จ่อเชือด 50 รายผู้บริหารท้องถิ่น-ขรก.ครูเอี่ยวจัดซื้อ-สอบเข้าทำงานวิษณุแย้มถึงมือนายกฯ แล้ว
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แถลงผลงานด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ตอนหนึ่งว่า ผลงานรัฐบาลจะประสบความสำเร็จได้ต้องมีกฎหมายเป็นตัวช่วย ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การปราบทุจริต เป็นต้น โดยมีรัฐบาลเป็นคนขับเคลื่อนให้ไปสู่จุดหมายปลายทาง หากรัฐบาลใช้อำนาจเกินที่กฎหมายกำหนดต้องมีจุดจบที่ศาลยุติธรรม ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทั้งนี้ก่อนวันที่ 22 พ.ค. 2557 คนไทยเสียโอกาสทำอะไรดีๆหลายอย่าง เราไม่ได้โทษรัฐบาลใด ที่รัฐบาลชุดก่อนแก้ไขไม่ได้เพราะมีเหตุขัดข้อง ทำให้กฎหมายต่างๆ ยังค้างอยู่ แต่รัฐบาลโชคดี เพราะไม่มีเหตุขัดข้อง จนสามารถออกกฎหมายแก้ปัญหาต่างๆ ได้ 8 ประการคือ 1.เร่งออกกฎหมายตามพันธะกรณีระหว่างประเทศ อาทิ พันธะสัญญาไซเตส พ.ร.บ.ป้องกันอุดหนุนการเงินก่อการร้าย กฎหมายป้องกันการค้ามนุษย์, 2.กฎกติกาที่ทำให้เศรษฐกิจไทยไม่เข้มแข็ง จึงเกิดกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจที่นักธุรกิจและธนาคารโลกเฝ้ารอ
3.จัดระเบียบสังคมให้มีความสมดุล, 4.พยายามลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ให้คนจนคนรวยมีช่องว่างห่างกันไม่มาก จึงออก พ.ร.บ.ความเสมอภาค พ.ร.บ.การทวงหนี้ที่ไม่เป็นธรรม, 5.ระบบราชการของประเทศก่อนวันที่ 22 พ.ค.2557 มีลักษณะเป็น 4 ช คือ 1.เชย 2.เชื่องช้า 3.ใช้งบประมาณมาก 4.เปิดช่องให้ทุจริต รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ลดลง โดย พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกทางราชการ ให้งานราชการทำให้เร็วขึ้น ประชาชนได้รับความสะดวก
6.โลกเปลี่ยนไปแต่กฎหมายถอยหลัง โดยรัฐบาลพยายามทำกฎหมายให้ทันโลก แก้ปัญหาโดยออก พ.ร.บ.อุ้มบุญ, 7.ออกกฎหมายแก้ปัญหาทรัพยากรของประเทศ เช่น ออกกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่า กฎหมายคุ้มครองทรัพยากรชายฝั่ง,8.สางคดีความที่รกโรง รกศาล วิธีพิจารณาคดีล่าช้า ไม่ทันสมัย มีการใช้มาตรา 44 มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ออกกฎหมายล้มละลาย คดีแพ่ง ให้เริ่มจากศาลชั้นต้นและจบที่ศาล อุทธรณ์ ไม่ต้องถึงศาลฎีกาฯ ยกเว้นบางคดี
นายวิษณุกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในปี'59-60 จะวางระบบแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง ทั้งระดับปลัดกระทรวง อธิบดี โดยจะใช้หลักเกณฑ์ใหม่ทั้งหมด ไม่ให้ใช้เส้นสาย นอกจากนี้จะมีการออกกฎหมายบูรณการการทำงานข้ามกระทรวงเพื่อไม่ให้กระทรวงใดเป็นของพรรคการเมืองใด พรรคการเมืองหนึ่ง รวมถึงการออกกฎหมาย ปฏิรูปการศึกษาที่เป็นระบบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเวลาต่อมา นายวิษณุ ยังชี้แจงเพิ่มเติมถึงการส่งรายชื่อ ข้าราชการที่เป็นผู้บริหารท้องถิ่นและ ผู้บริหารการศึกษาที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริตประพฤติมิชอบ 50 คน ไปให้นายกฯเพื่อเตรียมออกคำสั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ ว่า ข้าราชการกลุ่มนี้มีทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องกับการ จัดซื้อจัดจ้างและการจัดสอบคัดเลือกบุคคล เข้าหน่วยงาน แต่กลับสอดไส้นำคนของตัวเองเข้าไปด้วย โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบว่ารายชื่อข้าราชการส่วนนี้มีใครบ้างที่ยังรับราชการอยู่ หรือออกจากราชการไปแล้ว
ขณะที่นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวว่า ป.ป.ท.ได้ตรวจสอบรายชื่อข้าราชการเหล่านี้ แล้ว ซึ่งพบว่าทั้งหมดยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ โดยเหตุผลที่ต้องมีการออกคำสั่ง ระงับการปฏิบัติหน้าที่ข้าราชการส่วนนี้ เนื่องจากป้องกันการเข้าไปข่มขู่พยานบุคคล และใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรณีที่เกี่ยวกับการทุจริตทั้งหมด ตนเชื่อว่าหากเปิดเผยรายชื่ออกมา จะสามารถเรียกเสียงฮือฮาจากสังคมได้อย่างแน่นอน
ขอบคุณเนื้อหาและที่มาของข่าวจาก : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แนวหน้า