ศาลยกฟ้องสพฐ.คดีCCTVใต้ รมว.ศธ.เฉ่ง "บุญรักษ์" เป็นบทเรียน
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
ศาลยกฟ้องสพฐ.คดีCCTVใต้ รมว.ศธ.เฉ่ง'บุญรักษ์'เป็นบทเรียนนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลแพ่งมีคำสั่งยกฟ้องกรณีที่บริษัทเทคโนซายน์ จำกัด ได้ยื่นฟ้องสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เนื่องจากถูกบอกเลิกสัญญาและริบเงินประกันสัญญา หลังมีปัญหาการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ในโครงการ Safe Zone School ใน 12 เขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า การที่ศาลยกฟ้องเรื่องนี้ถือว่าถูกแล้ว หลังจากนี้ สพฐ.และบริษัทคู่สัญญาทั้งหมดต้องไปดำเนินการตามกฏหมายตามที่ศาลบอก หากไม่ปฏิบัติตามต้องถูกริบเงินประกันสัญญา เป็นไปตามที่ตนเสนอมาตั้งแต่ต้น คือ บริษัทจะต้องมาดำเนินการติดตั้งให้ครบ แต่บริษัทเทคโนซายน์ จำกัด ไม่ยอมจึงไปฟ้องศาล นอกจากนี้ ตนยังทราบว่า ศาลยังได้อบรมทั้ง สพฐ.และโจทก์ด้วย ตนก็สมน้ำหน้า และได้เรียกนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) มาหารือแล้วว่า ให้นำเรื่องนี้เป็นบทเรียน เพราะการจะทำสัญญาต้องเอาคนที่รู้เรื่องมาทำตามที่ศาลระบุไว้ ดังนั้น สพฐ.ต้องไปคิดแนวทางแก้ไขปัญหานี้ ส่วนความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยผู้ที่เกี่ยวข้องนั้น ขณะนี้ได้ส่งเรื่องไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายกฯ ได้ถามรายชื่อคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ซึ่งตนเสนอรายชื่อไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่บริษัท เทคโนซายน์ฯ ได้ยื่นฟ้อง สพฐ. ต่อศาลแพ่งกรณีถูกบอกเลิกสัญญาและริบเงินประกันสัญญา หลังมีปัญหาการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดในโครงการดังกล่าว งบประมาณ 577 ล้านบาท ที่มีปัญหาส่อทุจริตนั้น ศาลแพ่งได้พิพากษายกฟ้องเนื่องจาก เห็นว่าโจทก์ทำผิดสัญญา จงใจไม่ติดตั้ง CCTV ให้ครบ 16 License ศาลเห็นว่า แม้ข้อกำหนดการจัดซื้อจัดจ้างหรือ ทีโออาร์จะกำหนดไม่ชัดว่า ต้อง 16 License แต่ตามวัตถุประสงค์และตอนตรวจรับ บริษัททำการทดสอบให้คณะกรรมการดูว่า ดูได้ 16 ช่อง แสดงว่าสัญญาแต่แรกว่าคู่สัญญาเจตนาติด 16 License
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้ ศาลยังมีคำสั่งนอกคำพิพากษาเรื่องการร่างสัญญา ว่า สพฐ.ควรจะรอบคอบกว่านี้ ถ้าไม่มีความเชี่ยวชาญ ควรขอให้อัยการเป็นผู้ช่วยร่าง และการตั้งคณะกรรมการตรวจการจ้างครั้งนี้ เห็นชัดว่า สพฐ.ตั้งคนที่ไม่มีความรู้ด้านนี้ ทำให้อาจเกิดความเข้าใจผิด จึงน่ามีผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เป็นกรรมการด้วย ทั้งเห็นว่า ควรเจรจาติดตั้งซอฟแวร์เพิ่มเติมให้ครบตามสัญญา เพื่อประโยชน์และความสงบสุขของประเทศชาติ หากบริษัทโจทก์ยังดื้อดึงไม่ปฏิบัติตามสัญญา อาจติดแบ็ลคลิสต์ ทำให้เป็นคู่สัญญากับรัฐไม่ได้อีก ถือเป็นการฆ่าตัวตายทางวิชาชีพ
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 18:30 น.