พบรร.ขนาดเล็กเผชิญปัญหาลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
"ดาว์พงษ์" พอใจลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ 75% ยอมรับพบอุปสรรคใน รร.ขนาดเล็ก ต้องเติมเต็ม กำชับพาเด็กเรียนรู้นอก รร.ต้องปลอดภัย ย้ำให้ครูอดทน ไม่ยึดติดกับความคิดเก่าๆ เด็กจะวิเคราะห์ไม่เป็นพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังการรับฟังรายงานผลการติดตามการดำเนินโครงการ "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้" เพื่อติดตามความก้าวหน้าของทีม Smart Trainer ซึ่งเป็นศึกษานิเทศก์จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 225 เขต ว่าโครงการดังกล่าวเดินหน้ามาได้ 3 สัปดาห์แล้ว พบว่าเด็กเรียนอย่างมีความสุข และผู้ปกครองก็มีความสุขเช่นกัน ตนมีความพึงพอใจ 75% อีก 25% ที่เหลือยังต้องเติมเต็มส่วนที่เป็นปัญหาอุปสรรคเพื่อให้โครงการมีความสมบูรณ์ พบว่าบางโรงเรียนมีการจัดกิจกรรมนอกห้องเรียน ตนกำชับว่าการพาเด็กไปเรียนรู้นอกโรงเรียนจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย และในโรงเรียนขนาดเล็กที่มีอุปสรรคในการจัดกิจกรรม ต้องไปทบทวนว่าเราจะเสริมและเติมเต็มในจุดไหนได้บ้าง ส่วนประเด็นครูมีความกังวลเรื่องภาระงานจะเพิ่มขึ้น ขอให้ครูอดทนในช่วงของการเปลี่ยนผ่านเรื่องนี้ให้ได้ หากครูยังยึดติดกับความคิดแบบเก่าๆ เด็กจะไม่รู้จักการคิดวิเคราะห์อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ตนจะเรียกประชุมทีม Smart Trainer ทุกเดือน เพื่อสรุปภาพรวมการทำงานทั้งหมดในการขยายผลโครงการดังกล่าวให้ครอบคลุมโรงเรียนทั่วประเทศในปี 2559
ด้านนายจิรวัฒน์ รักพ่วง ทีม Smart Trainer กลุ่มประถมศึกษา จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ตาก เขต 1 กล่าวว่า ในภาพรวมของกลุ่มโรงเรียนประถมศึกษา โรงเรียนส่วนใหญ่มีความพร้อมในการจัดกิจกรรม สำหรับกลุ่มโรงเรียนขนาดกลางและขนาดเล็กที่จัดการเรียนการสอนด้วยระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม สามารถเริ่มกิจกรรมลดเวลาเรียนได้ตามนโยบาย คือช่วงเวลา 14.00 น.ได้ ขณะที่โรงเรียนขนาดใหญ่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา จึงต้องลดทอนเวลาลง เนื่องจากมีวิชาเรียนเยอะ ทำให้เริ่มกิจกรรมลดเวลาเรียนในเวลา 14.40-15.30 น. สำหรับกิจกรรมที่โรงเรียนแต่ละแห่งจัดขึ้นมีความยืดหยุ่นตามบริบทของแต่ละพื้นที่ ปรับกิจกรรมให้เกิดการบูรณการตามเป้าหมาย
นายจิรวัฒน์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้โรงเรียนบางแห่งยังจัดกิจกรรมภายนอกโรงเรียนด้วย เช่น การพาเด็กไปศึกษาความรู้ตามสถานที่ราชการ เป็นต้น สำหรับความพร้อมในการจัดกิจกรรมโรงเรียนขนาดเล็กยังมีข้อจำกัดเรื่องจำนวนครู อุปกรณ์การเรียนการ ทำให้ต้องขมวดการจัดกิจกรรมไว้ในหมวดเดียวกัน ส่วนโรงเรียนขนาดใหญ่และขนาดกลางมีความพร้อมในการจัดกิจกรรมค่อนข้างสูง เด็กสามารถเลือกกิจกรรมได้ตามความถนัดของตนเอง ทั้งนี้ ภาพรวมของการเดินหน้ากิจกรรมนี้ ช่วงแรกครูมีความสุขในการทำงาน แต่เมื่อโครงการเดินหน้ามาได้สักระยะหนึ่งเกิดความกังวลในภาระงานที่เพิ่มขึ้น ส่วนผู้ปกครองมีความสุข แต่กังวลว่าเมื่อเรียนวิชาหลักน้อยลง บุตรหลานของตนเองจะมีความรู้มากพอที่จะไปสอบแข่งขันหรือไม่.
ขอบคุณเนื้อหาและที่มาของข่าวจาก : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2558