ไฟเขียวโครงสร้างกระทรวงการอุดมศึกษา
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
ไฟเขียวโครงสร้างกระทรวงการอุดมศึกษากพร.- สำนักงบฯ-ก.พ.ไฟเขียวโครงสร้างกระทรวงการอุดมศึกษา “หมออุดม”เผยกระทรวงใหม่ เทียบเท่ากรม 1 กรม ที่เหลือเป็นสำนัก ยืนยันไม่ของบฯและคนเพิ่ม
วันนี้ (20 เม.ย.) ที่โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค ศ.นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ กล่าวเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อระดมความคิดเห็นเรื่อง การจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา : โครงสร้าง อำนาจหน้าที่และทิศทางอุดมศึกษาไทยในอนาคต ว่า จากการประชุมร่วมกับคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับโครงสร้างของกระทรวงการอุดมศึกษาแล้ว โดยกระทรวงใหม่จะมีหน่วยงานที่มีฐานะเทียบเท่ากรม 1 กรม คือ สำนักงานปลัด และ 9 สำนัก ซึ่งประกอบด้วยสำนักเดิมที่มีอยู่ในโครงสร้างของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) 7 สำนัก ได้แก่ สำนักอำนวยการ (สอ.) สำนักนโยบายและแผนการอุดมศึกษา (สนผ.) สำนักประสานและส่งเสริมกิจการอุดมศึกษา (สสอ.) สำนักมาตรฐานและคุณภาพอุดมศึกษา (สมอ.) สำนักยุทธศาสตร์อุดมศึกษาต่างประเทศ (สยต.) สำนักส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพนักศึกษา (สพน.) สำนักส่งเสริมและพัฒนาสมรรถนะบุคลากร (สพบ.) และยกฐานะสำนักใหม่ อีก 2 สำนักคือ สำนักนิติการ และสำนักที่ดูแลงานวิจัยและนวัตกรรม ส่วนงบประมาณและบุคลากร
ศ.นพ.อุดม กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ตนยังได้ยืนยันกับทาง กพร. ก.พ.และสำนักงบประมาณ ว่ากระทรวงการอุดมศึกษานั้น จะไม่ขอเพิ่มงบประมาณและคน ในส่วนของ สกอ. ตนอยากให้ทุกคนมองไปข้างหน้า และยึดยุทธศาสตร์ของรัฐบาลและประเทศเป็นหลัก ที่สำคัญต้องปรับตนเอง เพราะโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก จากข้อมูลปี 2560 มีผู้สมัครแอดมิชชั่นเพียง 81,230 คน มีที่นั่งในมหาวิทยาลัยรับได้ 109,129 คน ซึ่งเป็นสถิติคนสมัครน้อยที่สุดในรอบ 10 ปี ดังนั้นมหาวิทยาลัยก็ต้องปรับตัวเองให้มากขึ้น ทั้งรูปแบบการเรียนการสอน แนวคิด ทัศนคติต่างๆ เนื่องจากประชากรวัยเรียนลดน้อยลงมาก โดยมหาวิทยาลัยจะต้องปรับหลักสูตรต่าง ๆเพื่อรองรับของคนวัยทำงานและคนสูงอายุ เป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต การเรียนแบบออนไลน์มากขึ้น รวมทั้ง ขนาดของมหาวิทยาลัยก็จะต้องเล็กลง หรือคาดการณ์ว่าจำนวนมหาวิทยาลัยก็จะเหลือน้อยลงด้วย
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 20 เมษายน 2561 เวลา 18.05 น.