กอปศ.เคาะร่างกฎหมายเด็กปฐมวัย
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
บอร์ด กอปศ.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.การพัฒนาเด็กปฐมวัย ยืนยันห้ามสอบเข้าอนุบาล และ ป.1สถานศึกษาใดฝ่าฝืน โดนโทษปรับ 5 แสนบาท
วันนี้ (8 พ.ค.) ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา(กอปศ.)เปิดเผยภายหลังประชุม กอปศ.ว่า ที่ประชุมให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาเด็กปฐมวัยและให้ส่งไปยังคณะรัฐมนตรี(ครม.)โดยร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีสาระสำคัญ อาทิ เด็กปฐมวัยหมายถึง บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 8 ปีบริบูรณ์ไม่ว่าจะมีสัญชาติใด และหมายรวมถึงทารกในครรภ์มารดาตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึงก่อนคลอด สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย คือ หน่วยงานหรือองค์กรที่ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือเอกชน ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการพัฒนาเด็กปฐมวัยทางด้านการศึกษาไม่ว่าจะเรียกชื่อว่าอย่างไร และไม่ว่าจะได้รับประโยชน์ตอบแทนหรือไม่ การรับเด็กปฐมวัยเพื่อเข้ารับการพัฒนาในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยและสถานศึกษา โดยวิธีสอบคัดเลือกจะกระทำมิได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่คณะกรรมการประกาศกำหนด ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5 แสนบาท ให้มีคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย มีฐานะเป็นนิติบุคคลที่เป็นหน่วยงานของรัฐแต่ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น ส่วน ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ยังไม่แล้วเสร็จอยู่ระหว่างการพิจารณาของ กอปศ.
ด้าน รศ.ดร.ดารณี อุทัยรัตนกิจ รองประธาน กอปศ. กล่าวว่า จากการประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นหน่วยงานต่างๆที่จัดการศึกษาปฐมวัย เห็นด้วยในทุกหลักการและทุกมาตราที่กำหนดไว้ใน ร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาเด็กปฐมวัย ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงเรื่องการไม่ให้มีการสอบเข้าเรียนอนุบาลและชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5 แสนบาท ด้งนั้น ห้ามสอบข้อเขียนโดยเด็ดขาด แต่สามารถประเมินได้โดยการสังเกตพฤติกรรมเด็ก สัมภาษณ์เด็กและพ่อแม่ร่วมกันได้ ทั้งนี้ ตามที่คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัยประกาศกำหนด ซึ่งการกำหนดเช่นนี้ กอปศ.มีหลักคิด ว่า เด็กระดับประถมศึกษา(ป.)ปีที่ 1ถึง มัธยมศึกษาตอนต้น(ม.)ปีที่ 3 เป็นการศึกษาภาคบังคับเป็นกระบวนการพัฒนา จริงๆแล้วไม่ควรสอบเข้าชั้น ม.1ด้วย เพื่อให้เด็กเรียนลื่นไหลไปได้เลย ไม่ต้องไปสอบสกัดกั้น ซึ่งขณะนี้คณะอนุกรรมการกระบวนการเรียนการสอนของ กอปศ.กำลังทำสมรรถนะกลางของเด็กประถมศึกษาอยู่ ส่วนการสอบให้ไปทำหลังเด็กเข้าเรียนเพื่อประเมินได้ว่าจะจัดการเรียนการสอนให้เด็กเพื่อบรรลุเป้าหมายของเด็กแต่ละคนอย่างไร
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม 2561 เวลา 13.16 น.