สอบจัดซื้อครุภัณฑ์-พบผิดปกติสั่งระงับ
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
"การุณ" สั่งเขตพื้นที่ฯ ลงตรวจสอบเข้มจัดซื้อครุภัณฑ์การศึกษา หลัง ภตช.เผยมีบริษัทร้องเรียน ลงลึกตั้งแต่รายละเอียดสัญญา หรือกรณีสัญญาแล้วทำงานได้ตามเงื่อนไขหรือไม่ หากพบผิดปกติให้สั่งระงับและรายงาน สพฐ.
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวถึงกรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ กรรมการและเลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.) ระบุว่า ได้รับการร้องเรียนจากบริษัทและร้านค้าหลายแห่งว่ามีผู้บริหารโรงเรียนหรือบุคคลใกล้ชิดผู้บริหารมีพฤติกรรมส่อไปในลักษณะทุจริต โดยอ้างว่ามีการบังคับให้บริษัทเอกชนหรือห้างร้านต้องจ่ายเงินก่อนร้อยละ 35 เพื่อแลกกับใบสั่งซื้อจากโรงเรียนในการจัดซื้อครุภัณฑ์การศึกษาของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปีงบประมาณ 2559 จำนวน 806,782,500 ล้านบาท
โดย ภตช.ขอให้ สพฐ.ลงไปตรวจสอบและหากพบว่ากระทำผิดจริงก็ขอให้เอาผิดกับผู้บริหารโรงเรียนที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ว่า งบประมาณการจัดซื้อครุภัณฑ์การศึกษาดังกล่าว เป็นส่วนในงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามนโยบายของรัฐบาลซึ่งได้เน้นย้ำตั้งแต่ต้นกับแล้วว่าการดำเนินงานทุกอย่างต้องรอบคอบที่สุด และเป็นไปอย่างโปร่งใส
โดยขณะนี้ได้ทำหนังสือเวียนแจ้งไปยังผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) 225 เขตทั่วประเทศให้ลงไปตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าว ทั้งการทำสัญญากับบริษัทว่าทำเรียบร้อยหรือไม่ หลังทำสัญญาแล้วดำเนินงานตามสัญญาหรือไม่ ทั้งการก่อสร้าง ปรับปรุง และซ่อมแซมหรือไม่ ที่สำคัญคือก่อนการเบิกจ่ายเงิน เขตพื้นที่ฯต้องตรวจงานนั้นก่อนว่าเสร็จเรียบร้อยจริงหรือเปล่า และดูเนื้องานกับเม็ดเงินที่เบิกไปโดยเฉพาะก่อนเบิกจ่ายเงิน ทั้งนี้ เพราะตามหลักการแล้วเขตพื้นที่ฯ ต้องเข้าไปตรวจสอบภาพรวมทั้งหมด อย่างไรก็ตาม หากเขตพื้นที่ฯ พบว่าโรงเรียนใดมีปัญหาก็ให้ระงับการเบิกจ่ายเงินทั้งหมด แล้วเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้รายงานมายัง สพฐ.รับทราบ
"คำสั่งนี้ไม่ได้ ระบุเฉพาะบางพื้นที่ฯ แต่ให้ทุกเขตพื้นที่ฯ ลงไปร่วมตรวจสอบ ถือเป็นการซักซ้อมทำความเข้าใจ เน้นย้ำให้ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง ตามระเบียบที่กำหนดเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ผมได้ส่งหนังสือเวียนไปแล้ว 2 ฉบับด้วยกัน โดยเฉพาะฉบับที่สองนี้เป็นการกำชับแนวปฏิบัติว่าก่อนเบิกจ่ายเงิน จะต้องตรวจสอบความถูกต้องของสัญญาก่อน" เลขาธิการ กพฐ. กล่าว
ขอบคุณเนื้อหาและที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก