การสร้างครูชั้นเยี่ยมของโลก
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
การสร้างครูชั้นเยี่ยมของโลกโดย ลม เปลี่ยนทิศ
วันก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำ “หลักคิดในการปฏิรูปประเทศไทย” ที่เขียนขึ้นไปแจกคณะรัฐมนตรี และแถลงว่ามีประเด็นสำคัญ 3 เรื่องคือ 1.บทบาทและขอบเขตประชาธิปไตย 2.ความไม่เป็นธรรมทางเศรษฐกิจ 3.การศึกษา ท่านให้ความสำคัญเรื่องการศึกษาอยู่ในอันดับ 3 แต่ให้ความสำคัญเรื่องการเมืองหรือประชาธิปไตยอยู่ในอันดับ 1 ก็เป็นความคิดของท่าน ผมไม่มีความเห็น
ส่วนตัวผมเชื่อว่า “การศึกษาที่ดี” จะสร้างทุกอย่างให้ดีได้หมด
วันเสาร์สบายๆวันนี้ผมเลยขอชวนท่านผู้อ่านไปคุยเรื่อง “การศึกษา” กันอีก อย่าเพิ่งเบื่อนะครับ การศึกษานี่แหละคือการสร้างคนสร้างชาติที่ดีที่สุด การ “สร้างคน” ให้มีการศึกษาที่ดีได้ ย่อมหนีไม่พ้น “ครูที่ดี” นั่นเอง “ครูที่ดี” ไม่ใช่ “เรือจ้าง” อย่างคติไทยๆ ส่งผลให้รัฐบาลในอดีตละทิ้งการสร้างครูที่ดีครูที่เก่ง ละทิ้งการพัฒนาครู จนการศึกษาไทยล้มเหลวตกต่ำล้าหลัง มีแต่ตัวเลขปลอมๆให้ปลื้มกันเอง ท่ามกลางปัญหามากมายในชาติที่เป็นผลมาจากการศึกษาที่ล้มเหลว
ผมประทับใจชื่อหนังสือ No Time To Lose ที่ ศ.ดร.อารี สัณหฉวี แปลจากเอกสาร การปฏิรูปการศึกษาของสหรัฐอเมริกา ค.ศ. 2013–2017 ใช่แล้วครับ เราไม่มีเวลาที่จะสูญเสียอีกต่อไปแล้ว การปฏิรูป การศึกษาไทยที่ล้มเหลว เป็นความเร่งด่วนอันดับ 1 ทุกรัฐบาลพูดเรื่องปฏิรูปการศึกษา แต่ไม่เคยทำจริงจัง แม้แต่รัฐบาลที่มีอำนาจมากที่สุด
วันนี้ผมจะยกตัวอย่าง ประเทศฟินแลนด์ อีกครั้ง ประเทศเล็กๆ ในกลุ่มสแกนดิเนเวียที่ได้ชื่อว่า มีระบบการศึกษาดีที่สุดในโลก ใครไปเยี่ยมก็ต้องชม โรงเรียนฟินแลนด์สวยงามมาก ในห้องเรียนจะไม่เห็นครูยืนบรรยายหน้าชั้น หรือมือถือชอล์กเขียนกระดานดำเหมือนครูไทย ไม่เห็นนักเรียนนั่งเรียนตามโต๊ะเรียนที่ตั้งเป็นแถว เพราะ นักเรียนฟินแลนด์จะเรียนรู้ด้วยตัวเอง ด้วยการทำงานเป็นกลุ่ม หรือประชุมหารือกับครูผู้สอน
รัฐบาลฟินแลนด์ ให้การศึกษาแก่เด็กอย่างทั่วถึง มีการเลี้ยงอาหาร มีรถรับส่งเสร็จ ไม่ต้องให้ผู้ปกครองทิ้งงานไปรับส่งที่โรงเรียน การศึกษาแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ระดับปฐมวัย อายุ 1–7 ปี ระดับการศึกษาแบบบูรณาการ Comprehensive School อายุ 7–16 ปี ระดับมัธยมปลาย อายุ 16–19 ปี จากนั้นไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยหรือวิชาชีพต่างๆ
จุดเด่น ที่ทำให้การศึกษาของฟินแลนด์เป็นอันดับ 1 ของโลก คือ มีคุณครูชั้นเยี่ยม การสอบเข้าเรียนครูในฟินแลนด์ยากมาก และมีการแข่งขันสูงมาก ไม่ใช่สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ก็ไปสมัครเรียนครูแบบเมืองไทย แต่ละปีมหาวิทยาลัยฟินแลนด์จะรับผู้เรียนครูเพียง 10% ของผู้สมัครทั้งหมด ฟินแลนด์ทุ่มมากกับ การฝึกหัดครู หรือ Teacher Education หลักสูตรวิชาครูต้องเรียน 5 ปี (เหมือนไทยสมัยก่อน) เป็นระดับปริญญาโท
สามปีแรกเรียนหลักสูตรปริญญาตรี สองปีหลังเรียนหลักสูตรครูโดยเฉพาะ ผู้สอบได้จะได้เรียนฟรีและมีเงินเดือนด้วย
โรงเรียนฟินแลนด์ ครูทุกคนต้องประชุมหารือพัฒนาการเรียนการสอนสัปดาห์ละครึ่งวัน โดยมีหลักสูตรเป็นแกนกลาง ครูมีอิสระที่จะสอนและจัดกิจกรรมนักเรียน เป็น ระบบบูรณาการ ทั้งแบบดึงเข้าสู่ศูนย์กลาง และกระจายอำนาจออกจากศูนย์กลาง ทำให้ครูกล้าทดลองพัฒนาวิธีการสอนใหม่ๆตลอดเวลา (เหมือนโรงเรียนสาธิตในบ้านเรา) โดยมี “ผู้ตรวจการศึกษา” ไปตรวจเยี่ยมและให้คำแนะนำแก่ครูอย่างสมํ่าเสมอ
ถ้าเป็นเด็กที่มีความต้องการพิเศษ รัฐก็จะจัดครูพิเศษไปสอนให้บางชั่วโมง เหมือน โรงเรียนสาธิตเกษตรฯ ที่มีโครงการสอนเด็กพิเศษที่ไม่มีโรงเรียนไหนรับสอน
ทั้งหมดที่นำมาเล่าให้ฟังนี้ จะเห็นว่า ประเทศที่ปฏิรูปการศึกษาสำเร็จ ล้วนต้องมี “ครูดี” เป็นหลัก ได้ครูดีมีชัยไปกว่าครึ่ง การสร้างครูที่ดีและเก่ง จึงเป็น หัวใจของการปฏิรูปการศึกษา ผมก็หวังว่า รัฐบาล และ กระทรวงศึกษา จะมองเห็น อุโมงค์แห่งแสงสว่างนี้ แทนที่จะนำเงินงบประมาณปีละ 5 แสนกว่าล้านบาท ไปละเลงทำอะไรก็ไม่รู้ทุกปี แต่การศึกษาของเด็กที่เป็นอนาคตของชาติ กลับล้มเหลวตกตํ่าลงไปเรื่อยๆ.
“ลม เปลี่ยนทิศ”
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวที่มาจาก :: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 18 ก.พ. 2560 เวลา 05:01 น.