กพฐ.ยันคุณภาพผู้เรียนสะท้อนประสิทธิภาพครู
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
by กองบรรณาธิการ ข่าวสังคม VOICE TV 21
เลขาธิการ กพฐ. ยันคุณภาพผู้เรียนสะท้อนประสิทธิภาพครู วัด 3 กลุ่มสาระตามบริบท ทักษะ คิดวิเคราะห์ แบบ O-NET
นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า กรณีที่มีการนำเสนอข่าวถึงปัญหาคุณภาพการศึกษาของไทย โดยโครงการเฝ้าระวังการศึกษาโลก (GEM) ในสังกัดองค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติ รายงานถึงระบบการศึกษาทั่วโลกระหว่างปี 2003-2015 และยกตัวอย่างการจัดซื้อจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ในช่วงปี 2012-2014
เลขาธิการ กพฐ. เปิดเผยว่า โครงการจัดหาอุปกรณ์เทคโนโลยีส่งเสริมการเรียนการสอน (แท็บเล็ต) ในช่วงปี 2012-2014 กรณีบริษัทเอกชนไม่สามารถจัดส่งแท็บเล็ต จำนวน 804,742 เครื่อง เป็นการจัดซื้อ โซนที่ 1 (ภาคกลางและภาคใต้) และโซนที่ 2 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ผู้ขาย ซึ่งเป็นบริษัทต่างชาติ ภายใต้ชื่อบริษัท เซิ่นเจิ้น อิงถัง อินเทลิเจ้นท์ คอนโทรล จำกัด ไม่สามารถส่งมอบแท็บเล็ตตามสัญญา จึงได้ยกเลิกสัญญาซื้อขาย และจัดซื้อใหม่ โดยผู้ขายรายใหม่ได้ส่งมอบแท็บเล็ต ครบถ้วนถูกต้อง ตามสัญญา ให้กับโรงเรียนในโครงการ รวมทั้งการจัดซื้อในโซนที่ 3 ก็สามารถส่งมอบให้กับครูและนักเรียนได้เช่นเดียวกัน สำหรับการจัดซื้อโซนที่ 4 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ในช่วงเวลาที่ดำเนินการจัดหาตามระเบียบพัสดุฯ เกิดการเปลี่ยนแปลงในการบริหารประเทศ คสช. มีนโยบายที่จะนำเทคโนโลยีด้านอื่นมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน จึงได้ยกเลิกโครงการจัดซื้อแท็บเล็ต โซนที่ 4
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวถึง การวัดคุณภาพครูผู้สอนว่าขึ้นอยู่กับการประเมินของนักเรียน ไม่น่าที่จะเกิดอคติได้ง่าย เนื่องจากคุณภาพของผู้เรียน เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการจัดการเรียนการสอนของครู ซึ่งถ้าครูมีความมุ่งมั่นและตั้งใจก็ย่อมส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียนอย่างแน่นอน และที่สำคัญในการวัดคุณภาพของครูผู้สอนนั้น ไม่ได้ใช้ผลการประเมินคุณภาพผู้เรียนเพียงอย่างเดียว ต้องอาศัยองค์ประกอบอื่นในการปฏิบัติงานด้วย เช่น กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การพัฒนาสื่อและนวัตกรรมการเรียนการสอน การพัฒนาตนเองของครูผู้สอนเพื่อให้เกิดเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ การจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรนอกชั้นเรียน
“สำหรับการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-NET นั้น ในปี 2016 ได้ลดจำนวนวิชาที่ใช้ทดสอบจาก 8 วิชา เหลือเพียง 5 วิชา ได้แก่ วิชาภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา และภาษาอังกฤษ ล้วนเป็นวิชาหลักพื้นฐานที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อผู้เรียน ส่วน 3 วิชาที่ไม่ได้ทำการสอบ O-NET ได้แก่ ศิลปะ ดนตรีและนาฏศิลป์ สุขศึกษาพลศึกษา และการอาชีพและเทคโนโลยี ถือว่าเป็นวิชาที่พัฒนาทักษะกระบวนการและคุณลักษณะที่สำคัญแก่ผู้เรียน แต่เนื่องจากเนื้อหาสาระ 3 วิชาดังกล่าวที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอนมีความแตกต่างกันตามบริบทของสถานศึกษา ท้องถิ่น หรือวัฒนธรรมในแต่ละภูมิภาค จึงไม่เหมาะที่จะทำการทดสอบในระดับชาติ นอกจากนี้ เพื่อลดความแตกต่างของมาตรฐานการปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับการวัดประเมินผลระหว่างโรงเรียนในต่างจังหวัดและโรงเรียนส่วนกลาง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจึงได้ออกประกาศ “รูปแบบและแนวทางปฏิบัติในการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใน 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ไม่ได้ทำการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2560” เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2560 ขึ้น เพื่อให้การวัดและประเมินคุณภาพผู้เรียนของสถานศึกษาทั่วประเทศเป็นมาตรฐานเดียวกัน มีความถูกต้อง น่าเชื่อถือ และเป็นที่ยอมรับทางวิชาการ รวมทั้ง ยังได้พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ความสามารถในการสร้างข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนตามหลักสูตรที่เน้นวัดทักษะการคิดวิเคราะห์ในรูปแบบเดียวกับการทดสอบ O-NET การสร้างข้อสอบอัตนัยตามแนวทางการทดสอบระดับนานาชาติ การสร้างเครื่องมือประเมินภาคปฏิบัติ และเครื่องมือประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์อีกด้วย” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: VOICE TV 21 26 ตุลาคม 2560 เวลา 16:49 น.