การศึกษาทางไกล"ครูตู้"ขยายความรู้สู่เด็กไทย
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
การศึกษาทางไกล"ครูตู้"ขยายความรู้สู่เด็กไทยชุลีพร อร่ามเนตร
"ให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล เป็นสถาบันอุดมศึกษาด้านวิชาชีพและเทคโนโลยี มีวัตถุประสงค์ให้การศึกษา ส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพชั้นสูงที่เน้นการปฏิบัติ การสอน การวิจัย การผลิตครูวิชาชีพ การจัดการศึกษา ตลอดชีวิตด้านวิชาชีพ ให้บริการวิชาการแก่สังคม ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและรักษาสิ่งแวดล้อม" ความในมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ.2548 ซึ่งกล่าวถึงวัตถุประสงค์ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) รัตนโกสินทร์ 1ใน 9 มทร.ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยยกระดับขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2548 ทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2548 พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 2548 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2548 ซึ่งเป็นผลให้สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ตามพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ.2518 ปรับเปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลทั้ง 9 แห่ง
"มหาวิทยาลัยได้น้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาปรับใช้ในการบริหารงานด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านการศึกษา มทร.รัตนโกสินทร์ ได้รับผิดชอบดูแลงานสถานีวิทยุโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมในช่อง dltv (มีทั้งหมด 15 ช่อง) ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการบริหารจัดการ จัดผังรายการ ให้มีการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม ทั้งในเชิงวิชาการและวิชาชีพ"
สถานีวิทยุโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม หรือที่ใครๆ รู้จักกันในนามว่า "ครูตู้" มทร.รัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล ได้ออกอากาศทุกวัน ทั้งรูปแบบรายการสดและรายการบันทึกเทป โดยมหาวิทยาลัยร่วมมือกับมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กทุกคน
โดยเชิญวิทยากรทั้ง 9 ราชมงคล หรือมหาวิทยาลัยอื่นๆ มาเป็นอาจารย์ผู้สอนถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่นักเรียน ซึ่งนอกจากจะเป็นการขยายโอกาสทางการศึกษาแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือโรงเรียนที่ขาดแคลนครู ออกอากาศ นอกจากนั้นมหาวิทยาลัยของบประมาณแผ่นดิน เพื่อมอบให้มูลนิธิได้นำไปบริหารจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม อันนำไปสู่การพัฒนาคน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีนักศึกษาวิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยราชมงคลรัตนโกสินทร์ ร่วมกันวาดพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตามแนวคิด "เดินตามรอยพ่อ" นำมาติดแสดงหน้ามหาวิทยาลัย และกระทรวงการต่างประเทศติดต่อขอนำไปจัดแสดงนิทรรศการเทิด พระเกียรติ ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน-2 ธันวาคมนี้หลังจากนั้นยูเอ็นจะขอซื้อภาพไว้สองภาพประดิษฐานไว้ที่นั่นเป็นการถาวร
"พระบรมสาทิสลักษณ์วาดด้วยสีน้ำมันโทนสีซีเปีย บนแผ่นไม้อัดขนาดความกว้างและสูง 120 เซนติเมตรนั้น เป็นโทนสี ซีเปียสีน้ำตาล วิธีแบบนี้เป็นวิธีเขียนเชิงช่าง ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของเพาะช่างด้วย ส่วนรูปที่เขียนก็จะมีรูปที่ในหลวงเคยเสด็จฯ มาที่เพาะช่าง เพื่อเป็นการระลึกถึงพระองค์ท่านที่เสด็จฯ มาที่เพาะช่าง จะมีประมาณ 9 รูป นอกนั้นจะเป็นภาพพระราชกรณียกิจโดยทั่วไป"
"โรงเรียนเพาะช่างก่อกำเนิดมาได้ด้วยพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ต่อจากนั้นก็ให้ในหลวง รัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นผู้สนองงานและริเริ่มในการสร้างโรงเรียนเพาะช่าง เพื่อให้เล็งเห็นถึงประโยชน์ของการช่างเป็นการทำให้ประเทศไทยพัฒนาไปได้ด้วยดี หลังจากนั้นรัชกาลที่ 6 เสด็จฯ มาทรงเปิดโรงเรียน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย มาทรงดำรงตำแหน่งผู้บังคับบัญชาการโรงเรียนเพาะช่างจนกระทั่งสิ้นพระชนม์"
"ในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จฯ มาทรงเยี่ยมโรงเรียนเพาะช่าง เสด็จฯ มาทรงเปิดงานศิลปกรรม มาทอดพระเนตรการศึกษาของเด็กเพาะช่าง รวมถึงอาจารย์ที่นี่ก็เคยรับสนองงานของพระองค์ท่านด้วย เช่น "อาจารย์จำรัส เกียรติก้อง" รับสนองงานด้านทางวาดภาพงานจิตรกรรมของในหลวง และหลายสิ่งที่มีความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับพระองค์ท่าน มีอีกมากมายที่พระองค์พระราชทานแก่โรงเรียนเพาะช่าง
ประเพณีของเพาะช่าง ทุกปีจะวาดพระบรมสาทิสลักษณ์พระองค์และพระสาทิสลักษณ์พระบรมวงศานุวงศ์ทุกๆ พระองค์ประดับไว้ที่หน้าวิทยาลัยในช่วงวาระสำคัญต่างๆ มีการจัดแสดงพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในพระราชอิริยาบถต่างๆ รวมถึงข้อความแสดงความอาลัยและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่มีต่อพระองค์ทำเพื่อพสกนิกรชาวไทยมาเป็นระยะเวลา 70 ปี
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก