กยศ.จ่อออกข้อกำหนดการเรียกชำระหนี้เงินกู้คืน
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
กยศ.เตรียมกำหนดแนวทางปฏิบัติชำระหนี้คืน โดยทำความเข้าใจหน่วยงาน นายจ้าง พร้อมพัฒนาระบบนำส่งเงินชำระหนี้ "ชัยณรงค์" เผยช่วง 5 ปีหลัง ผู้กู้ยืมเห็นความสำคัญของการคืนเงิน ตระหนักว่าเงินที่กู้ยืมไปจะต้องใช้คืน ส่วนผู้กู้ประสบเหตุจนพิการ กยศ.จะยกหนี้ให้ชี้ที่ผ่านมายกให้แล้วกว่าหมื่นราย ส่วนพวกเบี้ยวหนี้ยังไม่ขึ้นเครดิตบูโร
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า ตามที่ พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560 มาตรา 45 กำหนดให้กองทุนฯ มีอำนาจดำเนินการขอข้อมูลส่วนบุคคลของผู้กู้ยืมเงินจากหน่วยงานหรือองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน หรือบุคคลใดซึ่งเป็นผู้ครอบครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมทั้งมีอำนาจเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินและการชำระเงินคืนกองทุนของผู้กู้ยืมเงินให้แก่หน่วยงานหรือองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน หรือบุคคลใดตามที่ร้องขอ เพื่อประโยชน์ในการบริหารกองทุนและการติดตามการชำระเงินกองทุน ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงว่าด้วยการขอข้อมูลส่วนบุคคลของผู้กู้ยืมเงิน ซึ่งเบื้องต้นกองทุนฯ ก็จะขอข้อมูลจากสำนักงานประกันสังคม เพราะมีฐานข้อมูลของประชาชนทั่วไปที่ใหญ่มาก ซึ่งจะทำให้รู้ว่าผู้กู้ยืม กยศ.แต่ละคนทำงานอยู่ที่ไหนบ้าง เพื่อง่ายต่อการติดตามหนี้ นอกจากนี้จะติดต่อกรมบัญชีกลางเนื่องจากดูแลกลุ่มข้าราชการ จะมีข้าราชการและกรมสรรพากรเพื่อขอเลขบัตรประจำตัวประชาชน เป็นต้น
นายชัยณรงค์กล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกันกองทุนฯ จะต้องกำหนดแนวปฏิบัติเพื่อทำความเข้าใจกับองค์กรนายจ้างและหน่วยงานอื่นๆ พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมของระบบนำส่งเงินชำระหนี้ และเมื่อกองทุนฯ ได้ข้อมูลของผู้กู้ยืมเงินจากหน่วยงานต่างๆ แล้วก็จะแจ้งนายจ้างให้ทราบ และนายจ้างถึงจะหักเงินได้ของผู้กู้ยืมเงินเพื่อชำระหนี้คืน อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการชำระเงินคืนของผู้กู้ยืมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาดีขึ้นมาก เนื่องจากผู้กู้ยืมเห็นความสำคัญของการคืนเงิน และตระหนักว่าเงินที่กู้ยืมไปนั้นจะต้องใช้คืน เพื่อประโยชน์สำหรับผู้กู้รายอื่นๆ ที่จะได้มีโอกาสทางการศึกษาเพิ่มมากขึ้น และที่ผ่านมาหากมีผู้กู้ยืมประสบเหตุการณ์จนทำให้พิการ และแจ้งมาที่ทางกองทุนฯ จะระงับหนี้ให้ แต่กองทุนฯ ได้กำหนดไว้แล้วว่าพิการขั้นไหนถึงจะระงับหนี้ได้ และตั้งแต่ตั้งกองทุนฯ ได้ระงับหนี้ผู้พิการไปแล้วกว่าหมื่นราย ส่วนประเด็นการนำชื่อผู้ไม่ชำระหนี้เข้าสู่เครดิตบูโรนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการพูดถึง เนื่องจากเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน การจะดำเนินการใดต้องศึกษาให้รอบคอบก่อน.
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 28 สิงหาคม 2560