แนะ ศธ.ใช้มาตรา 44 กำหนดหน้าที่ผู้ว่าฯรวมจังหวัด-ภูมิภาค
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
แนะ ศธ.ใช้มาตรา 44 กำหนดหน้าที่ผู้ว่าฯรวมจังหวัด-ภูมิภาคศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี กล่าวถึงคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งใช้มาตรา 44 ในการปฏิรูปโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ ในส่วนภูมิภาคว่า ไม่ทราบรายละเอียด แต่ได้เห็นถึงความพยายามในการประสานการบริหารการศึกษาในส่วนจังหวัดและภูมิภาคเข้าไว้ด้วยกัน หากทำได้จะมีประโยชน์มาก เพราะต้องยอมรับว่าทรัพยากรในโรงเรียนต่างๆ มีไม่เท่ากัน บางโรงมีครูวิทยาศาสตร์ที่เก่ง แต่ขาดครูภาษาไทย
ขณะที่บางโรงเรียนก็มีครูภาษาไทยแต่ขาดครูวิทยาศาสตร์ หากสามารถเชื่อมโยงกัน เพื่อแบ่งปันทรัพยากรเด็กก็จะได้ประโยชน์ โดยมีผู้ว่าฯ เป็นประธาน ส่วนที่เกรงว่าผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัดอาจสนใจงานการศึกษาไม่เท่ากันนั้น เรื่องนี้ต้องเป็นหน้าที่ของ รมว.ศึกษาธิการ ที่ต้องวางกลไก คู่มือ และกำหนดหน้าที่ของผู้ว่าฯ ในด้านการศึกษาให้ชัดเจน
ต่อข้อถามถึงสิ่งที่ครูเป็นห่วงว่าจะถูกดึงออกจากห้องเรียนไปทำงานตามคำสั่งของผู้ว่าฯ นั้น ศ.นพ.เกษม กล่าวว่า ไม่เป็นห่วงเรื่องผู้ว่าฯ จะใช้อำนาจไปในทางที่ไม่ถูกต้องเหมือนในอดีต เพราะยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ในโลกยุคดิจิทัลในปัจจุบันข่าวต่างๆ ไม่ใช่ความลับอีกต่อไป และเชื่อว่าผู้ว่าฯเข้าใจดีว่าภารกิจใดที่ทำได้ ภารกิจใดที่ทำไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การปฏิรูปโครงสร้างในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าการปฏิรูปการศึกษาในครั้งที่ผ่านมาไม่ได้ผลใช่หรือไม่ ศ.นพ.เกษมกล่าวว่า การปฏิรูปการศึกษา เมื่อ 20 ปีที่แล้วก็เหมาะสมกับยุคสมัยนั้น พอมาอีก 20 ปีนี้ ต้องรีบเปลี่ยน ถ้าไม่เปลี่ยนก็จะไม่ทัน ตัวเราเองต้องเปลี่ยน เพื่อนบ้านเปลี่ยน เทคโนโลยี ความรู้ในโลกก็เปลี่ยน ดังนั้นคิดว่า ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงในทุกภาคส่วนเป็นเรื่องใหญ่มาก ถ้าจะทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมและโลกใบนี้ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่เสมอ ระบบการศึกษาก็ไม่ควรอยู่นิ่งต้องเปลี่ยนแปลง มนุษย์ออกแบบให้ปรับตัวได้อ ถ้าไม่ปรับตัวจะล้าหลัง แต่การเปลี่ยนแปลงต้องอยู่บนประโยชน์ของส่วนร่วมเป็นหลัก การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น โดยส่วนตัวมองโลกในแง่ดี การปฏิรูปในครั้งนี้น่าจะดีขึ้น
ขอบคุณเนื้อหาและที่มาของข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันที่ 1 เม.ย. 2559 (กรอบบ่าย)