สถานี ก.ค.ศ. (20 ส.ค. 61) ก.ค.ศ. ปรับหลักเกณฑ์และวิธีการฯ (ว 22/2560)
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
สถานี ก.ค.ศ. (20 ส.ค. 61) ก.ค.ศ. ปรับหลักเกณฑ์และวิธีการฯ (ว 22/2560)ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และผู้สนใจทุกท่าน ตามที่ ก.ค.ศ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.7/ว 22 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 โดยมีสาระสำคัญของหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ดังนี้
1. ครูต้องเข้ารับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกปี
2. สามารถนำผลการพัฒนาไปใช้เป็นคุณสมบัติเพื่อขอมีและเลื่อนวิทยฐานะได้ (ว 21/2560) และให้ถือว่า
การพัฒนาตามหลักเกณฑ์นี้เป็นการพัฒนาก่อนแต่งตั้ง
3. หลักสูตรการพัฒนามี 3 องค์ประกอบ (ความรู้ ทักษะ ความเป็นครู) และคุณลักษณะที่คาดหวัง โดยมีเงื่อนไข
3.1 หลักสูตรที่สถาบันคุรุพัฒนารับรองตามมาตรฐานวิทยฐานะ หรือตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด
3.2 ในแต่ละปีต้องมีจำนวนชั่วโมงการพัฒนาไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 20 ชั่วโมง ภายใน 5 ปี
ต้องมีชั่วโมงการพัฒนา 100 ชั่วโมง
ในช่วงเริ่มต้นภายหลังจากที่ประกาศใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าว พบว่ามีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นจำนวนมากที่ไม่สามารถเข้ารับการพัฒนาได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาให้กับข้าราชการครู และเพื่อให้การพัฒนายังคงเป็นไปตามเจตนารมณ์ของหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 22/2560 โดยสามารถแก้ไขข้อขัดข้องในการดำเนินการได้อย่างเหมาะสม
และมีความยืดหยุ่น รวมทั้งสามารถรองรับการเข้ารับการพัฒนาในสถาบันวิชาการอื่น ๆ และหลักสูตรการพัฒนาของส่วนราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก.ค.ศ. ในคราวประชุมครั้งที่ 8/2561 เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2561 จึงได้มีมติ ดังนี้
1. กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยให้ประเมินตนเอง พร้อมทั้งจัดทำแผนพัฒนาตนเองเป็นรายปีตามแบบที่ส่วนราชการกำหนด และเข้ารับการพัฒนาตามแผนอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
2. ในรอบ 5 ปี ที่ขอรับการประเมินให้มีและเลื่อนวิทยฐานะ ต้องมีจำนวนชั่วโมงการพัฒนา 100 ชั่วโมง
หากมีจำนวนชั่วโมงการพัฒนาไม่ครบ 100 ชั่วโมง แต่ไม่น้อยกว่า 60 ชั่วโมง ก็สามารถนำจำนวนชั่วโมงการมีส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ส่วนที่เกิน 50 ชั่วโมงในแต่ละปี มานับรวมเป็นจำนวนชั่วโมงการพัฒนาให้ครบ 100 ชั่วโมงได้
ทั้งนี้ สามารถนำจำนวนชั่วโมงการพัฒนาที่เข้ารับการอบรมในสถาบันวิชาการอื่น ๆ เสนอ ก.ค.ศ. พิจารณารับรองได้ โดยให้ส่วนราชการเสนอหลักสูตรพัฒนาเพื่อให้ ก.ค.ศ. พิจารณารับรอง
สำนักงาน ก.ค.ศ. จะได้แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการแก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ดังกล่าว ให้ส่วนราชการ
และหน่วยงานการศึกษาทราบและถือปฏิบัติต่อไป
พินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ขอบคุณเนื้อหาและที่มาของข่าวจาก :: เว็บไซต์สำนักงาน ก.ค.ศ. วันที่ 22 สิงหาคม 2561