ขับเคลื่อน"รร.ประชารัฐ"
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
ขับเคลื่อน"รร.ประชารัฐ"สพฐ.ขับเคลื่อน "โรงเรียนประชารัฐ" ดึงเอกชน ชุมชนมีส่วนร่วมจัดการศึกษา วางแผนตั้ง คกก.ระดับจังหวัดดูแลโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ 3,322 โรง มี ผอ.เขตพื้นที่ฯ นั่งประธาน
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า เนื่องจากในขณะนี้รัฐบาลกำลังขับโครงการประชารัฐ ที่เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ซึ่งจะมีการตั้งคณะกรรมการมาขับเคลื่อนในเรื่องต่างๆ หนึ่งในนั้นคือการดูแลด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำผ่านโรงเรียนประชารัฐ ซึ่งภาคเอกชนจะสามารถเข้ามามีส่วนในการขับเคลื่อน วางแผนให้โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 3,322 โรง ให้เป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพ
โดยการดำเนินการขั้นแรก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้คัดเลือกโรงเรียนที่จะเข้าร่วมโครงการ แบ่งเป็นสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา 3,093 โรง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 184 โรง สำนักงานบริหารงานการศึกษาพิเศษ 31 โรง และโรงเรียนสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน 14 โรง ซึ่ง สพฐ.ได้มีการทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้บริหารเขตพื้นที่ ผู้บริหารโรงเรียนถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ ให้สามารถขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกันแล้ว โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนในแต่ละเขตพื้นที่ฯ มีผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาเป็นประธาน
นายการุณกล่าวต่อว่า จากนี้ สพฐ.จะต้องดำเนินการร่วมกับภาคเอกชนใน 4 ด้านหลัก คือ 1.การจัดทำฐานข้อมูลการศึกษาของโรงเรียนทุกส่วน เช่น ข้อมูลจำนวนนักเรียนต่อห้องเรียน จำนวนครู ห้องปฏิบัติการเรียนการสอน เป็นต้น เพื่อที่จะให้ผู้ปกครองสามารถเข้าถึงและนำข้อมูลไปใช้ประกอบการตัดสินใจที่จะนำบุตรมาเข้าเรียน ทั้งยังเป็นการเปิดความโปร่งใสให้ทุกภาคส่วนสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งจะต้องเร่งให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้ 2.เตรียมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิตอลให้กระจายไปยังโรงเรียนทั่วประเทศ และใช้ในการเข้าถึงองค์ความรู้และสื่อต่างๆ 3.การเตรียมพัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนการสอนร่วมกับภาคเอกชน ซึ่งจะมีทั้งการนำสื่อการเรียนการสอนในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในโรงเรียน และนำวิธีการสอนในสถาบันชั้นนำมาถ่ายทอดให้แก่นักเรียน เพื่อสร้างเด็กที่มีความสนใจใฝ่ค้นคว้า หาข้อมูลด้วยตนเอง รู้จักคิดวิเคราะห์ และมีคุณธรรม มีจิตสาธารณะ และ 4.การเตรียมพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำและธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา จะรวมไปถึงการพัฒนาอบรมครูผู้สอนให้สามารถเป็นผู้แนะนำและอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ของผู้เรียน.
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 14 มีนาคม 2559