รปภ.ครูหละหลวม "รมช.ศึกษาฯ-ครม.ส่วนหน้า" สั่งยกเครื่องใหม่
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะรองหัวหน้า "ครม.ส่วนหน้า" สั่งยกเครื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยครู หลังมีการแชร์ข้อมูลของผู้บริหารโรงเรียนในอำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส ว่ามาตรการ รปภ.ยังหละหลวม
พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรองหัวหน้า ครม.ส่วนหน้า หรือผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ได้รับทราบข้อมูลที่มีการเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย และได้ตรวจสอบแล้วว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง หลังจากนี้จะเร่งกำชับเกี่ยวกับมาตรการการ รปภ.ครูและโรงเรียน เพื่อให้เข้มงวดยิ่งขึ้นกว่านี้
โรงเรียนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้กว่า 1,000 โรง เพิ่งเปิดการเรียนการสอน ภาคเรียนที่ 2 เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เนื่องจากก่อนเปิดเรียนเพียงไม่กี่วัน คนร้ายได้ก่อเหตุยิงครู กศน. คือ นางสาวสุณิสา บุญเย็น จนเสียชีวิต และนางชฎพร ศรีเส้ง ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่หน้าสำนักงาน กศน.อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี
ผอ.โรงเรียนนราธิวาสแชร์ข้อมูลความบกพร่อง
แต่มาตรการ รปภ.ที่เชื่อกันว่าเข้มข้นแล้วนั่น ปรากฏว่ายังมีช่องโหว่อย่างไม่น่าจะไม่เกิดขึ้น เมื่อผู้บริหารโรงเรียนบ้านปูตะ ตำบลละหาร อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส ได้แชร์ข้อมูลเข้ากลุ่มไลน์ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 1 แจ้งเตือนให้ระมัดระวังการ รปภ.ครู เนื่องจากพบปัญหาที่โรงเรียนบ้านปูตะ เมื่อวันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน ช่วงพักเที่ยง ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ.ที่ทำหน้าที่ รปภ.โรงเรียน ได้ออกไปละหมาด ขณะที่ครูก็เข้าประชุมทุกคน
ระหว่างนั้นทางโรงเรียนได้เปิดประตูด้านหน้าทิ้งไว้ ปรากฏว่ามีชายฉกรรจ์ 2 คนขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าโรงเรียน จากนั้นหนึ่งในสองคนได้เดินเข้ามาในโรงเรียน แล้วพยายามเปิดประตูรถยนต์ของครู เมื่อเปิดไม่ได้ ก็เปลี่ยนใจไปนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์ของทหารชุด รปภ.ครูที่จอดเอาไว้ และพยายามสตาร์ทเครื่อง แต่ยังไม่ทันสำเร็จ มีเด็กนักเรียนในโรงเรียนเห็นเข้า จึงตะโกนว่า “ขโมยๆ” ทำให้ชายคนดังกล่าวรีบเดินออกจากโรงเรียน ไปขึ้นรถจักรยานยนต์ของเพื่อนที่จอดคุมเชิงอยู่หลบหนีไป โดยทหารซึ่งทำหน้าที่ รปภ.ครู ไม่สามารถติดตามจับกุมได้ทัน
ข้อมูลที่ส่งผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ยังระบุว่า ข้อบกพร่องของเหตุการณ์นี้ คือ โรงเรียนไม่ได้ปิดประตูโรงเรียนทุกครั้งที่มีบุคคลเข้า-ออก ทหารชุด รปภ.ครูจำนวน 6 นาย นั่งจับกลุ่มกันอีกที่หนึ่ง ห่างจากประตูทางเข้า-ออก ประมาณ 80 เมตร ไม่ได้มาดูแลการเข้า-ออกอย่างเข้มงวด ทั้งหมดเป็นความประมาทของโรงเรียนและหน่วยที่มา รปภ.
นายจีรวิชญ์ การสมเกตุ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านปูตะ กล่าวกับทีมพิกัดข่าวฯว่า ที่ทางโรงเรียนแชร์ข้อมูลนี้ในโซเชียลมีเดีย เพราะต้องการแจ้งเตือนโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษาเดียวกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย จะได้ช่วยกันระมัดระวัง สำหรับโรงเรียนบ้านปูตะ ถือว่าโชคดีที่ไม่เกิดเหตุร้ายแรงอะไรขึ้นมา
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: http://www.now26.tv/view/92007