เปิดตารางชีวิตครูไทย ใช้เวลานอกห้องเรียน-งานประเมิน 65 วัน/ปี
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
เปิดตารางชีวิตครูไทย ใช้เวลานอกห้องเรียน-งานประเมิน 65 วัน/ปีสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) จัดงานแถลงข่าว “เปิดผลสำรวจตารางชีวิตครูไทยใน 1 ปี” โดยดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ผู้ทรงคุณวุฒิ สสค. อดีตผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ กล่าวว่า ผลสำรวจกิจกรรมภายนอกชั้นเรียน ที่กระทบต่อการจัดการเรียนการสอนของครู ผ่านกลุ่มตัวอย่าง “ครูสอนดี” ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากทุกท้องถิ่นทุกสังกัดทั่วประเทศ
โดยมีอายุเฉลี่ยและวิทยะฐานะสูงกว่าครูทั่วไป จำนวน 319 คน ซึ่งเป็นกลุ่มตัวอย่างเดิมจากการเก็บข้อมูลในปี 2557 เพื่อให้เกิดความแม่นยำในการเปรียบเทียบสถานการณ์ “กิจกรรมภายนอกชั้นเรียนที่กระทบต่อการจัดการเรียนการสอนของครู” เก็บข้อมูลด้วยวิธีสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ระหว่างวันที่ 26 ธ.ค.2558- 5 ม.ค.2559 พบว่า
ในปี 2558 มีวันเปิดเรียน 200 วัน ครูต้องใช้เวลากับกิจกรรมนอกชั้นเรียนที่ไม่ใช่การสอน 65 วัน คิดเป็น 32.5% ซึ่งลดลงจากปี 2557 ที่ครูต้องใช้เวลาถึง 84 วัน เท่ากับว่าครูได้เวลาคืนสู่ห้องเรียนมากขึ้นถึง 19 วัน หรือคิดเป็นอัตราส่วนถึง 25 % เทียบกับปี 2557
ดร.อมรวิชช์ กล่าวว่า ปัจจัยที่สามารถคืนเวลาให้ครูได้ถึง 25% เทียบกับปี 2558 เกิดจากการดำเนินนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการที่สำคัญหลายเรื่อง เช่น การลดจำนวนวิชาที่ใช้สอบประเมินผู้เรียน การขอความร่วมมือสพฐ.ในการลดกิจกรรมประกวดแข่งขันและการอบรมครูลง
นอกจากนี้ยังมีนโยบายที่มีการดำเนินการไปแล้วแต่ยังรอให้เห็นผลกระทบต่อเนื่อง ได้แก่ การปรับระบบการประเมินวิทยฐานะของครูและผู้บริหารที่เน้นผลสัมฤทธิ์ในการพัฒนาผู้เรียนโดยไม่ผูกกับการแข่งขัน การได้รางวัล หรือการทำเอกสารวิชาการเป็นหลัก การปรับระบบการประเมินของสมศ. ตลอดจนการให้ สพฐ. ลดการประเมินโรงเรียนในโครงการต่างๆ ที่ซ้ำซ้อนลง
ซึ่งคาดว่าเมื่อมีการติดตามผลอีกครั้งในปี 2559 นี้ จะยิ่งเห็นผลชัดเจนขึ้น ซึ่งอาจคืนเวลาการสอนให้ครูเพิ่มขึ้นถึง 50% จึงเชื่อว่าทางกระทรวงจะผลักดันเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ตามข้อเสนอแนะจากเพื่อนครู ทั้งนี้เวลาที่ได้คืนมานี้ควรมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์เรื่องการเตรียมการสอนและการพัฒนาขีดความสามารถของครูผ่านนวัตกรรมใหม่ๆ เช่นระบบโค้ชชิ่ง เป็นต้น
ขอบคุณเนื้อหาและที่มาของข่าวจาก :: Mthai News วันที่ 18 มกราคม 2559