ศธ.มอบสวนดุสิตโพลทำวิจัยหนี้สินครู
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ตนได้หารือกับผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ธนาคารออมสิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทบทวนแนวทางแก้ปัญหาหนี้สินครู ตามคำสั่งของ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ที่ให้เชิญแหล่งเงินกู้ของครูทั้งหมดมาหารือร่วมกัน ทั้งธนาคารออมสิน สหกรณ์ออมทรัพย์ครู สกสค. เพื่อทราบถึงปัญหาทั้งหมด ตลอดจนหาแนวทางแก้ไข ไม่ให้ครูกู้มากเกินไป ขณะเดียวกันยังมอบหมายให้นายสุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต (มสด.) และที่ปรึกษาเลขาฯ สกสค. ไปทำการวิจัยปัญหาหนี้สินครู ว่าครูกู้เงินไปทำอะไร และมีความต้องการให้ช่วยเหลืออย่างไร เพื่อกำหนดแนวทางแก้ปัญหาที่ถูกต้องต่อไป
ปลัด ศธ.กล่าวอีกว่า จากการหารือธนาคารออมสินได้รายงานความคืบหน้าหลังเปิดให้ครูที่ผิดนัดชำระหนี้มากกว่า 3 งวดขึ้นไป และถูกธนาคารออมสินยื่นโนติสไปแล้ว 13,405 คน เข้าไกล่เกลี่ย ล่าสุดมีครูอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้แล้วประมาณ 6,000 คน อยู่ระหว่างกระบวนการฟ้องร้องประมาณ 4,000 คน ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการติดตามหนี้ โดยมีครูที่กู้เงินตามโครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ของ สกสค. แล้วไม่ยอมชำระหนี้ประมาณ 67,000 คน ซึ่งต้องติดตามต่อไป และจะต้องมีมาตรการอื่นเข้ามาร่วมด้วย เพราะการปรับโครงสร้างหนี้และแนวทางการใช้เงินอนาคต เช่น การใช้เงิน ช.พ.ค. ที่ใช้ในการค้ำประกันเงินกู้ มาตั้งเป็นวงเงินกู้ในการรีไฟแนนซ์ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ที่ธนาคารออมสินอยู่ระหว่างรอเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อาจจะยังไม่เพียงพอ ส่วนจะถึงขั้นยื่นฟ้องล้มละลายกับคนที่ตั้งใจไม่ใช้หนี้เลยหรือไม่นั้น ตนไม่สามารถตอบได้ ขึ้นอยู่กับธนาคารออมสิน
ด้านนายสุขุมกล่าวว่า ขณะนี้คณะวิจัยกำลังเร่งเก็บกลุ่มตัวอย่างครูที่มีหนี้สิน โดยตั้งเป้าหมายให้ได้กลุ่มตัวอย่างมากกว่า 5,000 คนจากทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้เก็บข้อมูลได้แล้วประมาณ 2,700 คน โดยคณะวิจัยจะสรุปผลและเสนอแนวทางแก้ปัญหาหนี้สินครูใน ศธ.พิจารณาภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะทำให้ได้คำตอบว่าครูกู้เงินไปทำอะไร อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลเบื้องต้นมีทั้งกู้ไปชำระหนี้สินเก่า ค่าเทอมลูก ส่วนที่นำเงินมีเสี่ยงโชคมีบ้าง แต่ก็มีจำนวนไม่มาก ซึ่งจากการประเมินผลในภาพรวมก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่พูดกัน และครูส่วนใหญ่ไม่คิดที่จะเบี้ยวหนี้.
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559