เด็กแฉครูใช้ชั่วโมงแนะแนวขายของ
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ประธานเครือข่ายยุวทัศน์ฯ เผยเด็กไทยทุกวันนี้ค้นหาตัวเองไม่เป็น เหตุโรงเรียนขาดระบบแนะแนวที่ดี ชี้ส่วนใหญ่ใช้วิชาแนะแนวเป็นวิชานั่งเล่น ครูเข้ามาขายของ จี้ ศธ.-รร.เห็นความสำคัญ
วันนี้ (2 พ.ค.) นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ ประธานเครือข่ายยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ทุกวันนี้ระบบการศึกษาไทยไม่ได้ช่วยให้นักเรียนสามารถค้นหาตัวเอง รู้จักตัวเอง และรู้ถึงความต้องการของตัวเองได้ เพราะโรงเรียนขาดระบบแนะแนวที่ดี ซึ่งแม้ทุกโรงเรียนจะมีชั่วโมงแนะแนว แต่ส่วนใหญ่วิชานี้จะเป็นเพียงวิชานั่งเล่น ทำการบ้าน หรืออาจารย์บางคนก็มาขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ทั้งๆ ที่วิชานี้มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะนักเรียนระดับ ม.ปลาย เพราะครูแนะแนวจะต้องส่งเสริม หรือช่วยนักเรียนค้นหาตัวเองให้ก่อนที่จะเลือกไปเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา เนื่องจากการไม่รู้ถึงความชอบและความสามารถของตัวเอง ทำให้นักเรียนต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยหลายครั้ง เสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น อีกทั้งเมื่อจบออกมาก็อยู่ในภาวะตกงาน เพราะไม่ได้รับการแนะแนวไม่รู้ว่าสาขาวิชา หรือคณะที่เด็กเรียนจบออกไปนั้นเหมาะสมกับตนเอง และเป็นที่ต้องการของตลาดหรือไม่
“เท่าที่ทราบครูแนะแนวส่วนใหญ่จะเป็นครูประจำชั้น หรือ ครูวิชาอื่นที่ไม่ได้จบด้านแนะแนวโดยตรง จึงอาจไม่สามารถแนะแนวนักเรียนได้มากนัก เพราะฉะนั้นอยากให้กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) และโรงเรียนเห็นความสำคัญของการแนะแนว รวมทั้งครูแนะแนวก็ควรจบแนะแนวจริง ๆ มีความรู้ด้านจิตวิทยาในการให้คำปรึกษา และสามารถแนะนำเด็กได้ทุกเรื่อง” นายพชรพรรษ์ กล่าวและว่า นอกจากนี้อยากให้มีการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ต่าง ๆ โดยเปิดกว้างให้เด็กทุกคนสามารถเข้าไปใช้ได้ เพราะเวลานี้แม้ประเทศไทยจะมีศูนย์การเรียนรู้จำนวนมาก ซึ่งสามารถช่วยแนะแนวทางการสร้างความฝัน และแหล่งค้นหาตัวเองของเด็กได้ แต่กลับต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม บางแห่งราคาสูงมาก เมื่อเป็นเช่นนี้เด็กที่มาจากครอบครัวยากจนก็คงไม่มีโอกาสจะเข้าไปศึกษาหาความรู้ได้.
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม 2559 เวลา 8:16 น.