ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 425/2558 ความก้าวหน้าการดำเนินงานด้าน ICT เพื่อการศึกษาของ ศธ.
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 425/2558ความก้าวหน้าการดำเนินงานด้าน ICT เพื่อการศึกษาของ ศธ.
ศึกษาธิการ - พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมแนวทางการดำเนินงาน ICT เพื่อการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2558 ที่ห้องประชุมราชวัลลภ
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า จากการที่กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการจัดทำแผนแม่บทเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา (พ.ศ.2559-2563) (Technology Master Plan for Education) โดยกำหนดยุทธศาสตร์ปฏิบัติการใน 5 ด้าน คือ 1) โครงสร้างพื้นฐาน 2) ระบบข้อมูลสารสนเทศ 3) ระบบจัดการองค์ความรู้ 4) อุปกรณ์ IT และ 5) บุคลากร
การประชุมครั้งนี้ ได้หารือเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงาน ICT เพื่อการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ตามยุทธศาสตร์ดังกล่าวใน 2 เรื่องแรก คือ
ยุทธศาสตร์ที่ 1 โครงสร้างพื้นฐาน โดยจะมีการบูรณาการโครงข่ายใหญ่ของกระทรวงศึกษาธิการที่มีอยู่ 2 โครงข่าย คือ MOENet และ UNINet ให้เป็นโครงข่ายเดียวที่ทุกหน่วยงานสามารถใช้งานร่วมกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประหยัดงบประมาณ โดยที่ประชุมได้มอบให้นายสุภัทร จำปาทอง รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง (CIO) กระทรวงศึกษาธิการ นำแนวทางดังกล่าวไปพิจารณาจัดทำแผนงานภายใน 3 เดือน แล้วนำเสนอต่อที่ประชุมพิจารณาต่อไป
ยุทธศาสตร์ที่ 2 ระบบข้อมูลสารสนเทศ ในปัจจุบันแต่ละหน่วยงานมีการจัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศอยู่แล้ว แต่ยังกระจัดกระจายและไม่มีความเชื่อมโยงกันทั้งภายในและภายนอกหน่วยงาน ที่ประชุมจึงเห็นว่าควรมีการจัดทำระบบฐานข้อมูลกลางของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งประกอบด้วย 4 ฐานข้อมูลหลัก ได้แก่ ฐานข้อมูลนักเรียนนักศึกษา ฐานข้อมูลสถานศึกษา ฐานข้อมูลครูและบุคลากรทางการศึกษา และฐานข้อมูลบุคลากรอื่น ซึ่งจะเป็นระบบฐานข้อมูลกลางด้านการศึกษาที่ทุกหน่วยงานจัดเก็บข้อมูลและสามารถใช้งานร่วมกันได้
โดยที่ประชุมมอบให้นายสุภัทร จำปาทอง CIO ของกระทรวงศึกษาธิการ ไปประชุมหารือกับทุกหน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อร่วมออกแบบและพัฒนาวิธีการเก็บข้อมูลทั้ง 4 ด้าน ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ทุกหน่วยงานสามารถใส่ข้อมูลเข้าไปในระบบได้ง่าย และทุกหน่วยงานตั้งแต่ระดับสถานศึกษาสามารถอัพเดตข้อมูลได้เอง โดยรายละเอียดของข้อมูลควรเน้นด้วยฐานข้อมูลเลขประจำตัว 13 หลัก เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงไปยังหน่วยงานอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นฐานข้อมูลประชาชน ฐานข้อมูลแรงงาน ฐานข้อมูลนักเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฐานข้อมูลกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เป็นต้น
ทั้งนี้ ขอให้ดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2559 เพื่อที่จะได้ทดลองร่วมกันทั้งระบบในเดือนสิงหาคม 2559 ในส่วนของงบประมาณดำเนินการ จะเน้นการใช้งบประมาณแบบบูรณาการจากปีงบประมาณ 2559
ขอบคุณเนื้อหาและที่มาของข่าวจาก : กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2558