด็กอนุบาล 1 เรียนภาคบ่ายเป็นภาษาอังกฤษ เวลาผ่านไปเด็กรุ่นแรกตอนนี้อยู่ชั้น ป.3 และเด็กทั้งโรงเรียนพูดภาษาอังกฤษได้ค่อนช้างดี” นายกรณ์ ระบุ

เช่นเดียวกับ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ตัวแทนจากพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่ยกตัวอย่างโรงเรียนในพื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีการทดลองนำฝรั่งเข้าไปสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียน ก็พบว่าเด็กในโรงเรียนใช้ภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น ฉะนั้นต้องกระจายอำนาจด้านการจัดการศึกษา เพราะที่ผ่านมาปัญหาเกิดจากกระทรวงศึกษาธิการมีอำนาจมากเกินไป นอกจากนี้อยากเชิญทุกพรรคทำอย่างเดียวกันคือเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการไม่ควรเป็นโควตาทางการเมือง

“การมาแบ่งว่าคนของพรรคเราทำอะไรมากน้อยแค่ไหนแล้วควรได้อะไรไปตอบแทนในการที่ไปช่วยงานพรรค โดยที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องศึกษาธิการเลย อย่างนี้ไม่เอาแล้ว ต่อไปนี้เรื่องศึกษาธิการเป็นเรื่องใหญ่ อาจจะต้องคิดว่าทำอย่างไรจะไม่ให้กระทรวงนี้อยู่ใต้อิทธิพลของการเมืองจนเกินไป ลองคิดแบบธนาคารแห่งประเทศไทยดูไหม ไม่ต้องเป็นกระทรวงยังได้เลย เป็นอิสระแต่อยู่ใต้กำกับของรัฐบาล ภายใต้นโยบายรัฐบาลพอสมควร ถ้าเป็นกระทรวงแบบทุกวันนี้มันก็ออกมาได้ไม่ดีกว่านี้เท่าไร” นายเอนก กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับการกระจายอำนาจทางการศึกษาเช่นกัน โดยยกยกตัวอย่างที่บ้านสามขา จ.ลำปาง ซึ่งอาชีพหลักของประชาชนคือการทำนาและเก็บเห็ดป่า ที่นั่นครูและผู้ปกครองเด็กๆ ในชุมชน หารือกันว่าจะทำอย่างไรให้เด็กๆ มีอาชีพที่มั่นคงในชุมชนโดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปหางานทำในเมืองแล้วทิ้งคนชราให้อยู่กับบ้านอย่างที่ผ่านมา

“เด็กมีการวิจัยว่าเห็ดป่าจะทำอย่างไรให้รายได้เพียงพอกับแต่ละครอบครัว ไม่ใช่ครอบครัวนั้นได้มากครอบครัวนี้ได้น้อย แล้วทำอย่างไรจะเก็บได้นาน เด็กใช้มือถือสมาร์ทโฟนเก็บความชิ้นและอุณหภูมิ เอาค่าดินมาตรวจ เอากระทรวงต่างๆ มาช่วย อย่างนี้มันคือสิ่งที่เราไม่จำเป็นต้องตัดเสื้อโหล หลักสูตรไม่จำเป็นต้องให้เด็กทุกคนทุกโรงเรียนทุกพื้นที่ต้องเรียนเหมือนกัน” ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ให้ความเห็น

ขณะที่นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มองว่าการศึกษาไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องของกระทรวงศึกษาธิการ แต่เกี่ยวข้องกันหลายกระทรวง เช่น กระทรวงแรงงาน จากกระแสความปั่นป่วนทางเทคโนโลยี (Disruption) แรงงานจำนวนมากมีความเสี่ยงได้รับผลกระทบ คำถามคือแล้วเราจะทำให้แรงงานในปัจจุบันพัฒนาตนเองให้มีทักษะของโลกยุคใหม่ (Re – Skill) ได้อย่างไร  

“ถ้าจะยกระดับคนไทยไปสู่ศตวรรษที่ 21 ได้ ผมมีอยู่ 4 คำ 1.ความต่อเนื่อง (Continuty) นี่เป็นกับดักที่เราเป็นอยู่ที่เราขับเคลื่อนการศึกษาไปไม่ได้ 2.ความมุ่งมั่น (Commitment) ซึ่งเราไม่เคยมี 3.ความร่วมมือ (Collaboration) การศึกษาไม่ใช่แค่กระทรวงศึกษาธิการ และ 4.ความเชื่อมโยง (Coherence) เชื่อมกันเป็นหนึ่งเดียว” นายสุวิทย์ กล่าว

อีกด้านหนึ่ง นายพะโยม ชิณวงศ์ ตัวแทนจากพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเมื่อพูดถึงการศึกษามักจะเน้นกันแต่การศึกษาในระบบตั้งแต่ปฐมวัยจนถึงอุดมศึกษาในสถาบันการศึกษาระดับต่างๆ ดังนั้นตนอยากจะให้นึกถึงการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยด้วย เช่น ผู้ใช้แรงงานในสถานประกอบการต่างๆ รวมถึงเกษตรกร ซึ่งจะทำอย่างไรให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงโอกาส

“ขณะนี้เรามีนวัตกรรมเกิดขึ้นในโรงเรียนในชุมชนในสังคมมากมาย แต่จะทำอย่างไรที่จะเอานวัตกรรมเหล่านั้นมาสร้างความต่อเนื่อง เอามาแชร์กัน ผมเสนอว่าเราน่าจะมีสถาบันหรือศูนย์อะไรสักอย่างที่เกิดการแบ่งปัน เรื่องนี้ทางพรรคให้ความสำคัญในการจัดการศึกษาให้ครบทุกกลุ่มเป้าหมาย” ตัวแทนพรรคภูมิใจไทย กล่าว

ส่วน น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ ตัวแทนจากพรรคอนาคตใหม่ ให้ความเห็นว่า แม้จะมีการใส่เนื้อหาสมัยใหม่ ใส่เรื่องเทคโนโลยีเข้าไปในหลักสูตรการศึกษา ผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจไม่ดีขึ้นกว่าเดิมตราบใดที่ไม่มีการแก้ไขวัฒนธรรมการเรียนการสอน โดยในห้องเรียนจะต้องไม่มีคนคนเดียวที่ผูกขาดความรู้อีกต่อไป ซึ่งจริงๆ หลายห้องเรียนหรือหลายโรงเรียนในไทยก็มีการปรับเปลี่ยนไปแล้ว แต่จะทำอย่างไรให้เกิดเครือข่าย นำครูหรือโรงเรียนต้นแบบเหล่านั้นไปขยายผล

ซึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่างกูเกิ้ล (Google) เคยศึกษาระบบการทำงานเป็นทีมของพนักงานในบริษัทรวม 180 ทีม พบว่าในบรรดาทีมที่มีผลงานดีจะมีจุดร่วมกันอย่างหนึ่งคือความปลอดภัยในทางความรู้สึกและความคิด ดังนั้นหากเราอยากได้เด็กที่คิดวิเคราะห์ได้ เด็กที่แก้ปัญหาเป็น เด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์ หากไม่มีพื้นที่ปลอดภัยย่อมไม่อาจทำให้สิ่งที่คาดหวังนี้เกิดขึ้นได้จริง

“เคยเจอบุรพกิจที่เขียนมาตั้งแต่ปี 2444 เขาเขียนว่าหน้าที่ของนักเรียนคือการเชื่อฟังครูดุจดั่งทหารผู้น้อยเชื่อฟังทหารผู้ใหญ่ นี่คือปี 2444 ดังนั้นวัฒนธรรมแบบนี้ต้องเปลี่ยนแปลง จะทำอย่างไรให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการเรียนรู้ในห้องเรียน ห้องเรียนสำคัญมาก เราต้องมองก่อนว่าห้องเรียนหรือภาพจำลองของสังคมนี้ คุณอยากเห็นสังคมแบบไหนคุณก็สร้างห้องเรียนแบบนั้น” น.ส.กุลธิดา กล่าว

ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันอาทิตย์ ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2561, 20.31 น.
  • 03 ธ.ค. 2561 เวลา 14:40 น.
  • 2,201

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

^