วางแผนลดหย่อนภาษี
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
เข้าสู่โค้งสุดท้ายของปี 2558 กันแล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ จะต้องทำเรื่องยื่นภาษีประจำปี ซึ่งแต่ละคนพอจะรู้กันหรือไม่ว่า เรามีสิทธิในการลดหย่อนภาษีในเรื่องอะไรบ้าง เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่ทราบ หรือทราบแต่ยังไม่รู้ทั้งหมด
ทั้งนี้ เราจึงจำเป็นและสมควรรู้เรื่องสิทธิของเรา และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียสิทธิดังกล่าว เราจึงควรสำรวจสิทธิในการลดหย่อนภาษีดูก่อนว่า ค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งค่าลดหย่อนภาษีในส่วนนี้เอง จะช่วยให้คุณเสียภาษีน้อยลง และยังอาจได้เงินภาษีคืนอีกด้วย
ได้แก่ เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หักได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 500,000 บาท เงินสะสม กบข. ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 500,000 บาท เงินสะสมกองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
เงินค่าชดเชยที่ได้รับตามกฎหมายแรงงาน ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 300,000 บาทของค่าจ้างหรือเงินเดือนของการทำงาน 300 วันสุดท้ายในส่วนของค่าเลี้ยงดูบุตร หรือบุตรบุญธรรม หักได้คนละ 15,000 บาท และเฉพาะบุตรซึ่งมีอายุไม่เกิน 25 ปี และยังศึกษาอยู่ในประเทศให้ลดหย่อนเพื่อการศึกษาได้อีกคนละ 2,000 บาท
อุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป หักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาได้คนละ 30,000 บาท อุปการะเลี้ยงดูคนพิการหรือคนทุพพลภาพ หักได้คนละ 60,000 บาท นอกจากนี้ยังมีเบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท เป็นต้น
ที่กล่าวมานี้ คงเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปแล้วว่าเราได้สิทธิลดหย่อนภาษี ซึ่งรวมไปถึงเบี้ยประกันชีวิต เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ หักได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท เฉพาะกรมธรรม์ประกันชีวิตมีกำหนดเวลาตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
ปัจจุบันผู้ประกอบการในธุรกิจประกันชีวิต ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือสินค้าประกันชีวิตเพื่อให้สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้มากยิ่งขึ้น และมีหลายแบบหลายประเภทให้ผู้บริโภคได้เลือกกัน จึงขอยกตัวอย่างบริษัทประกันชีวิตที่ได้เปิดตัวแบบประกันชีวิตเพื่อเจาะกลุ่มคนวันทำงานมองหาการลงทุนและการออมเงินที่เอื้อประโยชน์ด้านการลดหย่อนภาษี
อย่าง บมจ.ไทยประกันชีวิต ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตมาอย่างยาวนานและต่อเนื่อง ทั้งนี้ ได้พัฒนาแบบประกันใหม่ “ธนทรัพย์ 85” ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองนานถึงอายุ 85 ปี มอบความคุ้มครองสูงสุด 120% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
สำหรับแบบประกัน “ธนทรัพย์ 85” รับประกันตั้งแต่อายุ 1 เดือนถึง 70 ปี ให้ความคุ้มครองถึงอายุ 85 ปี สามารถเลือกชำระเบี้ยประกันได้ 2 แบบ คือ ธนทรัพย์ 85/5 ชำระเบี้ยประกัน 5 ปี รับความคุ้มครอง 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และธนทรัพย์ 85/10 ชำระเบี้ยประกัน 10 ปี รับความคุ้มครอง 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย โดยผู้เอาประกันสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาท
อย่างไรก็ตาม การหักลดหย่อนภาษีนั้นเป็นหนึ่งในการวางแผนภาษี ในแต่ละปีรัฐบาลจะมีนโยบายออกมากระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้การลดหย่อนภาษีเป็นแรงจูงใจ เช่น รถคันแรก บ้านหลังแรก ทั้งนี้เราต้องคอยติดตามข่าวว่าแต่ละปีมีหักลดหย่อนภาษีอะไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้ไม่เสียสิทธิ
การซื้อประกันชีวิตเพื่อหักลดหย่อนภาษี เป็นหนึ่งในนโยบายที่รัฐต้องการกระตุ้นการออมของประชาชนเพื่อให้มีเงินเพียงพอที่จะใช้ตลอดชีวิต โดยที่เป็นภาระของลูกหลานน้อยที่สุด การส่งเสริมการออมที่ได้รับการลดหย่อน
เชื่อว่าการประกันชีวิตเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับครอบครัว การซื้อประกันชีวิตจึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า เพราะนอกจากจะให้ความคุ้มครองแล้ว ยังสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตไปหักลดหย่อนภาษีได้
ขณะที่กรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญ หากผู้เอาประกันภัยมีอายุยืนยาวเข้าสู่วัยสูงอายุ จะมีการจ่ายผลประโยชน์เป็นแบบรายเดือนหรือรายปีจนกว่าผู้เอาประกันภัยจะเสียชีวิต หรือระยะเวลาหนึ่งตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย ดังนั้นเราจึงควรศึกษาเงื่อนไขความคุ้มครอง ความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัย และรายละเอียดข้อยกเว้นให้เข้าใจก่อนตัดสินใจทำประกัน
เห็นไหมว่าเรามีช่องทางในการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้มากมายเลย อย่าลืมใช้สิทธิของคุณเพื่อประหยัดภาษี สำหรับผู้ที่ยื่นภาษีไปแล้ว ยังใช้เป็นแนวทางในการวางแผนภาษีสำหรับปีหน้าได้ วางแผนดีๆ ปีหน้ามีโอกาสได้เงินภาษีคืนแน่นอน!!!.
ศรยุทธ เทียนสี
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2558