คุรุสภาเคาะหลักสูตร 5 ปีต้องสอบตั๋วครู
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
คุรุสภาเคาะหลักสูตร 5 ปีต้องสอบตั๋วครู"ดาว์พงษ์" ย้ำไม่ให้เด็กเดือดร้อน-ใช้ปี 61 ปลดล็อกใบอนุญาตตกค้าง
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการคุรุสภาเมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาได้ขอมติที่ประชุมกรณีที่มีผู้ได้ยื่นขอ และยื่นต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู และผู้บริหารสถานศึกษา ในช่วงที่ผ่านมากว่าพันคน แต่เนื่องจากคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) ไม่สามารถทำหน้าที่เพื่อพิจารณาอนุมัติให้ได้ เพราะองค์ประกอบของคณะกรรมการ กมว.ไม่สมบูรณ์ อีกทั้งประธาน กมว.เองก็ไปปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งทางการเมืองแล้ว จึงทำให้ผู้ที่มายื่นเรื่องไว้ตกค้างอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่ยื่นขอและยื่นต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่งจะนำไปใช้ในการสมัครสอบผู้บริหารสถานศึกษา ระหว่างวันที่ 18-24 พ.ย.นี้ หากไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพอาจจะเสียสิทธิ์ได้ ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติอนุมัติให้ออกและให้ต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู และผู้บริหารสถานศึกษากับผู้ที่ได้ยื่นขอเอาไว้ทั้งหมด
“ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ตั้งคณะอนุกรรมการ กมว. มีนายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา เป็นประธานในการทำหน้าที่พิจารณาออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษาแก่ผู้ที่มายื่นขอและยื่นต่อใบอนุญาต ระหว่างนี้ไปจนถึงวันที่ 24 พ.ย. อีกทั้งมีมติตั้งคณะกรรมการ กมว.ชุดใหม่ จำนวน 9 คน ทำหน้าที่แทนคณะกรรมการ กมว.ชุดเก่า โดยมี ดร.กมล รอดจ่าย เลขาธิการสภาการศึกษา เป็นประธาน” รมว.ศธ.กล่าว
พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณากรอบแนวคิดการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูให้กับนักศึกษาที่เรียนครุศาสตร์ และศึกษาศาสตร์ 5 ปี ซึ่งเดิมนั้นเมื่อสำเร็จการศึกษาจะได้ใบประกอบวิชาชีพครูทันที แต่นับจากนี้ไปที่ประชุมได้มีมติให้นักศึกษาครูจะต้องเข้าสอบวัดความรู้ก่อนที่จะสำเร็จการศึกษา เพื่อทดสอบคุณสมบัติของความเป็นครู เพราะเรามีสถาบันการศึกษาที่เปิดสอนสายครูจำนวน 100 กว่าแห่ง คุณภาพจึงอาจจะไม่ทัดเทียมกัน การได้สอบวัดความรู้ ความสามารถก่อนจบจึงจะช่วยทำให้ทราบว่านักศึกษามีความรู้ในแต่ละด้านจริงหรือไม่ หากใครสอบไม่ผ่านก็จะไม่ได้ใบประกอบวิชาชีพ ซึ่งในเบื้องต้นนี้ได้มอบให้คุรุสภาไปหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ว่าควรจะทดสอบในเรื่องใดบ้าง ขณะเดียวกัน ข้อสอบกลางที่คุรุสภาจะจัดทำเป็นคลังข้อสอบนั้นจะต้องเป็นสิ่งที่เด็กได้เรียนจริงๆ ที่สำคัญการสอบจะต้องไม่เป็นภาระของเด็ก โดยตนตั้งใจให้ดำเนินการเรื่องนี้ให้ได้ในปี 2561.
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 23 พ.ย. 2559 เวลา 06:01 น.