LASTEST NEWS

10 ม.ค. 2568(( รวมลิงก์ )) ประกาศตำแหน่งว่างรับย้ายครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบ TRS ประจำปี พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 1 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 10 ม.ค. 2568(( รวมลิงก์ )) ประกาศตำแหน่งว่างรับย้ายครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบ TRS ประจำปี พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 1 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ (ต่อ) 10 ม.ค. 2568“วันครู” ปีนี้ “ศธ.จัดเต็ม”รับของขวัญจาก 11 หน่วยงาน ทั้ง ลดภาระ ส่งเสริม พัฒนา ฟรีเรียนออนไลน์ 10 ม.ค. 2568ดาวน์โหลด แบบบันทึกข้อความ ชี้แจงกรณียื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตล่าช้าหลังจากวันที่ใบอนุญาตหมดอายุแล้ว 10 ม.ค. 2568ครูอุ้ม เชิญชวนศิษย์ทั่วไทย ร่วมระลึก “พระคุณครู” 16 มกราคมนี้ เชื่อเมื่อครูเปลี่ยนทันโลก ช่วยสร้างศิษย์ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ ได้แน่นอน  10 ม.ค. 2568ครูอุ้มใจดี มอบโล่รางวัลแก่เด็กดีเด่น-เด็กที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ กว่า 1,292 คน เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 2568 10 ม.ค. 2568อว.เตรียมผลิตครูพัฒนาท้องถิ่น เฟส 2 หลังเฟสแรกได้ครูรุ่นใหม่ ไฟแรง มีจิตวิญญาณ เก่ง ฉลาด แต่กว่าครึ่งมีจุดอ่อนด้านภาษา  09 ม.ค. 2568โรงเรียนเพชรพิทยาคม รับสมัครลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่งพนักงานบริการ สมัครได้ที่  กลุ่มบริหารงานบุคคล โรงเรียนเพชรพิทยาคม ตั้งแต่วันที่  14 – 18 มกราคม พ.ศ. 2568  (ไม่เว้นวันหยุดราชการ 08 ม.ค. 2568สำนักงาน ก.พ. รับสมัครแข่งขันเพื่อเป็นบัญชีร่วม สำหรับให้ส่วนราชการใช้บรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ ประจำปี 2568 จำนวน 299 อัตรา ตั้งแต่บัดนี้ - 23 มกราคม 2568 08 ม.ค. 2568สาร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปีพุทธศักราช 2568 วันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568

"มีชัย"ฟันธงปฏิรูปศึกษาต้องล้มระบบ"แท่ง"

  • 30 ม.ค. 2560 เวลา 22:13 น.
  • 14,887
"มีชัย"ฟันธงปฏิรูปศึกษาต้องล้มระบบ"แท่ง"

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

"มีชัย"ฟันธงปฏิรูปศึกษาต้องล้มระบบ"แท่ง"

ถึงจะแจ้งเกิดได้ย้ำต้องใช้คนนอกศธ.มีมุมมองทะลุกรอบเป็นกก.อิสระวางทิศพัฒนา

"มีชัย" ชี้ปฏิรูปการศึกษาเกิดขึ้นได้ต้องล้มระบบแท่ง และให้คนนอก คณะกรรมการอิสระมาเป็นผู้กำหนดทิศทาง ส่วนประธานปฏิรูปฯ ต้องไม่ใช่นายกรัฐมนตรี โดย 2 ปีหลัง รธน.ประกาศใช้จะเห็นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น

ที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) มีการจัดประชุมสภาการศึกษาเสวนา OEC Forum หัวข้อ "รัฐธรรมนูญกับทิศทางการปฏิรูปการศึกษา" โดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวปาฐกถาเรื่อง "รัฐธรรมนูญกับทิศทางการปฏิรูปการศึกษา" ตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมาเราพยายามเลียนแบบการพัฒนาการเรียนการสอนจากต่างประเทศ แต่เหตุใดประเทศไทยจึงยังอยู่กับที่ ขณะที่หากเรามองประเทศในภาพรวมจะพบว่า ประเทศเรามีปัญหาความไม่สงบเกิดขึ้นในการดำรงชีวิต เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม เกิดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และการไม่สนใจไยดีที่จะทำตามกฎข้อบังคับของกฎหมาย รวมถึงการแสวงหาอำนาจในทางไม่ชอบ ซึ่งปัญหาเหล่านี้เกิดจากระบบการศึกษา เพราะการศึกษาถือเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิรูปประเทศ ดังนั้นบทบัญญัติการศึกษาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยนั้น จึงมีความจำเป็นต้องเน้นการจัดการศึกษาตั้งแต่เริ่มต้น โดยในมาตรา 54 ที่รัฐต้องดำเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลา 12 ปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย

"ผมเห็นว่าการพัฒนาเด็กตั้งแต่ก่อนวัยเรียนเป็นเรื่องสำคัญ อยากให้มหาวิทยาลัยผลิตครูในด้านการศึกษาปฐมวัยให้มากขึ้น เพราะการศึกษาปฐมวัยเป็นเรื่องสำคัญ และไทยยังขาดอัตรากำลังครูในส่วนนี้อยู่ นอกจากนี้ ในการผลิตครูของมหาวิทยาลัยพวกกลุ่มองค์กรวิชาชีพ เช่น คุรุสภา จะต้องอำนวยความสะดวกให้แก่มหาวิทยาลัย ไม่ควรไปกำหนดหลักสูตรการผลิตมากเกินไป เพราะเหมือนเป็นการปิดกั้นสถาบันอุดมศึกษาที่เป็นหน่วยงานคิดค้นองค์ความรู้ใหม่ๆ ดังนั้นในรัฐธรรมนูญหมวดที่เกี่ยวข้องจึงมีการระบุว่า องค์กรวิชาชีพไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายการจัดทำหลักสูตรของสถาบันอุดมศึกษา แต่ควรทำหน้าที่ให้คำแนะนำมากกว่า" ประธาน กรธ.กล่าว

นายมีชัยกล่าวอีกว่า ตามวรรค 4 ของรัฐธรรมนูญ มีเป้าหมายการศึกษาทั้งปวงต้องมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ สามารถเชี่ยวชาญได้ตามความถนัดของตน และมีความรับผิดชอบต่อครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ดังนั้นการจะสร้างคนดี มีวินัย มีคุณธรรม จริยธรรม จะต้องเริ่มสร้างกันตั้งแต่เด็กก่อนวัยเรียน อย่างไรก็ตาม การจะบรรลุเป้าหมายได้นั้นจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กลไกหลักยังคงเป็นแท่ง ซึ่งแต่ละแท่งมีอาณาจักรของตัวเอง และในภาพรวมไม่มีการคิดเชื่อมโยงการพัฒนาเพื่อไปสู่เด็ก ดังนั้น การปฏิรูปการศึกษาจึงต้องทลายแท่งที่ถือว่าเป็นกำแพงการพัฒนา เหมือนคล้ายๆ การล้ม ศธ. แต่ไม่ได้ล้มจริงๆ

ประธาน กรธ.กล่าวอีกว่า ดังนั้น เพื่อให้การปฏิรูปการศึกษาเป็นการปฏิรูปครั้งใหญ่จริงๆ จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่คนระดับ 11 มากำหนดนโยบาย แต่จะต้องเป็นคนนอกที่ไม่ใช่คนในวงการศึกษา เพราะคนในวงการศึกษาจะชอบคิดในกรอบ มองไม่ทะลุปัญหา ดังนั้นเราจะต้องหาคนที่สนใจการศึกษาจากข้างนอกให้เข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิรูป รวมถึงประธานคณะทำงานด้านปฏิรูปการศึกษาก็ไม่ควรจะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะคนจะเกรงใจจนไม่กล้าเสนอความคิดเห็น กรธ.จึงกำหนดให้คณะรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาคณะหนึ่ง และต้องทำงานให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปีหลังรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ ซึ่งคณะกรรมการอิสระชุดนี้จะทำหน้าที่กำหนดนโยบายการศึกษาให้อยู่ในทิศทางเดียวกัน

"เราต้องใช้คนนอก รู้เรื่องการศึกษา และใจกว้างพอสมควร เพื่อมารับฟังและสรุปให้ได้ผลที่ทุกคนรับได้ ไม่มีการคิดถึงแต่หน่วยงานของตนเอง ให้คิดถึงการศึกษาเป็นหลัก" นายมีชัยกล่าวย้ำ.

ขอบคุณเนื้อหาและที่มาของข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 31 มกราคม 2560
  • 30 ม.ค. 2560 เวลา 22:13 น.
  • 14,887

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

^