เล็งแก้เกณฑ์ครูได้รับรางวัล-เลื่อนวิทยฐานะ
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
เล็งแก้เกณฑ์ครูได้รับรางวัล-เลื่อนวิทยฐานะก.ค.ศ.เล็งปรับแก้เกณฑ์ครูได้รับรางวัลสูงสุดระดับประเทศให้มีมาตรฐานชัดเจน สังคมยอมรับ และเพิ่มรางวัลจากเดิม 206 เป็น 281 รางวัล เพื่อให้ครูกลุ่มนี้ได้รับการเลื่อนวิทยฐานะทันที “ดาวพงษ์” ย้ำผลงานต้องดีต่อการศึกษาจริงๆ เพื่อไม่ให้งบประมาณสูญเปล่า
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ประชุมมีการพิจารณาเรื่องการปรับการรองรับรางวัลสูงสุดระดับประเทศ ตาม ว.13/2556 เพราะเห็นว่าเกณฑ์ดังกล่าวใช้มานาน และควรมีการปรับให้รางวัลเป็นรางวัลที่มีคุณค่าสูงสุดจริงๆ จากเดิมที่จะพิจารณาแค่ 206 รางวัล ก็เพิ่มเป็น 281 รางวัล ซึ่งจะมีผลต่อการเลื่อนวิทยฐานะของครูด้วย ถ้ารางวัลง่ายเกินไปหรือไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจน สังคมก็จะไม่ยอมรับ จึงมอบหน้าที่ให้นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ไปพิจารณากฎกติกาหรือหลักเกณฑ์มาเสนอให้ทราบในการประชุมครั้งต่อไป ทั้งนี้ยังคงยึดในหลักเกณฑ์เดิมไปก่อนจนกว่ากติกาใหม่จะแล้วเสร็จ
พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาในเรื่องการพิจารณารางวัลดังกล่าวเป็นเรื่องที่แต่ละหน่วยงานเสนอบุคลากรที่มีคุณสมบัติเหมาะสมรับรางวัลในแต่ละด้านมาให้ ก.ค.ศ.เป็นผู้พิจารณา แต่แนวทางใหม่ที่จะให้เป็นไปนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเป็นคนคิดว่าควรจะมีรางวัลกี่ประเภท ด้านไหนบ้าง ถึงจะส่งผลให้การศึกษาดีจริง เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ควรจะมีกี่รางวัล ประเภทไหนบ้าง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กี่รางวัล สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) กี่รางวัล เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้มีการกำหนดอย่างชัดเจน ทำให้อาจจะเกิดการซ้ำซ้อน และหากภาคเอกชนสนใจจะร่วมจัดรางวัลระดับชาติก็สามารถเข้ามาได้ แต่เกณฑ์และคุณสมบัติของผู้เข้ารับรางวัลจะต้องตรงตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กำหนดไว้
“อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในอนาคตจะมีการเลิกใช้ ว.13 และปรับมาเป็นหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะหรือเลื่อน ว.7/2558 ก็จะต้องมีการปรับในส่วนนี้อยู่ดี ซึ่งจะสามารถใช้เกณฑ์นี้ต่อไปได้ และที่ประชุมก็ได้หารือกันอย่างกว้างขวาง เพราะเรื่องรางวัลมีผลต่อการเลื่อนวิทยฐานะ และจะนำไปสู่การเพิ่มเงินเดือน ส่งผลกระทบต่องบประมาณ เพราะฉะนั้นต้องดูให้ดี ให้เหมาะสมกับเงินของรัฐบาลที่ต้องจ่ายเพิ่ม” รมว.ศธ.กล่าว
ด้านนายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาฯ กอศ.) กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่ประชุมได้เห็นชอบร่างกฎ ก.ค.ศ.การจัดประเภทตำแหน่งระดับตำแหน่งการให้ได้รับเงินเดือน และเงินประจำตำแหน่งของตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 39 ค (2) ฉบับที่... พ.ศ..... ของ สอศ. ที่มีการกำหนดตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นเพิ่มขึ้นอีก 1 ประเภท คือ ประเภทอำนวยการ จากเดิมที่มีอยู่ 2 ประเภท คือ ประเภทบริหาร และประเภทวิชาการ โดยประเภทอำนวยการที่กำหนดขึ้นใหม่ ได้แก่ ตำแหน่งผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสำนักหรือศูนย์ของสถาบันการอาชีวศึกษาทั้ง 23 สถาบัน แห่งละ 14 อัตรา รวม 322 อัตรา นอกจากนี้ยังกำหนดให้ได้รับเงินประจำตำแหน่ง โดยประเภทอำนวยการระดับต้นจะได้รับเงินประจำตำแหน่ง 5,600 บาท และอำนวยการระดับสูง จำนวน 10,000 บาท หลังจากนี้จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเห็นชอบต่อไป.
ขอบคุณเนื้อหาและที่มาของข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 28 มกราคม 2559 เวลา 0:00 น.