"นายกรัฐมนตรี"ใช้ม.44 ควบรวมอาชีวะรัฐ-เอกชน
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
นายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งคสช.รวมการบริหารจัดการรวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาภาครัฐและภาคเอกชน มีผล 13 ก.พ.นี้วันนี้ (12 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซด์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่8/2559 เรื่อง การบริหารจัดการรวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาภาครัฐและภาคเอกชน ระบุว่า เพื่อให้การปฏิรูปการศึกษาและการบริหารราชการในกระทรวงศึกษาธิการเกิดประสิทธิภาพและมีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงศึกษาธิการในการรวมการบริหารจัดการสถานศึกษาอาชีวศึกษา ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน และมีความคล่องตัวยิ่งขึ้นเป็นกรณีจําเป็นเพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปในด้านการศึกษา อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 หัวหน้า คสช.โดยความเห็นชอบของคสช. จึงมีคําสั่งดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้โอนบรรดาอํานาจหน้าที่ของสํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ ในส่วนที่เกี่ยวกับการดําเนินงานโรงเรียนในระบบ ประเภทอาชีวศึกษา ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน และของข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างของสํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สํานักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการ ในส่วนที่เกี่ยวกับการดําเนินงานโรงเรียนในระบบ ประเภทอาชีวศึกษา ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน ไปเป็นอํานาจหน้าที่ของสํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ หรือของข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างของสํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ แล้วแต่กรณี
ข้อ 2 ให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน งบประมาณ สิทธิ หนี้ ภาระผูกพัน ข้าราชการพนักงานราชการ ลูกจ้าง และอัตรากําลังของสํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนสํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ ในส่วนที่เกี่ยวกับการดําเนินงานโรงเรียนในระบบ ประเภทอาชีวศึกษา ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน ไปเป็นของสํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้ ตามบัญชีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการประกาศกําหนด
ข้อ 3 บรรดาอํานาจหน้าที่ของเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนและพนักงานเจ้าหน้าที่ของสํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ ในการอนุญาต การมอบหมาย หรือการปฏิบัติการอื่นตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนในส่วนที่เกี่ยวกับการดําเนินงานโรงเรียนในระบบ ประเภทอาชีวศึกษา ให้โอนไปเป็นอํานาจหน้าที่ของเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ของสํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ แล้วแต่กรณี
ในการมอบหมายตามวรรคหนึ่ง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจะมอบหมายให้ผู้ดํารงตําแหน่งอื่นแทนการมอบหมายให้ผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาก็ได้
ข้อ 4 บรรดาบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คําสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรีใดที่อ้างถึงสํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ หรือข้าราชการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ของสํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนดังกล่าว ในส่วนที่เกี่ยวกับการดําเนินงานโรงเรียนในระบบ ประเภทอาชีวศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน ให้ถือว่าอ้างถึงสํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการหรือข้าราชการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ของสํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาดังกล่าว แล้วแต่กรณี
ข้อ 5 บรรดาใบอนุญาตที่ผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนในระบบประเภทสามัญศึกษาหรืออาชีวศึกษา และได้รับอนุญาตให้จัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรการอาชีวศึกษา หรือหลักสูตรสามัญศึกษา แล้วแต่กรณีด้วย ให้ผู้รับใบอนุญาตมีสิทธิดําเนินการต่อไปตามที่ได้รับอนุญาต และให้สํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ หรือสํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ แล้วแต่กรณีดําเนินการออกใบอนุญาตให้ใหม่ตามที่จําเป็นโดยเร็ว
ข้อ 6 บรรดาคำขออนุญาตหรือคำขออื่นใดในส่วนที่เกี่ยวกับการดำเนินงานโรงเรียนในระบบประเภทอาชีวศึกษา ที่ได้ยื่นไว้ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนก่อนวันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับ ให้เป็นอันใช้ได้ และให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ ส่งมอบให้เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เพื่อดำเนินการต่อไป
ข้อ 7 ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข้อ 8 คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 22:15 น.