ศธ.ปลื้ม ลดเวลาฯ-สานฝันกีฬาฯ 5 จ.ใต้ ได้ผลดี
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ในการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ โดยเขตการศึกษาในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ดำเนินการคู่ขนานไปกับโครงการ "สานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้" ปรากฏว่า ล่าสุดกระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินงานในระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน พ.ย.58 พบผลสัมฤทธิ์การดำเนินการ ทั้งครู ผู้ปกครอง และนักเรียน ต่างพึงพอใจในโครงการดังกล่าว ทั้งนี้มีเด็กและเยาวชนเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก
โดย นายอาดุลย์ พรมแสง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ยะลา 1 กล่าวว่า จ.ยะลา มีโรงเรียนเข้าร่วมนโยบายลดเวลาเรียนฯ จำนวน 11 โรงเรียน พบว่า 2 เดือน เด็กสนใจร่วมกิจกรรมเสริม โดยเฉพาะ ร.ร.บ้านโกตาบารู อ.รามัน ดำเนินการน่าพึงพอใจอย่างมาก โดยเฉพาะการเล่นกีฬา ดนตรี และอาชีพเสริมที่เด็กๆ ชอบกันมาก เพราะเด็กไม่ได้หวังแค่เรียนรู้เท่านั้น แต่มีความมุ่งมั่นอยากจะทำเป็นอาชีพด้วย
ขณะที่ ส.ต.ท.มะปอซี อาแว ครูผู้สอน ร.ร.บ้านโกตาบารู กล่าวว่า เด็กๆ มีโอกาสได้ทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบและถนัด ขณะที่ ด.ช.อิฟรอน เจ๊ะอาแว นักเรียน ร.ร.บ้านโกตาบารู ชื่มชอบนโยบายลดเวลาเรียน เพราะทำให้สามารถเลือกทำกิจกรรมในสิ่งที่ชอบได้มากขึ้น ส่งผลให้มั่นใจในตัวเอง และมีสุขภาพแข็งแรงมากขึ้น ซึ่งผู้ปกครอง ด.ช.อิฟรอน ก็ระบุว่าหลังเลิกเรียนเด็กๆ ส่วนใหญ่ก็ได้เล่นฟุตบอลเพื่อเสริมทักษะด้านกีฬา แต่ผลการเรียนก็ไม่ตก อีกทั้งยังดีขึ้นอีกด้วย
ด้าน นายดุลลาภ ตาเล๊ะ ผอ.ร.ร.เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ จ.ยะลา ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กล่าวว่า ทั้งนี้เราเป็นโรงเรียนต้นแบบที่นำหลักสูตรการศึกษาวิทยาศาสตร์กีฬามาบรรจุ เพื่อให้นักเรียนที่มีความเชี่ยวชาญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มีโอกาสทางการศึกษาที่ถนัด
ทางด้าน นายนิพัฒน์ มณี ผอ.สพป.นราธิวาส 1 กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ในพื้นที่มีเหตุการณ์ความรุนแรง นักเรียนจึงใช้เวลาไปกับการเรียนเพียงอย่างเดียวทำให้มีความเครียด จากนโยบายดังกล่าวทำให้นักเรียนมีความสุขเพิ่มขึ้น และมีพัฒนาการด้านต่างๆ อีกทั้งยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้
ขณะที่ นายนิกร เซ้งเถียร ผอ.ร.ร.รือเสาะชนูปถัมภ์ ต.รือเสาะ กล่าวว่า โครงการสานฝันการกีฬาฯ เปิดโอกาสให้นักเรียนที่ศึกษาชั้น ม.4 ได้เรียนหนังสือควบคู่กับการเล่นกีฬาที่ตัวเองชื่นชอบ โดยเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ปีนี้ทางโรงเรียนขยายแผนการเรียนเพิ่มอีก 2 แผน
นายนิรุตต์ โว๊ะนิเน็ง ครูผู้ฝึกสอนกีฬาฮอกกี้ ร.ร.รือเสาะชนูปถัมภ์ กล่าวว่า นับเป็นการจุดประกายความฝันให้เด็กเข้าสู่ระบบการศึกษา ขณะที่โครงการช่วยเติมเต็มอนาคตของเด็ก
อีกด้านที่ จ.ปัตตานี นายพิภพ ทองแดง ผอ.สพป. ปัตตานี เขต 1 กล่าวว่า ในสำนักงานเขตพื้นที่มีโรงเรียนนำร่องนโยบายลดเวลาเรียนฯ 14 โรงเรียน ใน 4 อำเภอ ขณะที่โรงเรียนอิสลามแบบเข้ม ก็จัดกิจกรรมได้โดยไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด โดยที่นักเรียนและผู้ปกครองต่างพอใจ
ขณะที่ นายสมาน เจ๊ะเตะ ผอ.ร.ร.บ้านบูดี อ.ยะหริ่ง กล่าวว่า โรงเรียนได้จัดกิจกรรมที่หลากหลายควบคู่ไปกับคู่มือที่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดให้ ซึ่งเด็กๆ ต่างมีความสุข สนุกสนาน และได้ความรู้ ชื่นชอบการเรียนวิชาชีพ เพราะทำให้รู้สึกผ่อนคลายและได้ความรู้
ส่วน นายธนู นูนน้อย ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การ ศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 15 จ.ปัตตานี กล่าวว่า ที่รับผิดชอบมี 4 โรงเรียน มีการเปิดกีฬาที่นักเรียนให้ความสนใจ อย่าง ฟุตบอล วอลเลย์บอลชาย-หญิง เซปักตะกร้อ เทควันโด้ และแบดมินตัน
ขณะที่ นายอภิชัย หมุดทอง ผู้ปกครอง กล่าวว่า เป็นโครงการที่ดีมาก อย่างน้อยเด็กในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะได้มีโอกาสที่ดีในเรื่องกีฬา เพื่อพัฒนาศักยภาพให้เด็กไปสู่วงการกีฬาของไทย และยังช่วยให้ห่างไกลยาเสพติด
นอกจากนี้ จ.สงขลา นายคมสันต์ อุยสกุล ผอ.โรงเรียนบ้านเคลียง ยืนยันว่า ได้รับการตอบรับจากคนในพื้นที่เป็นอย่างดี จัดตารางสอนในภาคบ่ายเป็นการเรียนชุมนุม โดยเฉพาะกีฬามวยไทยที่มีผลงานชนะเลิศในเวทีต่างๆ โดย ด.ญ.วรรณิดา ขะหวีดาโอะ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระบุว่า ได้เล่นกีฬา ฝึกอาชีพมากขึ้น ไม่เคร่งเครียดในการเรียน และผลการเรียนก็ดีขึ้นด้วย
ส่วน นายมานพ จุลวรรณลีย์ ผอ.นาทวีวิทยาคม กล่าวว่า โรงเรียนได้เตรียมหลักสูตรให้นักเรียนมีทักษะทางด้านกีฬา โดยเน้นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาใช้เป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ โดย ด.ช.มัชานนท์ โชติกร นักเรียนชั้น ม. 2 กล่าวว่า เป็นโครงการที่ดีสำหรับเด็กในจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อก้าวสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพให้สามารถเลี้ยงตนเองได้
ที่ จ.สตูล นายจักรี วัฒนะ ผอ.ร.ร.บ้านกาลูบี เปิดเผยว่า โรงเรียนบ้านกาลูบีเป็นโรงเรียนนำร่องลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ โดยเรียนรู้นอกห้องเรียน มีความสนุกสนามกับกิจกรรมภาคปฏิบัติ ส่งเสริมทักษะด้านการประกอบอาชีพ เช่น การทำอาหารคาวหวาน ทำขนม ที่เชิญวิทยากรท้องถิ่นหรือผู้ปกครองมาร่วมด้วย ส่งผลให้โรงเรียนและชุมชนมีความใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น
ด้าน นายพรพล หลังจิ ครูผู้สอน กล่าวว่า ถือเป็นโครงการที่ส่งเสริมให้เด็กใช้ทักษะชีวิตในแต่ละวัน และรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ขณะที่ นางรอฮีม๊ะ ปันคีกา ผู้ปกครองนักเรียน ระบุว่า ดีใจที่มีโครงการนี้ เพราะทำให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมกับโรงเรียน เมื่อเด็กกลับไปบ้านก็สามารถนำความรู้ที่ได้ไปช่วยเหลือพ่อแม่ และอยากให้มีโครงการแบบนี้เกิดขึ้นต่อไป ขณะที่ ด.ญ.คอลีย๊ะ กอหลำ กล่าวว่า ชอบการประดิษฐ์กระปุกออมสิน นำไปใช้ออมเงินได้ที่บ้าน
(ที่มาภาพ : กระทรวงศึกษาธิการ)
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐออนไลน์ วันที่ 24 ม.ค. 2559 เวลา 16:10 น.