ดาว์พงษ์สั่งรื้อกรอบ "รับน้อง"
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ม.เกษตรยันนศ.จมน้ำแค่กิจกรรมเฉลยสายรหัส
ดาว์พงษ์สั่งศึกษารายละเอียด ข้อดี-เสีย การจัดกิจกรรมรับน้อง เพื่อกำหนดกรอบให้ชัดเจน ผู้ปกครองจะได้สบายใจ รักษาการอธิการบดี มก. แจงกรณีเด็กพาณิชยนาวี จมน้ำไม่ใช่การรับน้อง แค่กิจกรรมเฉลยสายรหัส คาดอาจจะเกิดจากเด็กอ่อนแรงและเป็นตะคริว
ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) มีการแถลงข่าวเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่นายโชคชัย ทองเนื้อขาว อายุ 19 ปี นิสิตชั้นปีที่ 1 คณะพาณิชยนาวีนานาชาติ หลักสูตรการขนส่งทางทะเล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) วิทยาเขตศรีราชา ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมพี่พบน้องเพื่อ “เฉลยสายรหัส” ร่วมกับรุ่นพี่ของคณะ และเกิดจมน้ำจนอาการสาหัสต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลชลบุรีนั้น
นายจงรัก วัชรินทร์รัตน์ รักษาการแทนอธิการบดี มก. กล่าวว่า ตนและคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยได้เดินทางไปเยี่ยมนิสิต เท่าที่ดูอาการของนิสิตดีขึ้น และตนได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณพ่อของนิสิต ซึ่งท่านไม่ได้เป็นห่วงใยเฉพาะลูกของตนเองเท่านั้น แต่ก็ห่วงใยไปยังนิสิตรุ่นพี่คนอื่นๆ ด้วย โดยทางมหาวิทยาลัยก็รับผิดชอบเต็มที่ในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการรักษาพยาบาล การดูแลสภาพจิตใจ และช่วยเหลือเยียวยาทุกรูปแบบ อย่างไรก็ตาม กิจกรรมครั้งนี้เป็นกิจกรรมเสริมหลักสูตรระบบเฉลยพี่รหัส ที่รุ่นพี่ได้ดำเนินการให้รุ่นน้อง เพื่อเป็นการสร้างความประทับใจและช่วยเหลือกันระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง เป็นกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ เป็นกระบวนการที่ทำให้พี่กับน้องรักกัน ไม่ใช่กิจกรรมประชุมเชียร์ ไม่มีการบังคับ และไม่มีกิจกรรมว้ากอย่างแน่นอน โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นช่วงหลังจากกิจกรรมเฉลยพี่รหัสเรียบร้อยแล้ว
"ผมขอไม่ตอบว่ากิจกรรมครั้งเป็นกิจกรรมรับน้องหรือไม่ แต่เป็นกิจกรรมที่ทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้นเพื่อสร้างสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง และผมก็มีนโยบายชัดเจน ไม่ให้มีการบังคับให้นิสิตเข้าร่วมกิจกรรม แต่ทั้งนี้ ตอนนี้ขอให้นิสิตปลอดภัย ในฐานะมหาวิทยาลัยก็ยอมรับความผิดพลาด และจะแก้ไขเยียวยาในสิ่งที่เราสามารถทำได้ โดยยังคงยึดเอานิสิตเป็นที่ตั้ง และผมในฐานะผู้บริหารจะกลับมาทบทวนระบบการจัดกิจกรรมที่จะดำเนินการกับนิสิต เช่น ต้องมีอาจารย์อยู่ด้วยตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องกิจกรรมที่ต้องเกี่ยวกับน้ำ คงต้องมีการบังคับบัญชาให้มากขึ้น ตรงไหนที่เป็นจุดอ่อน เป็นอันตราย โดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจเราต้องแก้ไข" รักษาการแทนอธิการบดี มก.กล่าว
ด้าน พล.ร.ท.นิรุทธ์ หงส์ประสิทธิ์ คณบดีคณะพาณิชยนาวีนานาชาติ มก. กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตน นิสิตรุ่นพี่ คณาจารย์รู้สึกเสียใจ และไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ทางคณะได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่กำหนดเวลาชัดเจน เนื่องจากช่วงเวลานี้ขอให้นิสิตปลอดภัย รวมถึงรุ่นพี่อยู่ในสภาพจิตใจที่ปกติก่อน ตนยืนยันว่า คณะพาณิชยนาวีนานาชาติไม่มีการจัดกิจกรรมรับน้อง เรามีเพียงกิจกรรมเสริมสร้างสัมพันธภาพ เป็นกิจกรรมเฉลยรหัส ที่ทุกคณะดำเนินการมาตลอดทุกปี ไม่รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัย ไม่บังคับให้รุ่นน้องเข้าร่วม และไม่มีการสั่งการจากรุ่นพี่ มีอาจารย์ดูแล ซึ่งปีนี้มีนิสิตเข้าร่วมประมาณ 400 คน และไม่เข้าร่วม 100 กว่าคน โดยกิจกรรมเป็นการเฉลยพี่รหัส เล่นเกมสนุกสนาน และมีการคลุกฝุ่นบ้าง ซึ่งกลุ่มนิสิตที่ได้รับอุบัติเหตุ รวมทั้งหมด 3 คน มีแฝดรหัสและรุ่นพี่ได้ลงไปล้างเนื้อล้างตัวในบ่อน้ำ แต่อาจเพราะอ่อนแรงจากการทำกิจกรรม เมื่อลงน้ำที่ค่อนข้างเย็น จึงคาดว่าน่าจะเป็นตะคริว จึงทำให้จมน้ำ ซึ่งมีรุ่นพี่ได้เข้าช่วยเหลือทันทีเมื่อเห็นเหตุการณ์ และนำส่งโรงพยาบาล ทางแพทย์เกรงว่าปอดจะเกิดอาการติดเชื้อ ได้ให้ยาเพื่อปอดทำงานน้อยลง และเชื้อโรคไม่แพร่กระจายไปที่อื่น ดังนั้นเมื่อไปเยี่ยมจึงเห็นน้องบอสมีอาการสะลึมสะลือตลอดเวลา แต่ล่าสุดทาง รพ.แถลงว่า นิสิตมีอาการดีขึ้น รู้สึกตัวตอบสนองต่อการเรียก ได้ลดการใช้เครื่องช่วยหายใจ คาดว่าจะออกจากห้องไอซียูได้ภายในวันที่ 13 กันยายน 2559 นี้
"บ่อน้ำดังกล่าว ทางคณะพาณิชยนาวีนานาชาติใช้สำหรับการทำงานวิจัย เช่น การต่อเรือโซลาเซลล์และนำไปทดลองลอยในน้ำ การทดลองความแรงของคลื่น โดยผู้ทดลองต้องลงไปลอยอยู่ในน้ำ แต่การทดลองทุกครั้งจะอยู่ในความดูแลของอาจารย์อย่างใกล้ชิด และไม่มีการอนุญาตให้นิสิตลงไปในบ่อน้ำดังกล่าวตามใจชอบ เพราะการทำทดลองวิจัยจะต้องมีการอนุญาตใช้บ่อน้ำกับทางคณะทุกครั้ง ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง และอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่มีการปนเปื้อน แต่ที่เห็นว่าขุ่น เนื่องจากช่วงนี้มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และทำให้เกิดตะกอนขึ้นได้ โดยเมื่อเกิดเหตุการณ์ ได้มีการให้ตรวจสอบคุณภาพน้ำใหม่อีกครั้ง "
ด้าน พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า ตนกำลังรอรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ได้สั่งการให้เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาฯ กกอ.) และมหาวิทยาลัยไปดูว่าการรับน้องมีข้อดีและข้อควรระวังอะไร โดยระบุรายละเอียดออกมา ถ้าทุกมหาวิทยาลัยเห็นด้วยว่าการรับน้องมีข้อดีก็ต้องหาคำตอบและกำหนดกรอบกิจกรรมที่จะตอบโจทย์แต่ละข้อให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้ปกครองสบายใจ เด็กที่เป็นรุ่นน้องปลอดภัย และได้สิ่งที่เป็นข้อดีของการรับน้อง ตนเชื่อว่ารุ่นพี่มีเจตนาดีที่จะรับน้องเพื่อทดสอบความสามัคคีและความอดทน แต่วิธีการจะคิดไม่เหมือนกัน ผู้ใหญ่จึงควรเข้ามาดูและช่วยวางกรอบให้ชัดเจน ว่ากิจกรรมไหนทำได้ กิจกรรมไหนทำไม่ได้
"ผมเข้าใจดีว่ารุ่นพี่มีความตั้งใจดี เพราะเคยผ่านการรับน้องมาก่อน แต่บางทีเด็กก็คิดไม่ถึงจนเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วมาเสียใจภายหลัง จึงขอให้ สกอ.ไปร่วมกันคิดและวางตุ๊กตาร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ปกติการรับน้องก็มีกฎกติกาอยู่แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่ากรอบนั้นชัดเจนหรือไม่ และมหาวิทยาลัยเองจะไปสั่งซ้ายหันขวาหันไม่ได้ แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นผมเชื่อว่ามหาวิทยาลัยทุกแห่ง รวมทั้งอาจารย์ก็คงตระหนักและไม่อยากให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้น ที่สำคัญต้องสร้างความเข้าใจกับเด็ก เพราะเด็กวัยนี้มีความคิด ถ้าห้ามไม่ให้ทำแบบนี้ต้องอธิบายเหตุผลที่ชัดเจน จะสั่งอย่างเดียวว่าห้ามจับลงน้ำไม่ได้ ต้องมีเหตุมีผลรองรับ ส่วนที่ทางมหาวิทยาลัยชี้แจงว่าไม่ใช่การรับน้อง แต่เป็นการฝึกปฏิบัติของทางคณะนั้น ผมยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่ได้รับรายงาน เท่าที่ดูเจตนาไม่ใช่การรับน้องที่โหดร้ายแบบเก่า แต่น่าจะเป็นความพลั้งเผลอ"
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 13 กันยายน 2559