ก.ศึกษา เปิดทางให้ครูไม่มีใบอนุญาตสอนหนังสือได้ที่ รร.ร่วมพัฒนา 50 แห่ง
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
ก.ศึกษา เปิดทางให้ครูไม่มีใบอนุญาตสอนหนังสือได้ที่ รร.ร่วมพัฒนา 50 แห่งเปิดทางให้ครูไม่มีใบอนุญาตสอนในโรงเรียนร่วมพัฒนา เพื่อให้คนที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญได้สอนเพื่อพัฒนาคุณภาพให้ดีขึ้น
วันที่ 4 ส.ค. 2561 ศ.นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังการประชุมโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership School) ว่า ที่ประชุมได้มีการติดตามการดำเนินการโครงการดังกล่าวทั้ง 50 แห่งใน 30 จังหวัด และได้หารือถึงเรื่องการประเมินและติดตามผล ควบคู่กับการทำงานวิจัย ซึ่งในส่วนนี้ถือว่าสำคัญมาก เนื่องจากเป็นข้อมูลที่จะบอกถึงความสำเร็จและ ยั่งยื่นของโครงการ โดยแนวทางในการติดตามและประเมินผลเพื่อพัฒนา ไม่สร้างภาระเพิ่มให้กับโรงเรียน ซึ่งคณะทำงานจะทำการศึกษาและถอดบทเรียนไปในทุกขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง
สำหรับรายชื่อโรงเรียนที่จะเข้าร่วมโครงการฯ ในระยะ ที่ 2 ประมาณ 20 กว่าแห่งโดยมีโรงเรียนที่อยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กว่า 10 แห่ง ขั้นตอนต่อไปทางคณะทำงานจะพิจารณาถึงความพร้อมของโรงเรียนที่เสนอขอเข้าร่วมและเข้าใจปรัชญาของโครงการนี้หรือไม่ ในวันที่ 20 กันยายนนี้ จะมีการประชุมร่วมกันของภาคเอกชนทั้ง 12 แห่ง เพื่อที่จะทำเวิร์คช็อป แลกเปลี่ยนเรียนรู้ว่าการดำเนินการในเรื่องต่างๆ ด้วย
ส่วนการคัดเลือกครูจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความรู้ ความสามารถแต่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูเข้ามาสอนในโรงเรียนได้ เชื่อว่าการเปิดช่องในเรื่องนี้จะช่วยทำให้ได้คนที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญสามารถเข้ามาสอนและถ่ายทอดความรู้พัฒนาคุณภาพให้ดีขึ้น
โครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา เป็นโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ การช่วยดูแลแก้ไขปัญหากฎระเบียบต่างๆ รวมทั้งการส่งเสริมในเรื่องคุณภาพมาตรฐาน แต่การบริหารงานจะอยู่ภายใต้การดูแลของผู้มีส่วนร่วมในระดับท้องถิ่นเป็นหลัก ซึ่งประกอบด้วยภาคเอกชน ผู้นำระดับท้องถิ่น ชุมชน ผู้ปกครอง และมหาวิทยาลัยในพื้นที่นั้นๆ
ทั้งนี้ โรงเรียนร่วมพัฒนาจะมีความแตกต่างจากโรงเรียนประชารัฐ กว่า 3,000 แห่ง เพราะภาคเอกชนไม่เพียงแต่สนับสนุนการจัดการศึกษาเท่านั้น แต่จะร่วมกับภาคประชาสังคมในท้องถิ่นร่วมบริหารจัดการด้วย อีกทั้งจะมีการออกแบบและยกระดับพัฒนาโรงเรียนอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะเรื่องของหลักสูตร ถือว่าหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานยังมีความยืดหยุ่นถึง 30% ทำให้โรงเรียนสามารถออกแบบหลักสูตรได้ตามความต้องการอย่างเต็มที่ อีกทั้งกระทรวงศึกษาธิการ ได้บรรจุโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา ไว้ในยุทธศาสตร์และแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2560-2579 ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี และเป็นเป้าหมายของการปฏิรูปการศึกษา
ขอบคุณเนื้อหาและที่มาของข่าวจาก :: WorkpointNews วันที่ 5 สิงหาคม 2561