"ดาว์พงษ์"สั่งแยก"กม.ตระกูลครู"
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
สกสค.-คุรุสภา-องค์การค้ามีพ.ร.บ.ของใครของมัน ชี้อยู่รวมกันไม่มีประสิทธิภาพ
ดาว์พงษ์ตั้งคณะทำงานฝ่ายกฎหมายสั่งศึกษา แยก พ.ร.บ. 3 องค์กรครู-สกสค.-คุรุสภา-องค์การค้าฯ ออกจาก กม.ฉบับเดียวกัน ชี้ กม.ปัจจุบันให้อำนาจผู้บริหารมากเกินไป แต่งตั้งที่ปรึกษายกเข่ง กินเงินเดือนเดือนละหลายแสนบาท ด้าน "พินิจศักดิ์" ยื่นหนังสือลาออกจากปฏิบัติหน้าที่เลขาฯ สกสค.
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้กำชับเรื่องการติดตามการทำงานของ สกสค. รวมถึงพิจารณาการปรับปรุง พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 ให้มีความชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเห็นว่าควรมีการแยกหน่วยงาน สกสค. องค์การค้าฯ และคุรุสภา ออกจาก พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว เพื่อให้เป็นหน่วยงานนิติบุคคลที่มีความคล่องตัว มีอิสระในการทำงาน เนื่องจากพบปัญหาว่ากฎหมายเดิมทำให้เกิดปัญหาที่มาของเลขาฯ และรองเลขาฯ สกสค. มีอำนาจหน้าที่ที่เกินเลย อีกทั้งยังมีการตั้งที่ปรึกษาของ สกสค.มากถึง 15 คน รับเงินเดือนรวมกันหลายแสนบาทต่อเดือน ซึ่งหากมีความจำเป็นในการแต่งตั้งจริงก็ควรตั้งที่ปรึกษาเฉพาะด้าน ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับองค์กรมากกว่า
รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า โดยขณะนี้ได้มีการตั้งคณะทำงานฝ่ายกฎหมายขึ้นมาพิจารณาในเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยมีที่ปรึกษา รมว.ศธ.เป็นประธาน เบื้องต้นตนเสนอว่าแต่ละหน่วยงานควรมี พ.ร.บ.เป็นของตัวเอง แต่คงยังไม่ได้สรุปว่ากฎหมายใหม่นี้จะออกมาในทิศทางไหน แต่ได้มอบให้คณะทำงานกลับไปดูรายละเอียดและนำกลับมาเสนออีกครั้งในการประชุม สกสค.วันที่ 12 กันยายนนี้
"นโยบายรัฐบาลต้องการรวบรวม พ.ร.บ.ที่มีความเกี่ยวโยงกันไว้ในฉบับเดียวกัน แต่หน่วยงานทั้ง 3 ไม่ว่าจะเป็น สกสค. คุรุสภา หรือองค์การค้าฯ ซึ่งรูปแบบการทำงานมีความแตกต่างกัน แต่กลับนำไปรวมไว้ใน พ.ร.บ.สภาครู ฉบับเดียวหมด ทำให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นหากแยกกฎหมายออกมาเป็นของตัวเองก็น่าจะทำงานคล่องตัวขึ้น" รมว.ศธ.กล่าว
พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวต่อว่า ในช่วง 1 ปีที่นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.เข้ามาทำงาน ได้ตัดค่าใช้จ่ายค่าจ้างที่ปรึกษา และรองเลขาธิการ สกสค.ในบางตำแหน่งลง ทำให้ช่วยประหยัดงบประมาณของ สกสค.ไปได้ถึง 109 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหาก สกสค.มี พ.ร.บ.เป็นของตัวเอง จะทำให้หน่วยงานอย่างองค์การค้าฯ มีมาตรฐานในการคัดเลือก ผอ.องค์การค้าฯ รวมถึง สกสค.จะมีการถ่วงดุลอำนาจ ไม่ใช่ใช้เงินจ้างคนโน่นคนนี้มาทำงานโดยไม่มีขีดจำกัด นอกจากนี้ตนยังได้ติงในที่ประชุมบอร์ด สกสค.เรื่องการพักงานผู้บริหารสำนักงาน สกสค.จำนวน 5 คน ไปว่า เรื่องความไม่ชอบมาพากลใน สกสค.ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้บริหารทั้ง 5 คนเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่เหตุใด สกสค.จึงปล่อยมาตั้งนาน ไม่ทำการพักงาน เพื่อให้กระบวนการสอบสวนทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น จึงขออย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการ สกสค.ที่ผ่านมา นายพินิจศักดิ์ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่เลขาฯ สกสค.ให้ที่ประชุมพิจารณา.
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 31 สิงหาคม 2559