ศธ.ไม่เชื่อโรงเรียนรับแป๊ะเจี๊ยะแลกได้เรียน
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
วันนี้( 18 พ.ค.) ตามที่ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นของชาติ (ภตช.) ระบุว่า ได้รับการร้องเรียนเรื่องการรับนักเรียนชั้น ม.1และ ม.4ปีการศึกษา 2559 ของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีชื่อเสียง 366 โรง และโรงเรียนขนาดกลาง 350 โรง รวม 716 โรง มีการเรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะ หรือ เงินกินเปล่า สะพัดกว่า 2 หมื่นล้านบาทนั้น พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ทุกปีหลังเปิดภาคเรียนมักจะปรากฏข้อมูลและตัวเลขการเรียกรับแป๊ะเจี๊ยะออกมา ซึ่งตนอยากรู้ว่าตัวเลข2 หมื่นล้านบาทนั้น ภตช.ได้ข้อมูลมาจากไหน ซึ่งตนยืนยันว่ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ไม่มีนโยบายให้เรียกรับแป๊ะเจี๊ยะ ดังนั้น ถ้า ภตช.มีข้อมูลทั้งชื่อโรงเรียนและชื่อผู้ปกครองก็ขอให้ส่งมาที่ตนโดยตรง เพื่อจะได้นำไปตรวจสอบ
" เป็นเรื่องดีที่ ภตช.ออกมาให้ข้อมูล เพราะอย่างน้อย ภตช.ก็ได้ช่วยผมในการกระตุ้นโรงเรียน หรือ ใครที่จะทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องได้รู้ว่ามีคนจับตามองอยู่ ยอมรับว่าช่วงการรับนักเรียนมีคนมาฝากเด็กกับผมเยอะ แต่ผมไม่รับฝากใครสักคน” พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าว
ด้าน ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ( กพฐ.) กล่าวว่า ที่ภตช.ระบุว่ามีผู้ใหญ่ใน ศธ.ฝากเด็กเงื่อนไขพิเศษมากกว่า 100 คน เมื่อเข้าเรียนได้ผู้อำนวยการโรงเรียน จะให้ครูอัตราจ้าง ติดตามทวงเงินจากพ่อ แม่ ที่ฝากลูก โดยการเรียกรับเงินเฉลี่ยหัวละ 1 แสนบาทขึ้นไป แต่หากเป็นโรงเรียนดังที่มีชื่อเสียงระดับประเทศจะเรียกรับเงินสูงถึงหัวละ 5 แสนบาท นั้น ตนเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้และไม่มีใครกล้าทำ เพราะทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ดาว์พงษ์ มีนโยบายชัดเจนว่าห้ามเรียกแป๊ะเจี๊ยะ เพื่อแลกกับที่นั่งเรียนเด็ดขาด อีกทั้ง สพฐ.ก็กำหนดนโยบายรวมถึงแนวปฏิบัติในการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2559 ชัดเจนว่า โรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงให้รับนักเรียนเพียงรอบเดียวเท่านั้น ส่วนโรงเรียนทั่วไปรับได้ 2รอบ กรณีที่เด็กไม่มีที่เรียนก็จัดสรรที่เรียนให้ มีการประกาศชัดเจนทุกอย่างและดำเนินการไปตามระบบ ที่สำคัญโรงเรียนสามารถชี้แจงเหตุและผลได้ อาทิ เงื่อนไขพิเศษ เด็กทำคะแนนสอบได้ เป็นต้น
“ที่ผ่านมาเห็นได้ว่าข่าวแป๊ะเจี๊ยะ จะถูกเชื่อมโยงไปที่โรงเรียนดังๆ ซึ่งโรงเรียนดังก็อาจจะถูกกล่าวหาได้ และผมว่าบางครั้งเรื่องนี้ก็เกี่ยวกับความรู้สึกที่หลายเรื่องคนผิดหวัง ว่า ทำไมคนนี้ได้ คนนี้ไม่ได้ ก็คาดการณ์ไปต่างๆ นานา ซึ่งต้องดูด้วยว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นนั้นหรือไม่ ส่วนกรณีที่อ้างว่าให้ครูอัตราจ้างทวงเงินกับผู้ปกครองเมื่อเด็กที่ฝากได้เข้าเรียนแล้วนั้น คงต้องตรวจสอบข้อมูลและพิจารณาเป็นรายกรณีไป”ดร.บุญรักษ์ กล่าวและว่า ตนรายงานเรื่องนี้ให้นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการ กพฐ.ทราบและจะมีการทำความเข้าใจกับสังคมต่อไป.
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันพุธที่ 18 พฤษภาคม 2559 เวลา 13:00 น.