ทปอ.รับแก้ปิดเปิดเทอมตามอาเซียน ยันไม่เลื่อนเวลาสอบ GAT-PAT
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
ทปอ.รับแก้ปิดเปิดเทอมตามอาเซียน ยันไม่เลื่อนเวลาสอบ GAT-PATทปอ. สนองนโยบาย "ดาว์พงษ์" เล็งประกาศผลรับตรงหลังสอบโอเน็ต ชี้หนุนเด็กอยู่ในห้องเรียนได้ตรงจุด "หมออุดม" รับปากแก้ปมเปิดปิดอาเซียน เดินหน้าทำวิจัยรู้ผลอีก 4 เดือน...
เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 59 ศ.นพ.อุดม คชินทร อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กล่าวภายหลังการประชุมสามัญ ทปอ. ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า ทปอ.ได้รับมอบหนังสือจากตัวแทนกลุ่มสภานิสิตนักศึกษาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย ซึ่งแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปิด-ปิดภาคเรียนตามอาเซียน ซึ่งขอให้ ทปอ.แก้ปัญหาที่กระทบต่อนิสิตนักศึกษา อาทิ การสมัครเข้ารับราชการและรัฐวิสาหกิจในช่วงเดือน เม.ย. ซึ่งเด็กยังเรียนไม่จบ การสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู พยาบาล รวมทั้งการเกณฑ์ทหาร ซึ่ง ทปอ.รับที่จะไปประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อให้การรับสมัครสอดคล้องกับระบบการเปิด-ปิดภาคเรียนที่ปรับเปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม ทปอ.ได้ทำการวิจัยผลกระทบการเปิด-ปิดภาคเรียนตามอาเซียน คาดว่าใช้เวลา 3-4 เดือน จึงจะได้ข้อสรุป
ส่วน กรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขอให้ ทปอ.พิจารณาเลื่อนการสอบแบบวัดความถนัดทั่วไป หรือ GAT และแบบวัดความถนัดทางวิชาการหรือวิชาชีพ หรือ PAT ครั้งที่ 1 ซึ่งสอบเดือน ต.ค.เป็นเดือน ก.พ. เพื่อให้เด็กเรียนจบหลักสูตรก่อนนั้น ประธาน ทปอ. กล่าวว่า ต้องขอชี้แจงว่า การสอบ GAT-PAT เป็นการสอบเพื่อวัดความถนัดทางวิชาชีพ ไม่ได้เน้นสอบวิชาการเหมือนการสอบโอเน็ตหรือวิชาสามัญ 9 วิชา จึงสอบเมื่อใดก็ได้ โดย ทปอ.เห็นด้วยที่จะให้เด็กเรียนจนจบหลักสูตรก่อน ซึ่งการสอบ GAT-PAT ครั้งที่ 1 นั้น ก็เพื่อให้มหาวิทยาลัยนำคะแนนสอบไปใช้ในระบบรับตรง เพื่อลดปัญหาการวิ่งรอกสอบและลดภาระค่าใช้จ่ายในการสอบ
ดังนั้น ทปอ.จะขอความร่วมมือมหาวิทยาลัยที่เป็นสมาชิกทุกแห่ง เมื่อนำคะแนน GAT-PAT ไปใช้ในระบบรับตรงแล้ว ขอให้ประกาศผลการรับนิสิตนักศึกษาในระบบรับตรงประมาณกลางเดือน ก.พ. ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาหลังการสอบโอเน็ตเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งน่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดมากกว่า ซึ่งจะไม่เกี่ยวกับการรับระบบโควตา หรือโครงการพิเศษอื่นๆ และจะเร่ิมดำเนินการปีการศึกษาหน้า.
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐออนไลน์ 24 เม.ย. 2559 เวลา 17:10 น.