LASTEST NEWS

12 ม.ค. 2568สพม.สมุทรปราการ เรียกบรรจุครูผู้ช่วย (ขอใช้บัญชีเขตอื่น) จำนวน 35 อัตรา - รายงานตัว 13 มกราคม 2568 12 ม.ค. 2568สพป.ปทมธานี เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย รอบที่ 4 จำนวน 20 อัตรา - รายงานตัว 13 มกราคม 2568 11 ม.ค. 2568​​​​​​​สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดสอบพนักงานราชการ วุฒิปริญญาตรี เงินเดือน 18,000.- บาท สมัครได้ตั้งแต่ 16-22 มกราคม 2568 10 ม.ค. 2568(( รวมลิงก์ )) ประกาศตำแหน่งว่างรับย้ายครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบ TRS ประจำปี พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 1 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 10 ม.ค. 2568(( รวมลิงก์ )) ประกาศตำแหน่งว่างรับย้ายครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบ TRS ประจำปี พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 1 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ (ต่อ) 10 ม.ค. 2568“วันครู” ปีนี้ “ศธ.จัดเต็ม”รับของขวัญจาก 11 หน่วยงาน ทั้ง ลดภาระ ส่งเสริม พัฒนา ฟรีเรียนออนไลน์ 10 ม.ค. 2568ดาวน์โหลด แบบบันทึกข้อความ ชี้แจงกรณียื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตล่าช้าหลังจากวันที่ใบอนุญาตหมดอายุแล้ว 10 ม.ค. 2568ครูอุ้ม เชิญชวนศิษย์ทั่วไทย ร่วมระลึก “พระคุณครู” 16 มกราคมนี้ เชื่อเมื่อครูเปลี่ยนทันโลก ช่วยสร้างศิษย์ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ ได้แน่นอน  10 ม.ค. 2568ครูอุ้มใจดี มอบโล่รางวัลแก่เด็กดีเด่น-เด็กที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ กว่า 1,292 คน เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 2568 10 ม.ค. 2568อว.เตรียมผลิตครูพัฒนาท้องถิ่น เฟส 2 หลังเฟสแรกได้ครูรุ่นใหม่ ไฟแรง มีจิตวิญญาณ เก่ง ฉลาด แต่กว่าครึ่งมีจุดอ่อนด้านภาษา 

วิจัยชี้ชัด ร.ร.อยู่รอดต้องปฏิบัติตามนโยบายล่างสู่บน

  • 19 ส.ค. 2560 เวลา 10:08 น.
  • 8,733
วิจัยชี้ชัด ร.ร.อยู่รอดต้องปฏิบัติตามนโยบายล่างสู่บน

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

วิจัยชี้ชัด ร.ร.อยู่รอดต้องปฏิบัติตามนโยบายล่างสู่บน

เผยวิจัย แจงร.ร.ที่อยู่รอด ปฏิรูปการศึกษาประสบผลสำเร็จ ต้องขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาจากล่างสู่บน พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ ไม่ใช่การปฏิรูปแบบครึ่งๆกลางๆ
        จากการที่ได้ทำวิจัย เรื่องการสังเคราะห์รูปแบบการจัดการเรียนรู้ชุมชน โดยใช้การวิจัยเป็นฐาน ผ่านเก็บข้อมูลภาคสนามทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาจากล่างสู่บน โดยได้รับทุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดเผยว่าโรงเรียนที่อยู่รอด เป็นแม่เหล็กของสังคมที่ดึงดูดคนมาเรียนได้ จะต้องเป็น โรงเรียนที่มีลักษณะดังนี้ ประการแรก เป็นโรงเรียนที่เปลี่ยนมุมมองจากการปฏิบัติตามนโยบายเป็นจากล่างสู่บน ประการที่สอง มีการกระจายอำนาจในรูปแบบ 60-20-20 คือ อำนาจการบริหารจัดการเป็นของโรงเรียนร้อยละ 60 , คณะกรรมการการศึกษาจังหวัด (กศจ.) ร้อยละ 20 ,อำนาจของกระทรวงศึกษาธิการร้อยละ 20 ประการที่สาม เป็นโรงเรียนนิติบุคคลและ มีโรงเรียนเครือข่าย โดยโรงเรียนกลุ่มนี้จะทำงานเป็นเครือข่ายร่วมกับโรงเรียนอื่นและชุมชน เพื่อแลกเปลี่ยนวิธีการคิด งบประมาณ  สร้างนวัตกรรม มีงานวิชาการและงานวิจัยรองรับ มีการลงมือปฏิบัติ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา และสามารถให้คำตอบเชิงนโยบายได้ ที่สำคัญในความเป็นนิติบุคคลควรต้องมีกฎหมายรองรับเขียนอำนาจหน้าที่ไว้ให้ชัดเจน

       ทั้งนี้ ส่วนระดับ กศจ. จะต้องแบ่งงานกับ ศึกษาธิการภาค และศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.)ให้ชัดเจน สำหรับกระทรวงศึกษาธิการนั้น ตนมีข้อเสนอให้บริหารจัดการโดยไม่มีกรม มีแต่ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และแบ่งงานโดยรวมกลุ่มงานเป็นคลัสเตอร์  4-5 กลุ่ม อาทิ กลุ่มที่ทำหน้าที่ดูแลเชิงนโยบาย แผนการศึกษา กฎหมายการศึกษา ,กลุ่มงานวิจัย หลักสูตร สร้างนวัตกรรม ,กลุ่มงบประมาณ, กลุ่มกำกับติดตามตรวจสอบ โดยเป็นการทำงานเชิงบูรณาการ ไม่มีแท่งใครแท่งมัน หรือ กรมใครกรมมัน แต่จะทำงานตามเนื้องาน


        “ผู้บริหารโรงเรียนต้องกล้าคิดนอกกรอบ ซึ่งเรามีตัวอย่างโรงเรียนที่ประสบความสำเร็จเป็นต้นแบบ เช่น กลุ่มเครือข่ายโรงเรียนบ้านเกาะคา จ.ลำปาง, กลุ่มเครือข่ายบ้านคูเมือง จ.อุบลราชธานี เป็นต้น หากสามารถเปลี่ยนวิธีคิดให้ขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาจากล่างสู่บนได้ผล จะทำให้การปฏิรูปการศึกษาประสบผลสำเร็จ ในลักษณะพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ ตอบโจทย์ประเทศได้ ไม่ใช่การปฏิรูปแบบครึ่งๆกลางๆ ลูบหน้าปะจมูกอย่างที่ทำอยู่” ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว

ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก  วันที่ 16 สิงหาคม 2560
  • 19 ส.ค. 2560 เวลา 10:08 น.
  • 8,733

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

^