ออมสินชงหักเงินฌาปนกิจ4แสนก่อนครูตาย
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ ก- ก+
"กำจร" เผยออมสินชงหักเงินฌาปนกิจครู 400,000 บาทก่อนตาย ใช้ประกันหนี้เสีย ชี้ครู 1.3 หมื่นคนกำลังจะถูกฟ้อง ด้าน ศธ.เตรียมปรับเกณฑ์ปล่อยกู้เงินทุนหมุนเวียนของ ก.ค.ศ.ให้ไปชำระหนี้ธนาคารเท่านั้นนพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) กล่าวภายหลังหารือร่วมกับนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และคณะเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาหนี้สินครู ว่า ธนาคารออมสินได้แจ้งข้อมูลครูที่ถูกยื่นโนติสและกำลังจะถูกฟ้องจำนวน 1.3 หมื่นคน ล่าสุดมีจำนวน 5 พันคนเข้ามาลงทะเบียนเพื่อร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารออมสิน และประมาณ 1.1 พันคนเข้าสู่กระบวนการชำระหนี้ตามระบบ และมีจำนวนหนึ่งชำระหนี้หมดแล้ว โดยยังเหลือผู้ที่ไม่มาติดต่ออีกประมาณ 7 พันคน หากครบกำหนดและไม่เข้ามาติดต่อทางธนาคาร ตนก็ขอให้ดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมาย ขณะเดียวกันทางธนาคารออมสินเสนอให้จากโครงการสวัสดิการเงินกู้ฌาปนกิจ
สงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ซึ่งครูจะได้รับหลังจากเสียชีวิตประมาณ 9 แสนบาท โดยธนาคารออมสินขอหักล่วงหน้าก่อนเสียชีวิตจำนวน 4 แสนบาท เพื่อเป็นการประกันหนี้เสีย แต่ทางธนาคารจะได้รับเงินจำนวนนี้หลังจากครูเสียชีวิตแล้วเท่านั้น ตรงนี้เป็นเพียงข้อเสนอ หากจะดำเนินการจริง ทางธนาคารออมสินต้องไปปรับแก้ระเบียบเพื่อให้สามารถดำเนินการได้
นพ.กำจรกล่าวต่อว่า ส่วนที่ ศธ.จะปรับหลักเกณฑ์การปล่อยกู้เงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่ให้ครูกู้เงินไปชำระหนี้รายละไม่เกิน 2 แสนบาท โดยไม่มีการกำหนดว่าเป็นหนี้สินประเภทใด ทำให้มีบางคนกู้ไปชำระหนี้บัตรเครดิต หรือหนี้สินอื่นๆ มาเป็นให้กู้ไปชำระหนี้ที่เกิดขึ้นกับธนาคารออมสินเท่านั้น เหมือนเป็นการรีไฟแนนซ์ ให้เงินต้นลดลง เพื่อดอกเบี้ยจะได้ลดลงด้วย ส่วนที่จะเสนอให้ธนาคารออมสินยกเลิกการคืนเงินให้กับกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. และเปลี่ยนมาเป็นลดดอกเบี้ยให้ผู้กู้แทนนั้น เป็นแนวทางหนึ่งที่จะเสนอ โดยตนขอดูการฟ้องร้องที่ธนาคารออมสินดำเนินการอยู่ก่อน ว่าทำให้ครูมาชำระหนี้ตามกติกาเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ เพราะเมื่อดำเนินการฟ้องร้องอย่างจริงจังทำให้มีผู้ติดต่อเข้าชำระหนี้มากขึ้น แต่ในอนาคตอยากให้คืนเงินตรงนี้ให้กับครูทุกคนมากกว่า.
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 24 พ.ย. 2558