เมื่อฉันจบใหม่แต่ได้เงินเดือน 49k
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากแชร์มาประสบการณ์เรียนและหางานให้พี่ๆน้องๆในพันทิป หวังว่าเรื่องของเราจะเป็นประโยชน์หรือแรงบัลดาลใจในการเรียนและทำงานให้ใครหลายคนได้ค่ะ
ก่อนอื่นขอบอกข้อมูลคร่าวๆของตัวเองนะคะ
เราอายุ 23 เป็นคนเชียงใหม่ ตอนม.ปลายเคยไปเรียนที่ญี่ปุ่นมา 3 ปี แล้วกลับมาเรียนสาขามนุษฯญี่ปุ่นที่ม.เอกชน ผ่าน n2 และได้เกียรตินิยมอันดับ 1 ค่ะ
เราใช้เวลา 3 ปีครึ่งในการเรียนจบป.ตรี เพราะเลือกที่จะไม่ฝึกงาน สาเหตุที่ไม่ฝึกเพราะมีประสบการณ์ทำงานอยู่แล้วคือเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่น (พาร์ททาม) ช่วงก่อนจบเราก็เริ่มหางาน เราเลือกส่งเรซูเม่ไปที่บริษัทที่เราสนใจ 4-5 ที่ ซึ่งเป็นโรงงานแถวถาคตะวันออกหมดเลย แต่เราได้ไปสัมภาษณ์แค่บริษัทเดียว เพราะวันสัมภาษณ์ที่เขากำหนดมาตรงกับวันที่เราว่าง (ช่วงที่ไปสัมภาษณ์เป็นช่วงสอบไฟนอลพอดี)
วันที่เราไปก็มีพี่ๆคนอื่นๆไปสัมภาษณ์ด้วย น่าจะอายุประมาณ 30 กันแล้ว เป็นผู้ใหญ่วัยทำงาน (ทุกคนดู professional มาก TT) ทุกคนต้องทำข้อสอบภาษาญี่ปุ่น, ภาษาอังกฤษ และสัมภาษณ์กับคนญี่ปุ่น 4-5 คน ตอนเราสัมภาษณ์ก็ใช้เวลาประมาณ 10 นาที เขาถามถามเรื่องทั่วๆไป เช่น จบจากไหน ทำไมถึงมาทำงานที่นี่ เป็นล่ามยากนะคิดว่าทำได้ไหม ฯลฯ เราก็ตอบไปเรื่อยๆใช้ภาษาง่ายๆ แต่เน้นพูดเสียงดังฟังชัด ตอนนั้นเราไม่รู้สึกกดดันเลย เพราะในใจคือเทตั้งแต่เห็นพี่ๆคนอื่นแล้ว เราคิดว่าตัวเองเป็นเด็กจบใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์เป็นล่ามมาก่อน โปรไฟล์คงจะสู้พี่ๆคนอื่นไม่ได้แน่ๆ
หลังจากสัมภาษณ์เสร็จต้องรอผล 1-2 สัปดาห์ แต่บอกตรงๆเลยค่ะว่าคิดตั้งแต่ตอนนั้นว่ายังไงตัวเองก็ไม่ผ่าน ก็บอกกับที่บ้านตามตรง ว่าคงไม่ได้งานที่นี่หรอก เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร ถ้าไม่ได้งานก็เรียนต่อป.โทก็ได้
พอกลับเชียงใหม่มาเราก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้อีกเลย ระหว่างนี้ก็มีบริษัทอื่นติดต่อมา แต่เราก็ไม่ได้ไปสัมภาษณ์ เพราะคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อม กะว่าจะเรียนต่อป.โทดีกว่า จนผ่านไป 1 สัปดาห์ บริษัทก็โทรมาแจ้งผลว่าเราผ่าน เราอึ้งเล็กน้อย บริษัทบอกว่าคำนวณเงินเดือนของเราแล้วจะได้ 48,750 บาท ตอนนั้นอึ้งไปอีกเพราะมันเยอะมากกกเกินคาด (เราเขียนใน resume ว่าต้องการ 30k) แต่ตอนนั้นเราตอบไปว่าขอตัดสินใจก่อน แล้วจะโทรไปให้คำตอบพรุ่งนี้
หลังจากวางสายก็รีบบอกครอบครัวและเพื่อนสนิท ตอนนั้นดีใจมากที่ได้เงินเดือนสูง แต่ก็กดดันมากเช่นกัน เพราะคิดว่างานที่ทำก็คงต้องหนักและยากไปตามเงินเดือนที่ได้ แถมยังต้องไปอยู่ไกลบ้านคนเดียว ตอนนั้นสับสันไปหมดว่าควรไปหรือไม่ไปดี แต่เราโชคดีที่มีครอบครัวและเพื่อนให้คำปรึกษาและกำลังใจว่านี่คือโอกาสที่ดีที่ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้
วันรุ่งขึ้นเราจึงตัดสินใจโทรไปบอกบริษัทว่าตกลงจะทำงานและขอเริ่มงานกลางเดือนธค.นี้ เราไม่รู้หรอกว่าตอนทำงานจะเป็นยังไงบ้าง สังคมที่ทำงานจะเป็นยังไง แต่ก็คิดว่าคนเรามีหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้ แล้วก็จะสู้และอดทนค่ะ
สุดท้ายเราต้องการจะบอกเพื่อนๆหรือน้องๆที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ว่า เราไม่ได้เป็นเด็กเรียน เราใช้ชีวิตปกติ เที่ยวเล่น ปาร์ตี้กับเพื่อน แต่เราต้องรู้จักรับผิดชอบหน้าที่ของตนเองให้ดีเสมอ work hard, play hard คือคติที่เราใช้ และไม่ว่าเราจะเรียนที่ไหนการตั้งใจเรียนและเก็บเกี่ยวความรู้ในคาบเรียนจะส่งผลให้เรามีอนาคตที่ดีและนำไปใช้ในการทำงานได้จริง และอยากแนะนำน้องๆให้เลือกเรียนภาษาที่ 3 ด้วย จะทำได้ให้เปรียบในการทำงาน เพราะในปัจจุบันบริษัทส่วนใหญ่จะพิจารณาเราจากผลการเรียน ความรู้ด้านต่างๆ ยิ่งถ้ามีเกียรตินิยม หรือเกียรติบัตรต่างๆ ก็จะยิ่งได้รับการพิจารมากขึ้น และสุดท้ายคือทัศคติที่ดีและความเป็นตัวเราเองค่ะ ขอให้ทุกคนสู้ๆนะคะ หากใครมีคำถาม หรือพี่ๆที่ต้องการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำงานเรายินดีตอบและรับฟังค่ะ ^^
ติดตามความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ได้ที่ ::https://pantip.com/topic/37168667