สมศ.ชี้แจงผลประเมินในรอบ 15 ปี 5 ปัญหาจากโรงเรียนสามหมื่นกว่าแห่ง
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
สมศ.ชี้แจงผลประเมินในรอบ 15 ปี 5 ปัญหาจากโรงเรียนสามหมื่นกว่าแห่งศาสตราจารย์ ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(องค์การมหาชน)หรือสมศ.เปิดเผยว่าจากข้อมูลการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสามที่ผ่านมาพบว่าปัจจุบันประเทศไทยมีสถานศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วประเทศกว่า33,736แห่งมีสถานศึกษาขนาดเล็กจำนวน24,805แห่งซึ่งบริบทของสถานศึกษาขนาดเล็กส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในพื้นที่นอกเขตเมืองหรือในพื้นที่ห่างไกลนักเรียนส่วนใหญ่มีพื้นเพมาจากครอบครัวที่มีฐานะยากจนนอกจากนี้ผู้ปกครองส่วนใหญ่มีค่านิยมส่งบุตรหลานไปศึกษาในอำเภอเมืองหรือตัวจังหวัดหรือโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมมากกว่าทำให้โรงเรียนขนาดเล็กไม่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาเท่าที่ควรโดยจากการประเมินคุณภาพภายนอกของสมศ.ตลอดระยะเวลา15ปีที่ผ่านมาพบ5ปัญหาสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาสถานศึกษาขนาดเล็กดังนี้
1.ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอยู่ในระดับต่ำโดยจากผลการประเมินคุณภาพภายนอกของสมศ.พบว่านักเรียนในสถานศึกษาขนาดเล็กยังมีปัญหาอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอยู่ในระดับต่ำดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องควรจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มศักยภาพโดยเสริมทักษะในการแสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายและสามารถนำวิธีการเรียนรู้ไปใช้ในชีวิตจริงได้ขณะเดียวกันครูก็ต้องพัฒนาความสามารถในการประยุกต์ใช้สื่อการเรียนการสอนทั้งที่เป็นสื่อเทคโนโลยีสื่อพื้นฐานและสอนให้นักเรียนเรียนรู้การใช้สื่อดังกล่าวด้วยตามลำดับความสามารถที่แตกต่างกันของผู้เรียนเอง
2.ขาดแคลนงบประมาณเนื่องจากสถานศึกษาขนาดเล็กได้รับงบประมาณจากรัฐบาลในจำนวนจำกัดจึงส่งผลต่อจำนวนบุคลากรครุภัณฑ์และสื่อการเรียนการสอนต่างๆรวมไปถึงการก่อสร้างอาคารสถานที่ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนแต่อย่างไรก็ตามงบประมาณไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนเสมอไปถ้าบุคลากรในสถานศึกษานั้นๆมีประสิทธิภาพและเรียนรู้ในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
3.จำนวนบุคลากรครูมีไม่เพียงพอจากปัญหาครูไม่ครบชั้นเรียนสถานศึกษาจึงจัดการเรียนรวมระหว่างชั้นเรียนทำให้
นักเรียนไม่ได้รับความรู้ที่เหมาะสมในแต่ละชั้นเรียนหรือในบางท้องที่ที่มีสถานศึกษาขาดแคลนครูหลายแห่งอยู่ใกล้ๆกันสามารถรวมชั้นเรียนระหว่างสถานศึกษาใกล้ๆกันเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนครูแต่ระบบการบริหารจัดการควรจะแตกต่างไปจากการบริหารปกติดังนั้นจึงจำเป็นต้องสร้างแรงจูงใจให้ครูอยากเป็นครูในโรงเรียนขนาดเล็กหรือให้ทุนการศึกษาแก่คนที่รักการเป็นครูเพื่อกลับมาเป็นครูสอนในพื้นที่
4.ขาดระบบข้อมูลสารสนเทศที่มีคุณภาพจากข้อมูลการประเมินสถานศึกษาของสมศ.พบว่า อัตราการเข้าถึงสื่อสารสนเทศของสถานศึกษาขนาดเล็กยังอยู่ในระดับต่ำระบบสารสนเทศของโรงเรียนขนาดเล็กเช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ฐานข้อมูลระบบเครือข่ายฯลฯส่วนใหญ่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการหรือไม่มีประสิทธิภาพมากพอทำให้การจัดเก็บข้อมูลต่างๆที่เป็นประโยชน์ของสถานศึกษาทั้งงบประมาณหลักสูตรการเรียนการสอนข้อมูลบุคลากรและนักเรียนฯลฯไม่ได้
รับการจัดเก็บที่ถูกต้องและไม่สามารถใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนาสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพและ5.สถานศึกษาขาดการนำผลการประเมินคุณภาพภายนอกมาใช้ปรับปรุงพัฒนา
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันพุธ ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558, 06.00 น.