2ครูสาวได้กลับไปสอนในภูมิลำเนา
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
"เลขาธิการ กพฐ."แก้ปัญหาเบื้องต้น เยียวยา 2ครูสาว โรงเรียนภูมิลำเนาเดิมรับเป็นครูอัตราจ้าง พร้อมย้ำเงินสวัสดิการที่มอบให้ไม่เกี่ยวกับเงินเดือนที่ยังไม่ได้รับ
จากกรณีที่ เพจเฟซบุ๊ก สื่อท้องถิ่นเมืองพระร่วง ได้เผยเรื่องราวของ น.ส.วนาลี ทุนมาก ชาว ต.ป่างิ้ว อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ที่สอบบรรจุเป็นข้าราชการครู โดยติดในอันดับที่ 66 ของบัญชีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.) 38 สุโขทัย และ บรรจุไปปฏิบัติหน้าที่ที่โรงเรียนอุ้งผางวิทยาคม จ.ตาก โดยไม่ได้รับเงินเดือนเลยตลอด 5เดือนของการปฏิบัติหน้าที่ ขณะเดียวกันก็ได้รับหนังสือจาก สพม. 38 แจ้งว่าคณะกรรมการการศึกษาธิการจังหวัด(กศจ.)ตาก มีมติ ไม่อนุมัติการขอปรับเปลี่ยนวิชาเอกและขอเพิ่มเติมตำแหน่งว่างโรงเรียนอุ้งผางวิทยาคม และไม่อนุมัติการบรรจุแต่งตั้ง ทำให้ไม่ได้เป็นครูต่อ ซึ่งต่อมาได้พบว่ามีอีกกรณีหนึ่ง คือ น.ส.นิราวัลย์ เชื้อบุญมี ซึ่งสอบได้อันดับที่ 67 และได้รับการบรรจุในโรงเรียนเดียวกัน และประสบปัญหาเดียวกัน
วันนี้(5 พ.ย.) ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)กล่าวถึงความคืบหน้าการเยียวยา 2 ครูสาวทั้ง 2คน ว่า หลังจากที่ตนได้เดินทางไปพบและมอบเงินจากกองทุนสวัสดิการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) และเงินสมทบจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รวม 50,000 บาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ครูทั้ง 2 คนไปแล้ว นั้น
ตนได้หารือร่วมกับเขตพื้นที่และฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว เพื่อประสานหาโรงเรียนจ้างครูทั้ง 2 คนเป็นอัตราจ้างชั่วคราว โดย น.ส.วนาลี ทุนมาก ซึ่งมีภูมิลำเนาเดิมที่ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ได้โรงเรียนเมืองเชลียง อ.ศรีสัชนาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ครูวนาลีเคยเรียนตอนมัธยมศึกษา รับเข้าเป็นครูอัตราจ้างชั่วคราว โดยใช้งบประมาณสมาคมผู้ปกครองและครู ส่วนน.ส. นิราวัลย์ เขื่อบุญมี ภูมิลำเนาเดิม อ.เมือง จ.เลย ได้รับการประสานจากนายสมเจษฎ์ ศรีสมจักร์ ผอ.สพม.19 ว่า โรงเรียนเลยพิทยาคม จะจ้างเป็นอัตราจ้างชั่วคราวด้วยเงินอุดหนุนสถานศึกษา“ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าความผิดพลาดเกิดขึ้นที่ไหน จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งผมจะหารือกับนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งกำกับดูแลคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด(กศจ.)ก่อนที่จะตั้งคณะกรรมการลงไปสืบหาข้อเท็จจริงว่ามีความเป็นมาอย่างไร โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด
ส่วนจะได้กลับมาบรรจุเป็นข้าราชการหรือไม่ก็ต้องรอผลสืบข้อเท็จจริงก่อน
อย่างไรก็ตามกรณีนี้ก็เหมือนกับรถชนกันซึ่งยังไม่รู้ว่าใครผิดใครถูกแต่เมื่อมีผู้ได้รับบาดเจ็บก็ต้องดูแลผู้บาดเจ็บก่อน ส่วนกรณีการมอบเงินสวัสดิการช่วยเหลือเบื้องต้นก็เป็นการดูแลครูตามที่ควรจะเป็นไม่เกี่ยวกับเงินเดือนที่ครูยังไม่ได้รับ”เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2560 เวลา 11.21 น.