"รร.ไอซียู"พรึ่บ!ส่งชื่อมาแล้วกว่า6พันโรง
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
สพฐ.ตั้ง คกก.คัดกรอง รร.ไอซียู "เลขาฯ กพฐ." เผยส่งรายชื่อเข้ามาแล้วมากกว่า 6 พันโรง พิจารณา 6 ด้าน กายภาพ อาคารสถานที่ โอกาสทางการศึกษา คุณภาพการศึกษา ประสิทธิภาพ การบริหาร และระบบสนับสนุนอื่นๆ ชี้โรงเรียนไอซียูเป็นไปได้ทั้ง รร.ยอดนิยมหรือ รร.ขนาดเล็ก ต้องเข้าไปช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้เป็นรายโรง ด้าน "เลขาฯ กอศ." เผยวิทยาลัยมีด้วย ส่งชื่อมาแล้วกว่า 300 วิทยาลัย
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า ตามที่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) มอบหมายให้เร่งสำรวจโรงเรียนที่มีปัญหาวิกฤติทางการศึกษาที่ต้องได้รับการพัฒนาและช่วยเหลือเป็นพิเศษอย่างเร่งด่วน หรือโรงเรียนไอซียู นั้น ขณะนี้เขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศส่งรายชื่อโรงเรียนมาแล้วประมาณ 6,000 โรง ซึ่งตนได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อลงพื้นที่คัดกรองสถานศึกษาแล้ว ประกอบด้วย รองเลขาฯ กพฐ. รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (รองเลขาฯ กอศ.) รองเลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (รองเลขาฯ กศน.) และรองเลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชน (รองเลขาฯ กช.)
ส่วนการคัดกรองว่าโรงเรียนใดจะเข้าข่ายเป็นโรงเรียนไอซียูนั้น จะพิจารณาใน 6 ด้าน คือ ด้านกายภาพ อาคารสถานที่ ด้านโอกาสทางการศึกษา ด้านคุณภาพการศึกษา ด้านประสิทธิภาพ ด้านการบริหาร และด้านระบบสนับสนุนอื่นๆ ซึ่งบางโรงอาจจะมีลักษณะไอซียูในบางด้าน จนเป็นเหตุให้ต้องเข้าไปช่วยเหลือเป็นพิเศษ โดยการพิจารณาปัญหาจะไม่ได้ดูจากขนาดของโรงเรียน ดังนั้นโรงเรียนไอซียูจึงเป็นไปได้ที่จะมีทั้งโรงเรียนยอดนิยม โรงเรียนขนาดเล็ก เป็นไปได้ทุกขนาดที่มีปัญหามีจุดบอดที่เราจะต้องเข้าไปช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้เป็นรายโรง
"โรงเรียนอาจจะไม่ไอซียูทุกเรื่อง แต่เราจะพิจารณาจากอาการใดอาการหนึ่ง หรือบางโรงเรียนอาจมีปัญหาหนักหลายเรื่องก็เข้าข่ายไอซียู โดยผู้อำนวยการโรงเรียนจะกรองมาแล้วว่าโรงเรียนนั้นไอซียูเรื่องอะไร โดยมีครู กรรมการสถานศึกษา และชุมชน ร่วมกันพิจารณาด้วยว่าอะไรคือปัญหาที่ส่งผลกระทบกับการจัดการศึกษาของโรงเรียนที่ต้องแก้ปัญหาเป็นพิเศษและเร่งด่วน ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขจะเกิดอุปสรรคและกระทบต่อการจัดการศึกษาได้ แล้วคณะกรรมการกลั่นกรองจะต้องเข้าไปกลั่นกรองอีกครั้งหนึ่ง ก่อนส่งมาที่ส่วนกลางเพื่อจัดสรรงบประมาณลงไปช่วยเหลือ โดยจะช่วยโรงเรียนที่อาการค่อนข้างหนักก่อน ส่วนที่เหลือก็จะเก็บข้อมูลไว้แล้วค่อยทยอยช่วยเหลือต่อไป" เลขาฯ กพฐ.กล่าว
ด้านนายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาฯ กอศ.) กล่าวว่า ในส่วนของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ขณะนี้ได้ส่งรายชื่อมาแล้วจำนวนกว่า 300 แห่ง จากวิทยาลัยในสังกัด 426 แห่ง ซึ่ง สอศ.จะต้องคัดกรองอีกครั้งหนึ่ง โดยจะเน้นวิทยาลัยที่มีปัญหาวิกฤติที่ส่งผลต้องการจัดการเรียนการสอนเป็นหลัก เนื่องจากที่ส่งมาส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาด้านกายภาพ ซึ่งเราจะก็ให้ความสำคัญ แต่ในระยะแรกคงต้องเน้นเรื่องการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนก่อน ส่วนปัญหาอื่นๆ จะเสนอเป็นลำดับถัดไป.
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 16 มกราคม 2560