LASTEST NEWS

25 ธ.ค. 2567สพป.บุรีรัมย์ เขต 1 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 14 อัตรา รายงานตัว 26 ธันวาคม 2567 25 ธ.ค. 2567สพป.เชียงใหม่ เขต 3 ขอใช้บัญชีครูผู้ช่วย สพป.เชียงใหม่ เขต 2 จำนวน 10 อัตรา รายงานตัว 6 มกราคม 2568 25 ธ.ค. 2567โรงเรียนพรตพิทยพยัต เปิดสอบครูอัตราจ้าง และลูกจ้างชั่วคราว 4 อัตรา เงินเดือน 15,000.-บาท สมัครตั้งแต่บัดนี้ - 27 ธันวาคม 2567 23 ธ.ค. 2567ข่าวดี! โรงเรียนสวนกุหลาบฯ เพชรบูรณ์ ประกาศหยุดพิเศษ 2-3 ม.ค. 68 เปิดโอกาสใช้เวลาอบอุ่นกับครอบครัวช่วงปีใหม่ ยาว ๆ 9 วันเต็ม 23 ธ.ค. 2567สพป.อุบลราชธานี เขต 3 ขอใช้บัญชีครูผู้ช่วย สพป.อุบลราชธานี เขต 5 จำนวน 23 อัตรา - รายงานตัว 2 มกราคม 2568 23 ธ.ค. 2567โรงเรียนบ้านหนองบัว รับสมัครครูอัตราจ้าง วุฒิปริญญาตรีทุกสาขา เงินเดือน 6,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 25 ธันวาคม 2567 21 ธ.ค. 2567ปฏิทินการจ่ายเงินเดือนข้าราชการและค่าจ้างลูกจ้างประจำ ประจำปี 2568 20 ธ.ค. 2567สพป.บึงกาฬ เรียกบรรจุครูผู้ช่วย (ขอใช้บัญชี สพม.หนองคาย) จำนวน 3 อัตรา - รายงานตัว 2 มกราคม 2568 20 ธ.ค. 2567​​​​​​​กรมบัญชีกลาง เปิดสอบพนักงานราชการ 27 อัตรา ไม่ต้องผ่าน ภาค ก ตั้งแต่ 3 - 24 มกราคม 2568 19 ธ.ค. 2567สพป.บุรีรัมย์ เขต 1 ขอใช้บัญชีครูผู้ช่วย เขตอื่น ใช้บรรจุ 2 วิชาเอก 13 อัตรา รายงานตัว 26 ธันวาคม 2567

ผลการประชุม ก.ค.ศ. 4/2559 - เมื่อวันพุธที่ 11 พฤษภาคม 2559

  • 13 พ.ค. 2559 เวลา 07:38 น.
  • 11,230
ผลการประชุม ก.ค.ศ. 4/2559 - เมื่อวันพุธที่ 11 พฤษภาคม 2559

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 196/2559
ผลการประชุม ก.ค.ศ. 4/2559


 พล.อ.ดาว์พงษ์  รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 4/2559 เมื่อวันพุธที่ 11 พฤษภาคม 2559 ณ ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
 

 
>>  เห็นชอบให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การใช้บัญชีรายชื่อตำแหน่งครูผู้ช่วย

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า เพื่อเป็นการช่วยปลดล็อคการทำงานของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคให้มีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ที่ประชุมจึงได้มีการพิจารณาและเสนอความเห็นอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการแก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีการนำรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีหนึ่งไปขึ้นบัญชีเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีอื่น ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งหลักเกณฑ์เดิมมีเงื่อนไขกำหนดให้ขอใช้บัญชีได้เฉพาะสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่เปิดสอบแข่งขันแล้วไม่มีผู้สมัครสอบแข่งขัน หรือไม่มีผู้สอบแข่งขันได้หรือผู้สอบแข่งขันได้ไม่เพียงพอกับตำแหน่งว่างเท่านั้น และต้องขอความเห็นชอบ สพฐ.ก่อนดำเนินการ

ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการบัญชีมีความคล่องตัว แก้ไขปัญหาการขาดครูผู้สอน และลดงบประมาณในการสอบแข่งขันใหม่ ที่ประชุมจึงมอบสำนักงาน ก.ค.ศ. สำรวจและรวบรวมบัญชีรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ในสาขาวิชาเอกเดียวกันในแต่ละจังหวัด เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการรวมบัญชีในนามของ กศจ. พร้อมให้อำนาจใช้บัญชีข้ามเขตในจังหวัดของตัวเองได้ โดยสำนักงาน ก.ค.ศ.จะร่วมกับ สพฐ. เร่งจัดทำรายละเอียดบัญชีให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์มานำเสนอ รมว.ศึกษาธิการ จากนั้นจะออกหนังสือแจ้งไปยังผู้ขึ้นบัญชีทุกคนให้มาเข้ารับการประเมินรวมบัญชีและจัดลำดับใหม่ตามความสมัครใจ

ทั้งนี้ ผู้ที่สมัครเข้ารับการประเมินเพื่อรวมบัญชี จะไม่เสียสิทธิ์ในบัญชีเดิม รวมทั้งยังคงระยะเวลาขึ้นบัญชีเท่าเดิม แต่จะได้รับสิทธิ์เพิ่มขึ้น คือมีชื่อขึ้นบัญชีในเขตเดิมและขึ้นบัญชีในเขตอื่นภายในจังหวัดด้วย แต่หากผู้ที่มีชื่อขึ้นบัญชีเดิมไม่สมัครรวมบัญชี ก็จะได้รับสิทธิ์ในบัญชีนั้นเช่นเดิม





>> เห็นชอบปรับปฏิทินกำหนดเวลาพิจารณาการย้ายครู รอบ 1 ปี 2559

จากการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งเรื่องการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2559 ซึ่งเป็นห้วงเวลาคาบเกี่ยวกับการพิจารณาย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัด สพฐ. รอบ 1 ปีงบประมาณ 2559

เพื่อให้การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสามารถดำเนินการได้ภายใต้คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ประชุมจึงมีมติขยายเวลาการโยกย้ายเฉพาะรอบ 1 ปี 2559 จากเดือนเมษายน 2559 เป็นดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2559

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มอบให้สำนักงาน ก.ค.ศ. ร่วมกับ สพฐ. หารือร่วมกันเกี่ยวกับการปรับปฏิทินการสอบแข่งขัน-บรรจุ-แต่งตั้ง-โยกย้าย ให้มีความสอดคล้องสัมพันธ์กันทั้งระบบ เพราะทุกส่วนมีความเชื่อมโยงกัน โดยอาจเริ่มจากกระบวนการโยกย้ายก่อน เพื่อให้ได้จำนวนอัตราตำแหน่งที่ว่าง จากนั้นจึงจะดูบัญชีรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ในแต่ละวิชาเอก หากมีบัญชีไม่เพียงพอหรือไม่มีบัญชีรายชื่อในสาขาวิชาใดก็ต้องเปิดสอบต่อไป






>> เห็นชอบให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ฯ การสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2)

ที่ประชุมเห็นชอบให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ดังนี้

1) หากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือส่วนราชการต่างๆ มีตำแหน่งว่างและไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งว่างที่จะบรรจุและแต่งตั้ง สามารถขอใช้บัญชีรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาอื่นก่อน 
2) หากไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ให้ขอจากบัญชีรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ ของ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง 
3) หากไม่มีบัญชีรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ ของ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง ให้ขอจากบัญชีรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ ในประเภทข้าราชการพลเรือนสามัญของส่วนราชการต้นสังกัด
4) หากไม่มีบัญชีรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ ของส่วนราชการต้นสังกัด ให้ขอจากบัญชีรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ ในประเภทข้าราชการพลเรือนสามัญของส่วนราชการอื่นได้

โดยทั้ง 4 ข้อดังกล่าวข้างต้น ต้องเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งเดียวกันกับตำแหน่งว่างที่จะใช้บรรจุและแต่งตั้ง และมีคุณวุฒิตรงตามมาตรฐานตำแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้ง





>> เห็นชอบตั้งอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเกี่ยวกับการกำกับ ติดตาม และประเมินผล

ที่ประชุมเห็นชอบให้ตั้งอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเกี่ยวกับการกำกับ ติดตาม และประเมินผลการบริหารงานบุคคล แทนตำแหน่งที่ว่าง 2 ตำแหน่ง ได้แก่

1) นายชาญเวช บุญประเดิม ตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับการกำกับ ติดตาม และประเมินผลการบริหารงานบุคคล แทนนายธำรงค์ อุดมไพจิตรกุล
2) นายชาย มะลิลา ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับการกำกับ ติดตาม และประเมินผลการบริหารงานบุคคล แทนศาสตราจารย์ สุวิมล ว่องวาณิช





>> ให้ผู้แทนครู ก.ค.ศ.ติดตามตรวจสอบการบิดเบือนข้อเท็จจริงเรื่องการศึกษา

รมว.ศึกษาธิการ ขอให้ผู้แทนครูใน ก.ค.ศ. ตรวจสอบเกี่ยวกับการโพสต์ข้อความบิดเบือนเรื่องการศึกษาทางสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเร็วๆ นี้ โดยแอบอ้างว่ามาจากชมรมครูร้อยเอ็ด จึงต้องการให้ผู้แทนครูช่วยกันหาความจริง แต่หากมาจากชมรมครูร้อยเอ็ดจริง ก็จะต้องเตือนให้หยุดการกระทำ ซึ่งเป็นการเข้าข่ายสร้างความแตกแยก แต่หากเตือนแล้วยังไม่หยุดบิดเบือนข้อมูล ก็คงจะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงเข้ามาดำเนินการต่อไป
 
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 12 พฤษภาคม 2559
 
  • 13 พ.ค. 2559 เวลา 07:38 น.
  • 11,230

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

^