บิ๊กน้อย เร่งยกระดับการศึกษาชายแดนภาคเหนือ ย้ำ ป.1 ต้องอ่านออกเขียนได้
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 59 พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนายกระดับคุณภาพการศึกษา เขตพื้นที่สูงจังหวัดชายแดนภาคเหนือ ณ โรงแรมคุ้มภูคำ อ.เมืองเชียงใหม่ โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-20 มิ.ย. 59 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขตชายแดนภาคเหนือ ร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลผลการประเมินการอ่านเขียนภาษาไทยของนักเรียนชั้น ป.1 และผล O-NET ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย คณิตศาสตร์ สังคมศึกษา วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ นำไปสู่การกำหนดแผนงาน โครงการพัฒนายกระดับคุณภาพการศึกษาพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ ตามแนวพระราชดำริ "เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา" รวมถึงเป็นแนวทางให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและโรงเรียนอื่นๆ ดำเนินการตามแนวทางพระราชดำริดังกล่าว โดยผู้เข้าประชุมประกอบด้วย ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาด้านวิชาการ และศึกษานิเทศก์ จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) เชียงใหม่ เขต 1-6 สพป.เชียงราย เขต 2 สพป.แม่ฮ่องสอน เขต 1-2 สพป.ตาก เขต 2 และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 34 รวม 11 เขต มีผู้เข้าร่วมจำนวนประมาณ 600 คน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากปีการศึกษา 2559 กระทรวงศึกษาธิการ ได้ทบทวนผลการดำเนินงานในมิติของคุณภาพการศึกษา และพัฒนาแนวทางปฏิบัติเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นการแก้ปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการสอนภาษาไทยอ่านออกเขียนได้ของนักเรียน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คสช. และรัฐบาล ให้ความสำคัญในการพัฒนาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม กระทรวงศึกษาธิการโดย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงมอบหมายให้ พล.อ.สุรเชษฐ์ เดินหน้าขับเคลื่อนงานของหน่วยงานในสังกัดอย่างบูรณาการ ซึ่งนำโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่มุ่งเน้นการปฏิบัติที่เข้มแข็ง เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม
รมช.ศธ. กล่าวถึงความสำคัญและความจำเป็นของการเรียนการสอนภาษาไทย ว่า เป็นรากฐานในการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ และเป็นพื้นฐานสำคัญในการยกระดับคุณภาพการศึกษา เป็นไปตามนโยบาย ป.1 ต้องอ่านออก เขียนได้ อ่านคล่อง เขียนคล่อง และปลอดการอ่านไม่ได้ ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สูงขึ้น นอกจากนี้ จะมีการเดินหน้าโครงการสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมคุณภาพการศึกษาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นก้าวหน้าและจะขยายผลสร้างเครือข่ายเพิ่มเติมไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โรงเรียนพระปริยัติธรรม และจัดตั้งศูนย์ประสานงานและสนับสนุนการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม รวมถึงการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาด้วยระบบ TEPE Online ที่เป็นการคืนครูสู่ห้องเรียน เพิ่มคุณภาพการจัดการศึกษา ลดภาระและเวลาของครู เป็นต้น
นอกจากนี้ พล.อ.สุรเชษฐ์ ยังเน้นย้ำให้ทบทวนผลการปฏิบัติงานเป็นระยะๆ และปรับปรุงแก้ไขอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้ทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกันทำงาน ร่วมกันคืนความสุขให้นักเรียน ครู และผู้ปกครอง ซึ่งจะเป็นหนทางสู่ความสำเร็จในการพัฒนาการศึกษาของชาติ และมอบแนวทางการปฏิบัติงานที่สำคัญ คือ การน้อมนำหลักการทรงงานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงยึดถือหลักธรรมาภิบาล ซึ่งจะสร้างความเจริญให้กับตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ พร้อมทั้ง กล่าวเชิญชวนให้ทุกคนร่วมกันทำความดี ทำงานให้ดี เพื่อเป็นปฏิบัติบูชา ถวายแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระเกียรติที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่พสกนิกรชาวไทยมาอย่างยาวนาน เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิ.ย. 59 สืบเนื่องถึงปี 2560 ขอให้ทุกคนทำงานอย่างมุ่งมั่น ตั้งใจ ทำงานในหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ อันจะส่งผลช่วยสนับสนุนให้การพัฒนาประเทศชาติบ้านเมืองได้มีความเจริญก้าวหน้า สู่การพัฒนาที่เข้มแข็งตามวิสัยทัศน์รัฐบาล คือ มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนสืบไป.
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 18 มิถุนายน 2559 เวลา 21.26 น.